แคดโบโรซอรัส หรือ
แคดโบโรซอรัส วิลซี่ (
อังกฤษ: Cadborosaurus, Cadborosaurus willsi;
ญี่ปุ่น: キャディ) เป็นชื่อเรียกของสิ่งที่เชื่อว่าเป็น
สิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่คล้าย
งูทะเลที่อาศัยอยู่ใน
ทะเลแถบ
แวนคูเวอร์และ
คาบสมุทรโอลิมปิกใน
แคนาดา และมีรายงานพบที่บริเวณใกล้เคียงกับ
ออริกอนและ
อะแลสกาโดยมีรายงานแรกเกี่ยวกับแคดโบโรซอรัส เมื่อวันที่
6 กรกฎาคม ค.ศ. 1734 ระหว่างเดินทางไป
เกาะกรีนแลนด์ของมิชชันนารีชาวนอร์เวย์ ฮานส์ เอดจ์ บันทึกว่า เขาได้พบเห็นงูทะเลที่น่ากลัวขนาดใหญ่ ชูคอขึ้นเหนือน้ำ จะงอยปากของมันแหลมยาว มันว่ายน้ำในวงกว้างและรายกายของมันก็ปกคลุมด้วยรอยเหี่ยวย่น เมื่อดำลงไปใต้น้ำมันก็ยกหางขึ้น โดยมีความยาวของลำตัวประมาณเท่ากับ
เรือที่เขาโดยสารนับตั้งแต่นั้นมา ก็มีรายงานการพบเห็นสิ่งมีชีวิตลึกลับคล้ายคลึงกันนี้อย่างต่อเนื่อง ในปี
ค.ศ. 1937 กัปตันฮักลันด์และลูกเรือได้ผ่าท้องของ
วาฬสเปิร์มขนาดใหญ่ และพบซากของสิ่งที่คล้ายกับ แคดโบโรซอรัส เขาได้ถ่ายรูปไว้ทั้งหมด 38 ภาพ และทำรายงานส่งไปยัง
พิพิธภัณฑ์ แต่ที่พิพิธภัณฑ์ ได้จำแนกว่ามันเป็นซากตัวอ่อนของ
วาฬบาลีน อย่างไรก็ตามมีการตั้งข้อสงสัยว่า ซากจริง ๆ อาจสูญหายไปก่อนการทำการตรวจสอบ โดยสงสัยว่าซากที่แท้จริงอาจถูกส่งไปที่แห่งใดสักแห่ง เพื่อปกปิดเกี่ยวกับเรื่องนี้
[1][2]อย่างไรก็ตาม นักชีววิทยาและ
ศาสตราจารย์ทางด้าน
สมุทรศาสตร์ เอ็ดเวิร์ด แอล. บอสฟิลด์ และ พอล เอช. เลบลอนด์ ได้อธิบายว่า แคดโบโรซอรัส เป็นงูทะเลขนาดใหญ่ที่มีผู้พบเห็นอาศัยอยู่ในทะเลแถบแวนคูเวอร์และคาบสมุทรโอลิมปิกในแคนาดา และมีรายงานพบที่บริเวณใกล้เคียงกับออริกอนและอะแลสกา รวมถึงตามแนวชายฝั่งของอ่าวไอซ์แลนด์ โดยมี
ชื่อเล่นเรียกกันสำหรับคนในท้องที่ว่า
"แคดดี" (Caddy) มีผู้พบเห็นนับร้อยตลอดระยะเวลาหลายร้อยปี ลักษณะคล้ายกับ
สัตว์ประหลาดลอคเนสส์ ใน
สก็อตแลนด์ ตัวมีความยาวเหมือนงูทะเลขนาดใหญ่ความยาวกว่า 100 ฟุต หัวของมันคล้ายกับสัตว์ประเภท
ม้า,
แกะ หรือ
อูฐที่ยืดออกมาเล็กน้อย คอมีความยาวเกือบหนึ่งในสามของความยาวลำตัว มีครีบคู่หน้าหนึ่งคู่ มีความเร็วในการว่ายน้ำและความยืดหยุ่นตัวสูง หางมีลักษณะแผ่ยาว สีของแคดโบโรซอรัส เป็นลักษณะสีเขียวเข้มไปจนถึงสีน้ำตาลหรือสีเทา ตาอยู่บนหัวที่มีขนาดใหญ่ และเชื่อว่าแคดโบโรซอรัสสามารถหายใจใต้น้ำได้โดยอวัยวะพิเศษนับล้านหน่วยที่ฝังอยู่ใต้ผิวหนัง ซึ่งไม่เหมือนกับสัตว์อื่นใดในโลก
