โจรในประวัติศาสตร์ ของ โจรกรรม

โจรที่มีชื่อเสียงสำคัญในประวัติศาสตร์ไทยได้แก่

  • โจรอีสาน - กบฏผีบุญ ตัวอย่างเช่น กบฏข่า เมืองเชียงขวาง พ.ศ. 2417 ซึ่งข่าแจะเจืองอ้างตัวเป็นท้าวธรรมิกราชและกองทัพสยามปราบได้ ต่อมาใน พ.ศ. 2442 สยามประกาศให้คนไทยและคนลาวในมณฑลอีสานถือสัญชาติไทย ทำให้คนลาวจำนวนหนึ่งต่อต้านโดยอ้างตัวว่าเป็นท้าวธรรมิกราชผู้มีบุญมาปราบสยาม ซ่องสุมผู้คนต่อต้านกรุงเทพฯ ผีบุญที่มีชื่อเสียงในสมัยนั้น มีองค์ผ้าขาว องค์มั่น นายเข็มองค์เหล็ก องค์ลิ้นก่า องค์พรหมา องค์เขียว และกำนันสุ้ยบ้านสร้างมั่ง พระครูอินทร์วัดบ้านหนองอีตุ้ม และหลวงประชุมเมืองอำนาจเจริญ สุดท้ายผีบุญเหล่านี้ถูกร้อยเอกหลวงชิดสรการปราบปรามสำเร็จ[11]
  • โจรใต้ ในท้องถิ่นภาคใต้ถือว่าการปล้นสะดมเป็นอาชีพหนึ่ง ทำให้ทางปักษ์ใต้มีปัญหาโจรปล้นสะดมทั้งโจรทางบกและโจรสลัด เช่น ตนกูหมัดสะอาดและตนกูอับดุลลาห์ หัวหน้าโจรสลัดของแหลมมลายูเข้าปล้นสะดมเมืองตรังในช่วง พ.ศ. 2354 - 2381 [11]
  • โจรเมืองสุพรรณ หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 สุพรรณบุรีมีโจรผู้ร้ายชุกชุมมากเพราะเมืองสุพรรณยังมีลักษณะเป็นหัวเมืองป่าดงที่รกร้างไปตั้งแต่เสียกรุงศรีอยุธยา การคมนาคมลำบาก เมื่อราว พ.ศ. 2460 มีการเปิดบริษัทเดินเรือไปสุพรรณบุรี บ้านเมืองเจริญขึ้น โจรผู้ร้ายลดน้อยลงบ้าง จนหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 จึงเกิดชุมโจรขึ้นในสุพรรณบุรีเป็นจำนวนมาก เช่น ชุมเสือฝ้าย เสือดำ เสือใบ เสือมเหศวร เสือแบน เสือหนาม เสือแฉ่ง หลังจากสงครามโลกสงบลงไม่กี่ปี ทางกองปราบฯได้ส่งตำรวจเข้าปราบปรามอย่างจริงจัง ชุมโจรในสุพรรณบุรีจึงหมดไปในที่สุด[12]
  • นายนครินทร์ (ไม่รู้นามสกุล) 4.5 ฆาตกรโรคจิตว่ากันว่าสังหารมาแล้วทั้งหมด 134 ศพ ในปี ค.ศ. 1978 (พ.ศ. 2521) หลบหนีการจับกุมได้ถึง 28 ครั้งและแหกคุกออกมาได้ทุกครั้งที่ถูกจับเล่ากันว่าผู้ชายคนนี้เคยมีครอบครัวมาก่อนจนกระทั่งเกิดอาการผิดปกติจนสังหารลูกเมียของตนอย่างโหดเหียมและเอาศพของครอบครัวไปหมกที่ใต้เตียงนอนของตนจนเกิดความสนุกในการสังหารชีวิตผู้คนและเริ่มกระทำผิดกฎหมายต่างเช่น ฆ่าข่มขื่น และ กระทำชำเราศพ จากนั้นก็หลบนี้ไปอยู่ที่จังหวัด นครราชสีมา จนถูกจับกุมใด้ในวันที่ 13 สิงหาคม ค.ศ. 2002 (พ.ศ. 2545)และถูกประหารชีวิตโดยการยิงเป้า