ข้ออ้างของผู้มีแนวคิดปฏิเสธเอดส์ ของ แนวคิดปฏิเสธเอดส์

ดูเพิ่มเติมที่: สมมติฐานดูสเบิร์ก

แม้สมาชิกชุมชนผู้มีแนวคิดปฏิเสธเอดส์จะรวมตัวกันด้วยความเข้าใจร่วมกันคือการไม่เห็นด้วยว่าเอชไอวีเป็นสาเหตุของโรคเอดส์ รายละเอียดของแนวคิดก็มีความแตกต่างกันอยู่มาก ผู้มีแนวปฏิเสธปฏิเสธจะอ้างข้อมูลหลายอย่าง เช่น เอชไอวีไม่มีจริง เอชไอวีไม่เคยได้รับการเพาะเชื้ออย่างเหมาะสม[21] เอชไอวีไม่เป็นไปตามสมมติฐานของโคช[22] การตรวจเอชไอวีไม่มีความแม่นยำ[23] และแอนติบอดีต่อเอชไอวีสามารถป้องกันไวรัสไม่ให้เป็นอันตรายต่อร่างกายได้[24] สาเหตุอื่นของโรคเอดส์ที่มีการเสนอไว้มีหลายอย่างเช่น การใช้ยาเสพติด ภาวะทุพโภชนาการ รวมถึงตัวยาต้านไวรัสที่ใช้รักษาโรคเองด้วย[25]

ข้ออ้างเช่นนี้ได้รับการตรวจสอบอย่างละเอียดแล้วในบทความทางวิทยาศาสตร์และการแพทย์ชนิดที่มีการตรวจสอบโดยผู้เสมอกัน เกิดเป็นข้อสรุปทางวิทยาศาสตร์ที่ล้มล้างข้ออ้างของแนวคิดนี้อย่างชัดเจน และเชื้อเอชไอวีเป็นสาเหตุของเอดส์จริงๆ[3][26][27] สำหรับกรณีที่ดูสเบิร์กอ้างอิงว่ายังไม่สามารถ "แยก" เชื้อเอชไอวีออกมาได้นั้น การทำปฏิกิริยาลูกโซ่พอลิเมอเรส (PCR) หรือเทคนิกอื่นๆ สามารถแสดงให้เห็นการมีอยู่ของเชื้อไวรัสได้[28] และคำอ้างของแนวคิดปฏิเสธที่ว่าการตรวจเอชไอวีไม่มีความแม่นยำนั้นมาจากความเข้าใจที่ผิดหรือไม่เป็นปัจจุบันเกี่ยวกับวิธีการตรวจแอนติบอดีต่อเอชไอวีและการแปลผล[29][30] ส่วนเรื่องของ Koch's postulate นั้น วารสาร New Scientist กล่าวว่า "ควรมีการถกเถียงตั้งแต่ความเหมาะสมของการมุ่งเอาหลักการที่คิดขึ้นสำหรับพิจารณาการติดเชื้อแบคทีเรียตั้งแต่ศตวรรษที่ยังไม่มีการค้นพบไวรัสมาใช้ในการนี้ อย่างไรก็ดี เชื้อ HIV นั้นเป็นไปตาม Koch's postulate ทุกประการ ตราบเท่าที่ไม่มีการนำหลักการนั้นไปใช้อย่างบิดเบือนจนไม่เหลือความเป็นเหตุเป็นผล" บทความเดียวกันนี้ได้อธิบายไว้ชัดเจนว่าเชื้อ HIV ตรงตาม postulate แต่ละข้ออย่างไร[31]