[1]ซึ่งที่มาของชื่อ แคดดี นั้นมาจากสถานที่ที่พบเห็นคือ
อ่าวแคดโบโร วิกตอเรีย ใน
บริติชโคลัมเบีย ของแคนาดา
[3][1]ที่
อ่าวซานฟรานซิสโก มีผู้พบเห็นงูทะเลยักษ์ตัวมหึมาชื่อว่า "แฟรนนี" (Frannie) ในปี ค.ศ. 1983 พยานทั้งหมด 5 คน เป็นคนงานก่อสร้างถนนที่ทำงานบนถนนทางตอนเหนือของซานฟรานซิสโก แล้วคนโบกสัญญาณก็แจ้งเตือนภัยด้วยเห็นสิ่งบางอย่างขนาดใหญ่เคลื่อนที่ด้วยความเร็วทำให้น้ำกระเพื่อมออก ผู้ควบคุมงานได้รับแจ้งจึงออกไปดู เห็นเป็นสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่มีโหนกหลังสามแห่ง แต่ไม่เห็นส่วนท้ายหรือหางของมัน ส่วนหัวยากจะอธิบาย แต่ดูแล้วดุร้าย อีกทั้งยังมีพี่น้องฝาแฝด บิลล์ กับ บ็อบ คลาร์ก ที่อ้างว่าพบเห็นสัตว์ประหลาดในวันหนึ่งของฤดูหนาว ปี ค.ศ. 1985 ขณะที่ทั้งคู่จอดรถจิบกาแฟพร้อมกับกินโดนัทไปด้วยที่
สะพานโกลเดนเกต ก่อนออกไปทำงานในตอนเช้า ทั้งคู่เห็นฝูง
แมวน้ำถูกโจมตีด้วยงูทะเลขนาดใหญ่ที่ขึ้นมาจากน้ำ มีส่วนหัวโผล่ขึ้นมาเหมือนไดโนเสาร์ในยุคก่อนประวัติศาสตร์ และด้านหลังมีขดม้วนสี่ขด หัวของมันหันมองไปมารอบ ๆ เหมือนกำลังมองหาแมวน้ำอยู่ หลังจากนั้นเมื่อห่างออกไปไม่กี่ฟุต มันก็ชูคอขึ้นเหมือนเสาโทรศัพท์แล้วก็กระโดดขึ้นสู่อากาศ ร่างตกกระทบน้ำเสียงดังตูม ทำให้น้ำกระเซ็น และคลายเกลียวตรงคอ ทั้งคู่ซึ่งนั่งอยู่ในรถตื่นเต้นและกลัวมาก และตั้งแต่พบเห็นครั้งนั้นทั้งคู่ก็ไปที่อ่าวซานฟรานซิสโกมากครั้งขึ้น และอ้างว่าพบเห็นอีก 8 ครั้ง ระหว่างปี ค.ศ. 1985–87 และในครั้งท้าย ๆ ยังพบเห็นตัวลูกของมันด้วย และมันยังคำรามส่งเสียงขู่ "แฮ่ แฮ่" ใส่พวกเขา แต่หลังจากนั้นครั้งนั้นก็ไม่พบเห็นอีกเลยเป็นเวลานาน 17 ปี จนกระทั่งในเดือนมกราคม ค.ศ. 2004 พวกเขาใช้กล้องวิดีโอยุคใหม่ขณะสำรวจรอบ
เกาะอัลคาทราซ ก็ถ่ายภาพเคลื่อนไหวได้ โดยเชื่อว่าเป็นงูทะเลยักษ์เคลื่อนไหว
[1]ในปี
ค.ศ. 2009 ชาวประมงชื่อ แนช เคลลี ได้บันทึก
ภาพเคลื่อนไหวได้ของสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ได้ใน
อ่าวนูชาเกช อะแลสกา เขาคิดว่าส่วนหัวของมันมีขนาดใหญ่และซ่อนอยู่ไว้ใต้น้ำโดยคอที่มีขนาดใหญ่และมีความยาวมาก และคิดว่ามันได้ย้ายไปสู่
ทะเลสาบอิลลิมนาแล้ว จากนั้นในปี
ค.ศ. 2011 ภาพเคลื่อนไหวชุดนี้ได้แพร่ออกอากาศครั้งแรกโดย
สถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่งในเครือข่ายของ
ดิสคัฟเวอรี่ แชนแนล โดยพี่น้องตระกูลฮิลสตราดได้พยายามจะจับมันแต่ก็ล้มเหลว
[4]