การตลาดและการแจกจำหน่าย ของ โคโรนาแว็ก

บราซิล

ในวันที่ 23 กันยายน ผู้ว่าการรัฐเซาเปาลูระบุว่า ไซโนแว็กตกลงจะจำหน่ายวัคซีนให้กับรัฐ 60 ล้านโดสเพื่อส่งภายในปลายเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งพอฉีดให้กับประชากรของรัฐทั้งหมด[31]โดยได้เซ็นสัญญามูลค่า 90 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 2,800 ล้านบาท) สำหรับวัคซีนเบื้องต้น 46 ล้านโดส และมีสัญญาทางคำพูดเกี่ยวกับวัคซีน 14 ล้านโดสที่เหลือ[32]แต่ในวันที่ 21 ตุลาคม ประธานาธิบดีบราซิล คือ ฌาอีร์ โบลโซนารู ก็ระบุว่า รัฐบาลจะไม่ซื้อโคโรนาแว็กเพราะเป็นของจีน โดยค้านคำพูดของรัฐมนตรีสาธารณสุขเองที่กล่าวในวันก่อนว่า จะใช้วัคซีนในโปรแกรมฉีดวัคซีนของประเทศ[33]ในวันที่ 23 ตุลาคม Anvisa ก็ได้อนุญาตให้สถาบันวิจัยนำเข้าวัคซีน 6 ล้านโดสโดยผู้ว่าการของรัฐเล่าว่า Anvisa บอกให้เขาอย่ายอมแพ้เพราะความกดดันทางการเมืองในเรื่องการให้อนุมัติวัคซีนโควิด-19[34]

ในวันที่ 14 ธันวาคม 2020 สำนักงานควบคุมสาธารณสุขบราซิล (Brazilian Health Regulatory Agency, Anvisa) แจ้งว่า เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของจีนไม่โปร่งใสในการอนุมัติให้ใช้วัคซีนโคโรนาแว็กเป็นการฉุกเฉิน[35]โดยกล่าวว่า เจ้าหน้าที่ไม่ได้ระบุกฎเกณฑ์ของการให้อนุมัติในจีนเมื่อเดือนมิถุนายน 2020สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า แม้เจ้าหน้าที่ควบคุมทางสาธารณสุขปกติจะไม่ตัดสินใจเพราะความกดดันทางการเมือง แต่ประธานาธิบดีฌาอีร์ โบลโซนารู ก็ได้ให้ตำแหน่งต่าง ๆ กับพวกพ้องในไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ทำให้บุคลากรทางแพทย์เริ่มกลัวว่า อาจตัดสินใจด้วยเหตุผลทางการเมือง[36]

ในวันที่ 14 ธันวาคม รัฐเซาเปาลูได้เริ่มกดดัน Anvisa ให้อนุมัติวัคซีนนี้เพราะตนมั่นใจว่าวัคซีนโคโรนาแว็กมีประสิทธิภาพสูงถ้าทำไม่ได้ ก็กำลังพิจารณาการฟ้องศาลซึ่งเท่ากับนำ "สงครามวัคซีน" ระหว่างประธานาธิบดีบราซิลกับผู้ว่าการรัฐไปยังศาลสูงสุดรัฐจะรอจนถึงวันที่ 23 ธันวาคมก่อนให้ข้อมูลเต็มแก่ทั้ง Anvisa และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขของจีน (China's National Administration of Medical Products)แม้ตอนแรกตั้งใจจะตีพิมพ์ผลการวิเคราะห์ในระหว่างการทดลอง (interim) ของวัคซีนนี้ในวันที่ 15 ธันวาคม[37]

นอกจากจะรายงานคำแถลงการณ์ของ Anvisa ในวันที่ 14 ธันวาคมแล้ว รอยเตอร์สยังให้ข้อสังเกตว่า จีนไม่ได้ตีพิมพ์รายละเอียดการตัดสินใจให้ใช้วัคซีนเป็นการฉุกเฉินกระทรวงสาธารณสุขของจีน (National Health Commission) ก็ไม่ตอบสนองต่อการขอความเห็นและผู้แทนของบริษัทไซโนแว็กก็ปฏิเสธการให้ความเห็น แต่ชี้ไปที่การแถลงข่าวในเดือนตุลาคมซึ่งเจ้าหน้าที่ทางสาธารณสุขจีนผู้หนึ่งกล่าวว่า การให้วัคซีนฉุกเฉินได้เริ่มทำหลังจากได้ทบทวนข้อมูลอย่างเคร่งครัด โดยเป็นไปตามกฎควบคุมของจีนและองค์การอนามัยโลก[36]

