ภูมิศาสตร์และนิเวศวิทยา ของ แม่น้ำเซนต์จอนส์

ลุ่มน้ำตอนบน

ลุ่มน้ำตอนบนอยู่ในบริเวณต้นน้ำของแม่น้ำเซนต์จอนส์ ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 2,000 ตารางไมล์ (5,200 ตารางกิโลเมตร) โดยมีความยาวของสายน้ำผ่านบริเวณลุ่มน้ำตอนบนนี้ประมาณ 75 ไมล์ (121 กิโลเมตร).[ต้องการอ้างอิง] มีช่วงที่แม่น้ำมีความแคบที่สุดอยู่ในบริเวณลุ่มน้ำนี้ และเต็มไปด้วยทะเลสาบมากถึง 3,500 แห่ง ซึ่งมักเป็นทะเลสาบที่มีความลึกไม่มากนัก ประมาณ 3 ถึง 10 ฟุต (1 ถึง 3 เมตร)[6][7] ทะเลสาบที่อยู่ในบริเวณนี้ เช่น ทะเลสาบเฮลแอนด์เบลซเซส (Lake Hell 'n Blazes) ทะเลสาบวอร์ชิงตัน (Lakes Washington) ทะเลสาบไวน์เดอร์ (Winder) และ ทะเลสาบพอยน์เซท(Poinsett)

Cypress trees in the Tosohatchee Wildlife Management Area showing dark water marks on the flared trunks, evidence of water level flux

ลุ่มน้ำตอนกลาง

The St. Johns immediately south of Sanford shows a narrow channel with large areas of aquatic plants and wetlands.

ลุ่มน้ำตอนกลางมีพื้นที่ประมาณ 1,200-ตารางไมล์ (3,100-ตารางกิโลเมตร) โดยแม่น้ำเซนต์จอนส์ที่ไหลผ่านบริเวณนี้มีช่วงความยาว 37 ไมล์ (60 กิโลเมตร) มีประชากรอาศัยประมาณ 2 ล้านคน และมีแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญหลายแห่งในบริเวณนี้ ทะเลสาบขนาดใหญ่ 2 แห่ง คือ ทะเลสายฮาร์นี่ (Lake Harney) ซึ่งมีขนาด 9-ตารางไมล์ (23-ตารางกิโลเมตร) และทะเลสาบมอนโร (Lake Monroe) ขนาด 15 ไมล์2 (39 กม2) ก็อยู่ในบริเวณนี้ด้วย

ลุ่มน้ำตอนล่าง

บริเวณลุ่มน้ำตอนล่างของแม่น้ำเซนต์จอนส์มีพื้นที่ประมาณ 2,600 ตารางไมล์ (6,700 ตารางกิโลเมตร) โดยมีสายน้ำยาวถึง 101 ไมล์ (163 กิโลเมตร) ไหลผ่านบริเวณนี้ลงสู่มหาสมุทรแอทแลนติก (the Atlantic Ocean) เมืองที่ตั้งอยู่ในแถบลุ่มน้ำตอนล่างนี้ส่วนมากเป็นเมืองเก่าในรัฐฟลอริดาโดยมีประวัติศาสตร์ความเป็นมาคู่กับสายน้ำแห่งนี้ เช่น เมือง Palatka และเมือง Green Cove Springs ก็เคยเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงและเป็นที่นิยมในอดีต ซึ่งเสื่อมถอยความนิยมลงหลังจากมีการก่อสร้างทางรถไฟและทางหลวงอินเตอร์สเตตเลียบชายฝั่งแอทแลนติกขึ้น[8]

ช่วง 35 ไมล์ (56 กิโลเมตร) สุดท้ายของแม่น้ำเซนต์จอนส์ไหลผ่านเมืองแจ็คสันวิลล์ (Jacksonville) ซึ่งเป็นเมืองที่มีขนาดพื้นที่ใหญ่ที่สุดในรัฐฟลอริดา ในปี พ.ศ. 2550 เป็นเมืองที่มีจำนวนประชากรมากเป็นอันดับที่ 12 ของประเทศ คือประมาณ 805,605 คน [9] เมืองนี้ก็อาศัยแม่น้ำเซนต์จอนส์เป็นปัจจัยทางเศรษฐกิจที่สำคัญของเมือง เช้น ในด้านระบบการขนส่งสินค้าต่างๆ โดยมีสินค้ามากถึง 18,000,000 short ton (16,000,000 t) ผ่านเข้าออกเมืองในแต่ละปี ท่าเรือที่เมืองแจ็คสันวิลล์สร้างความเจริญทางเศาษฐกิจถึง 1.38 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และสร้างงานแก่ประชากรถึง 10,000 ตำแหน่ง[10]

Downtown Jacksonville's commercial district on the St. Johns River

แหล่งที่มา

WikiPedia: แม่น้ำเซนต์จอนส์ http://www.jaxdailyrecord.com/showstory.php?Story_... http://www.epa.gov/rivers/plan/stjohn1.pdf http://www.epa.gov/rivers/plan/stjohn2.pdf http://www.protectingourwater.org/ http://www.protectingourwater.org/watersheds/map/l... http://www.protectingourwater.org/watersheds/map/m... http://www.protectingourwater.org/watersheds/map/u... http://www.stjohnsriverkeeper.org/ http://www.dep.state.fl.us/gwt/cfg/pdf/History_Rep... http://sjr.state.fl.us/