ในช่วงแรกนั้นผู้มีแนวคิดปฏิเสธยกคำอ้างขึ้นว่าแนวคิดเรื่อง HIV/AIDS มีจุดอ่อนตรงที่ไม่สามารถสร้างวิธีการรักษาที่ได้ผลดีตามแนวคิดนี้ได้ อย่างไรก็ดี หลังจากมีการนำการรักษาด้วยยาต้านรีโทรไวรัสแบบได้ผลสูง (HAART) มาใช้ในช่วงกลางทศวรรษ 1990 แล้วผลปรากฏว่าจำนวนผู้รอดชีวิตจากการป่วยติดเชื้อ HIV/AIDS เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนก็ทำให้คำอ้างนี้ตกไป เพราะวิธีการรักษานี้พัฒนามาจากแนวคิดว่าด้วย HIV/AIDS โดยตรง[32] การพัฒนาการรักษา AIDS ด้วยยาต้าน HIV ที่ได้ผลดีนี้เป็นปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งที่ทำให้นักวิทยาศาสตร์ที่เคยมีแนวคิดปฏิเสธหลายคนยอมรับว่า HIV เป็นสาเหตุของ AIDS[16]

ในบทความปี ค.ศ. 2010 ว่าด้วยทฤษฎีสมคบคิดทางวิทยาศาสตร์ Ted Goertzel ได้ลงรายชื่อของผู้มีแนวคิดปฏิเสธเอดส์เอาไว้เป็นตัวอย่างของการที่ผลการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ถูกปฏิเสธด้วยแนวคิดที่ไม่มีเหตุผล เขากล่าวว่าผู้ค้านทั้งหลายอาศัยแต่เพียงข้ออ้างที่เรียกร้องความเท่าเทียม และสิทธิในการเสนอความคิดเห็น มากกว่าที่จะเสนอหลักฐานโต้แย้ง ผู้คัดค้านเหล่านี้มักยกเอาเรื่องราวของนักวิทยาศาสตร์อิสระผู้กล้าหาญต่อต้านกระแสความคิดหลักดั้งเดิม โดยยกชื่อนักดาราศาสตร์และนักฟิสิกส์ชื่อดังในอดีตอย่างกาลิเลโอขึ้นมาเปรียบเทียบ[33] Goertzel กล่าวถึงการยกเปรียบเทียบนี้เอาไว้ว่า

...การมีแนวคิดต่อต่อต้านความคิดดั้งเดิมนั้นไม่ใช่เรื่องยาก ส่วนที่ยากคือการหาทฤษฎีที่ดีกว่ามาเสนอแทนแนวคิดเก่า การตีพิมพ์ทฤษฎีใหม่ที่คัดค้านทฤษฎีเดิมนั้นจะมีความสำคัญก็ต่อเมื่อมีหลักฐานที่น่าเชื่อถือมารองรับ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าต้องให้คนอ่านใช้เวลาเท่ากันมาวิจารณ์ทฤษฎีที่คัดค้านทฤษฎีเก่าๆ ทุกทฤษฎี[34][33]

ใกล้เคียง

แนวคิดวิวัฒนาการเกี่ยวกับความซึมเศร้า แนวคิดปฏิเสธเอดส์ แนวคิดเกี่ยวกับถิ่นกำเนิดของชนชาติไท แนวคิดหลังยุคนวนิยม แนวคิดว่าด้วยกัมพูชาในช่วงการปฏิวัติขอม แนวคิดดวงอาทิตย์เป็นศูนย์กลาง แนวคิดโลกเป็นศูนย์กลาง แนวคิดโฮจิมินห์ แนวคิดไกสอน พมวิหาน แนวคิดที่ตรงกันข้ามกับประชาธิปไตย

แหล่งที่มา

WikiPedia: แนวคิดปฏิเสธเอดส์ http://books.google.ca/books?id=_mtDBCDwxugC&pg=PA... http://www.aegis.com/topics/aids_debate.html http://bmj.bmjjournals.com/cgi/content/full/324/73... http://www.healtoronto.com/10reasons.html http://mobile.latimes.com/inf/infomo?view=page7&fe... http://www.latimes.com/news/local/la-me-christine-... http://www.nature.com/nature/journal/v406/n6791/fu... http://www.newscientist.com/article/dn17326-five-m... http://www.newscientist.com/article/mg20227131.500... http://www.nytimes.com/2008/11/26/world/africa/26a...