ในวันที่ 16 ธันวาคม ผู้ว่าการของรัฐปีเอาอี (Wellington Dias) แจ้งว่า รัฐมนตรีสาธารณสุขของรัฐบาลกลางบอกเขาว่า รัฐบาลกลางจะซื้อวัคซีนโคโรนาแว็กเป็นจำนวน 46 ล้านโดส[38]

ราคาของวัคซีนโคโรนาแว็กที่ประกาศคือ 10.3 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 323 บาท) ต่อโดส[39]นักการเมืองและนักวิจัยคณะหนึ่งเป็นพยานรับวัคซีน 120,000 โดสในวันที่ 19 พฤศจิกายน ณ ท่าอากาศยานนานาชาติเซาเปาลู โดยอีก 46 ล้านโดสจะมาถึงเดือนมกราคม[40]โดยสถาบันวิจัยก็ได้รับอีก 1 ล้านโดสเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม[41]

ชิลี

ในเดือนตุลาคม บริษัทได้ตกลงกับรัฐมนตรีสาธารณสุขของชิลีเพื่อส่งวัคซีนโคโรนาแว็กเป็นจำนวน 20 ล้านโดสโดยยังต้องได้อนุมัติจากองค์กรที่มีอำนาจ เช่น สถาบันสาธารณสุขแห่งชาติชิลี (Public Health Institute of Chile) หรือสำนักงาน ANVISA ในบราซิลและรัฐบาลประเทศชิลีก็หวังว่า ANVISA จะอนุมัติวัคซีนในเร็ว ๆ นี้เพื่อให้ใช้ในชิลีได้[42]

จีน

ในปลายเดือนสิงหาคม โคโรนาแว็กได้อนุมัติให้ใช้เป็นการฉุกเฉินโดยเป็นส่วนโปรแกรมของจีนเพื่อให้วัคซีนกับกลุ่มเสี่ยง เช่น บุคลากรทางแพทย์[43]ในเดือนตุลาคม เมือง Jiaxing ในมณฑลเจ้อเจียงได้เริ่มให้วัคซีนโคโรนาแว็กกับผู้ทำการจำเป็นและกลุ่มเสี่ยงอื่น ๆ โดยคิดค่าใช้จ่าย 200 หยวน (ประมาณ 932 บาท) ต่อโดสโดยแต่ละคนต้องได้สองโดส[44]

ฮ่องกง

ในเดือนธันวาคม ฮ่องกงได้สั่งวัคซีนโคโรนาแว็กจำนวน 7.5 ล้านโดส (ประชากรประมาณ 7.5 ล้าน)[45]โดยล้านโดสแรกจะมาถึงเดือนมกราคม[46]

อินโดนีเซีย

รัฐมนตรีการต่างประเทศอินโดนีเซียระบุว่า ได้ตกลงกับบริษัทให้ส่งวัคซีน 50 ล้านโดสระหว่างเดือนพฤศจิกายนจนถึงมีนาคม 2021[47]ซึ่งภายหลังได้อัปเดตเพิ่มขึ้นเป็น 140 ล้านโดส[48]โดยจะมีราคา 200,000 รูปียะฮ์ (ประมาณ 425 บาท) ต่อโดสเมื่อได้ (แต่ละคนต้องได้สองโดส)[49]ตามประธานาธิบดีอินโดนีเซียโจโก วีโดโด วัคซีน 1.2 ล้านโดสแรกได้ส่งมาถึงในวันที่ 6 ธันวาคมเมื่อรัฐบาลกำลังเริ่มให้วัคซีนทั่วไปแก่ประชาชนอินโดนีเซียยังคาดว่าจะได้วัตถุดิบเพื่อผลิตวัคซีนอีก 15 ล้านโดสในเดือนธันวาคมและอีก 30 ล้านโดสในเดือนมกราคม[50]

ฟิลิปปินส์

ในวันที่ 25 ประเทศฟิลิปปินส์ประกาศว่าจะซื้อวัคซีนโคโรนาแว็กอาจถึง 50 ล้านโดส[51]

ตุรกี

ในเดือนพฤศจิกายน รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขตุรกีได้เซ็นสัญญาให้ส่งวัคซีนโคโรนาแว็ก 50 ล้านโดส (ประชากรประมาณ 82 ล้านคน) ระหว่างเดือนธันวาคมจนถึงกุมภาพันธ์[52]วัคซีนจำนวน 3 ล้านโดสแรกก็จะมาถึงปลายเดือนธันวาคมโดยรัฐจะเริ่มรณรงค์ให้วัคซีนที่ปลายเดือนหรือต้นเดือนมกราคม 2021[53]