ประวัติ ของ แบล็กอายด์พีส์

ปี 1989 วิลเลียม อดัมส์ หรือ วิล.ไอ.แอม (William Adams / will.i.am) และอัลเลน พิเนดา หรือ แอพเพิล.ดี.แอป (Allen Pineda / apl.de.ap) รู้จักกันและเริ่มร้องเพลงแร็ปออกโชว์ด้วยกันในลอสแอนเจลิส ทั้งคู่เซ็นสัญญากับค่ายรูธเลส (Ruthless Records) ที่บริหารงานโดยอีซี-อี (Eazy-E) โดยใช้ชื่อวงว่า แอทบัน คลานน์ (Atban Klann)[3] แต่อัลบั้มแรกของพวกเขาไม่ได้ออก เพราะทางค่ายเพลงไม่คิดว่าการสื่อความหมายในแนวบวกของเพลงในอัลบั้มนี้จะได้รับความนิยม

ปี 1995 Eazy-E เสียชีวิตด้วยโรคเอดส์ วง Atban Klann ก็กลับมาทำงานร่วมกันอีกครั้งภายใต้ชื่อวงแบล็กอายด์พีส์ (Black Eyed Peas) โดย will.i.am ได้ให้เหตุผลบนปกของอัลบั้ม มังกีบิสซิเนส (Monkey Business) ถึงการตั้งชื่อวงนี้ว่า "เป็นอาหารสำหรับจิตใจ" พวกเขาพาไฮเม โกเมซ หรือ ทาบู (Jaime Gomez / Taboo) เข้ามาเป็นสมาชิกคนที่สามและมีคิม ฮิลล์ (Kim Hill) เป็นนักร้องแบ็คอัพให้ แบล็กอายด์พีส์ไม่เหมือนกับวงฮิปฮอปทั่ว ๆ ไป เพราะพวกเขาเลือกที่จะแสดงสดและใช้เครื่องดนตรี รวมทั้งสไตล์การแต่งตัวก็ต่างจากศิลปินแร็ปแก็งสเตอร์อื่น ๆ ในแถบลอสแอนเจลิสในสมัยนั้น

ในช่วงกลางทศวรรษที่ 90 พวกเขาแสดงในคลับย่านลอสแอนเจลิสและมีแขกรับเชิญเช่น ชาลี 2น่า (Chali 2na) และจูราสสิค 5 (Jurassic 5) หลังจากเซ็นสัญญากับค่ายอินเตอร์สโคป (Interscope Records) และออกอัลบั้มแรกชื่อ บีไฮด์เดอะฟรอนต์ (Behind the Front) ในปี 1998 ทางวงก็ได้รับการต้อนรับอย่างดี เพลงฮิตได้แก่ Joints and Jam ซึ่งได้ประกอบภาพยนตร์เรื่อง Bulworth ด้วย ส่วนอัลบั้มที่สองออกในปี 2000 ชื่อ บริดจิงเดอะแก็ป (Bridging the Gap) มีเพลงฮิตอย่าง Request + Line ที่ได้เมซี่ เกรย์ (Macy Gray) มาร่วมร้อง

แบล็กอายด์พีส์ประสบความสำเร็จสูงสุด ในปี 2003 กับอัลบั้มที่สาม เอเลฟังก์ (Elephunk) ด้วยสถิติยอดจำหน่ายสูงกว่า 2 ล้านแผ่นทั่วโลก มีเพลงฮิตคือ Where is the Love?, Hey Mama, Let’s Get Retarded และ Shut Up ต่อมาดันเต ซานติเอโก อดีตสมาชิกวงแนะนำสเตซี แอน เฟอร์กูสัน หรือ เฟอร์กี้ (Stacy Ann "Fergie" Ferguson / Fergie) เข้ามาเป็นนักร้องหญิงในวง ในปี 2005 แบล็กอายด์พีส์ออกอัลบั้มที่สี่ชื่อ มังกีบิสซิเนส (Monkey Business) มีเพลงฮิตอย่าง My Humps, Feel It และ Disco Club

ในปี 2006 แบล็กอายด์พีส์ได้ร้องเพลงให้กับงานฟุตบอลโลก 2006 ซึ่งทำร่วมกับไบรอัน อีโน โปรดิวเซอร์ชาวอังกฤษ ซึ่งเคยโปรดิวซ์เพลงให้วง U2 และเดวิด โบอี ต่อมาทางวงได้ออกอีพีรวมเพลงมิกซ์ชื่อ Renegotiations: the Remixes เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2006 โดยเป็นการนำเพลงส่วนใหญ่ในอัลบั้ม มังกีบิสซิเนส มาเรียบเรียงใหม่

วงแบล็กอายด์พีส์ได้ก่อตั้งมูลนิธิ The Pea Pod Foundation เพื่อช่วยเหลือเด็ก ๆ ทั่วโลก ซึ่งมูลนิธินี้ดำเนินงานผ่าน The Entertainment Industry Foundation โดยเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2006 มีการจัดคอนเสิร์ตขึ้นในฮอลลีวูด รัฐแคลิฟอร์เนีย เพื่อหารายได้ให้กับมูลนิธิ ซึ่งแบล็กอายด์พีส์ก็ได้ขึ้นแสดงร่วมกับ เซร์ชีอู เมงจิส, เจสซิกา ซิมป์สันและดาราอื่น ๆ อีกมากมาย

ปี 2009 แบล็กอายด์พีส์ออกอัลบั้มที่ห้า ดิอี.เอ็น.ดี. (The E.N.D.) ซึ่งมีลักษณะเป็นดนตรีอิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น อัลบั้มนี้มีซิงเกิลนำอย่าง Boom Boom Pow, I Gotta Feeling และ Meet Me Halfway ปีต่อมาวงออกอัลบั้มที่หก เดอะบิกินนิง (The Beginning) ในปี ค.ศ. 2018 แบล็กอายด์พีส์ออกอัลบั้มที่เจ็ด มาสเตอส์ออกเดอะซัน วอลุม 1 (Masters of the Sun Vol. 1) โดยมีเจ เรย์ โซลทำหน้าที่ร้องนำแทนเฟอร์กี้ที่ออกจากวง[4] ต่อมาแบล็กอายด์พีส์ออกอัลบั้มที่แปด ทรานสเลชัน (Translation) ในปี ค.ศ. 2020[5]

แหล่งที่มา

WikiPedia: แบล็กอายด์พีส์ http://www.allmusic.com/artist/black-eyed-peas-p30... http://www.billboard.com/artist/385091/black-eyed-... http://blackeyedpeas.com http://www.blackeyedpeas.com/ http://www.musiclifecoach.com/success-in-music/why... http://d-nb.info/gnd/320452603 http://www.peapodfoundation.org/ https://www.billboard.com/articles/columns/pop/938... https://www.nme.com/news/music/black-eyed-peas-ann... https://viaf.org/viaf/134824296