โจรสลัดบาร์บารี
โจรสลัดบาร์บารี

โจรสลัดบาร์บารี

บทความนี้ใช้ระบบคริสต์ศักราช เพราะอ้างอิงคริสต์ศักราชและคริสต์ศตวรรษ หรืออย่างใดอย่างหนึ่งโจรสลัดบาร์บารี (อังกฤษ: Barbary corsairs) เป็นโจรสลัดมุสลิมที่ก่อความไม่สงบในบริเวณแอฟริกาเหนือตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 11 ระหว่างสงครามครูเสดจนกระทั่งถึงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 19 บาร์บารีตั้งหลักแหล่งอยู่ตามเมืองท่าทางตอนเหนือของแอฟริกาเช่นตูนิส ตริโปลี แอลเจียร์ส ซาเล และเมืองท่าในโมร็อกโก และมักจะทำการรังควานในบริเวณฝั่งทะเลบาร์บารี[1] เหยื่อของบาร์บารีอยู่ในทะเลเมดิเตอเรเนียน ทางตอนใต้ตามชายฝั่งทะเลทางด้านมหาสมุทรแอตแลนติกของแอฟริกาตะวันตก และ ทางตอนเหนือของมหาสมุทรแอตแลนติกไปจนถึงไอซ์แลนด์ บาร์บารีมักจะเลือกโจมตีเรือของชาวยุโรปตะวันตกทางตะวันตกของทะเลเมดิเตอเรเนียน นอกจากนั้นก็ยังทำการโจมตีเมืองชายฝั่งทะเลของยุโรปและจับคริสเตียนเป็นทาสเพื่อขายให้แก่อิสลามในบริเวณเช่นแอลจีเรีย และ โมร็อกโก[2][3]การโจมตีของบาร์บารีต่อเรือฝรั่งเศส สเปน และอังกฤษ และตามชายฝั่งทะเลในสเปนและอิตาลีทำให้ผู้คนละทิ้งจากบริเวณต่างๆ เหล่านั้นจนกระทั่งมาถึงคริสต์ศตวรรษที่ 19 ระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 16 ถึงคริสต์ศตวรรษที่ 19 โจรสลัดบาร์บารีจับชาวยุโรปราว 800,000 ถึง 1.25 ล้านคนไปเป็นทาส[2] ส่วนใหญ่จากหมู่บ้านตามชายฝั่งทะเลในอิตาลี สเปน และ โปรตุเกส และบางครั้งก็ในฝรั่งเศส อังกฤษ เนเธอร์แลนด์ ไอร์แลนด์ และไอซ์แลนด์ และบางครั้งก็ไปถึงอเมริกาเหนือ บาร์บารีที่มีชื่อเสียงที่สุดคือเฮย์เรดดิน บาร์บารอสซา และ โอรุค ไรส์ (Oruç Reis) ผู้มีอำนาจในแอลเจียร์สเมื่อต้นคริสต์ศตวรรษที่ 16 ซึ่งเป็นการเริ่มการมีอิทธิพลของจักรวรรดิออตโตมันในแอฟริกาเหนือเป็นเวลาสี่ร้อยปี และเป็นการก่อตั้งศูนย์กลางของกิจการโจรสลัดในทะเลเมดิเตอเรเนียนหลังจากสงครามนโปเลียนและการประชุมแห่งเวียนนาในปี ค.ศ. 1815 และการเข้าเกี่ยวข้องของรัฐนาวีของสหรัฐอเมริกาในสงครามบาบารีครั้งที่ 1 ในปี ค.ศ. 1801 ถึงปี ค.ศ. 1805 และ ครั้งที่ 2 ในปี ค.ศ. 1815 เมื่อมหาอำนาจของยุโรปเห็นถึงความจำเป็นในการกำจัดอำนาจของโจรสลัดบาร์บารี หลังจากนั้นอำนาจของโจรสลัดบาร์บารีก็ลดถอยลง นอกจากนั้นฝรั่งเศสก็เข้ายึดบริเวณส่วนใหญ่ตามฝั่งทะเลบาร์บารีในคริสต์ศตวรรษที่ 19