ประวัติ ของ โซคูล

แรกเริ่มเดิมที วงโซคูลมีสมาชิก 4 คน ซึ่งประกอบด้วยพี่น้องแท้ ๆ 2 ครอบครัว ได้แก่ โจ๊กกับมาร์ช และ แจนกับเจมส์ ทั้ง 2 ครอบครัวนี้เป็นญาติกัน กล่าวคือ ตาของโจ๊กและมาร์ช เป็นพี่ชายของยายของแจนและเจมส์[6] โดยในขณะนั้น แจนและเจมส์ยังศึกษาอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3-4 ส่วนตัวโจ๊กศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ทุกคนในวงขณะนั้นสนใจเครื่องดนตรีเดียวกันหมดนั่นคือกีต้าร์ เหล่าบรรดาญาติจึงหากีต้าร์เก่า ๆ มาให้ครบทุกคน เมื่อเวลาผ่านไป สมาชิกแต่ละคนจึงได้เปลี่ยนไปเล่นเครื่องดนตรีชนิดอื่น[7] จนได้เป็นวงขึ้นมา มาร์ชเปลี่ยนไปเล่นกลองให้กับวง และเจมส์ก็ถูกแจนบังคับให้ไปเล่นเบส[8] วงโซคูลขณะนั้นได้ห้องซ้อมเป็นบ้านหลังเล็ก ๆ ติดกับบ้านยายของโจ๊ก มีเพื่อนบ้าน 3-4 คนพยายามจะเข้าวงด้วย แต่ก็อยู่ได้ไม่นาน[6]

วงโซคูลมีความใฝ่ฝันอยากเป็นวงร็อก อยากแต่งเพลง อยากเล่นคอนเสิร์ต[7] วงโซคูลมีวงโลโซเป็นทั้งแรงบันดาลใจ ต้นแบบ และเป็นแม่พิมพ์เดียวในยุคนั้นที่โซคูลเดินตามรอยเท้า พวกเขาเล่นดนตรีจนเป็นเรื่องเป็นราวโดยไม่รู้ตัว พวกเขาได้ไปเล่นดนตรีให้กับงานหลายงาน ไม่ว่าจะเป็นงานแต่งงาน งานวัด งานเทศกาล หรือเล่นในสถานพินิจ[6] ครั้งหนึ่งเขาได้ออกทางสถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่ง เป็นงานวันเด็ก ทางสถานีต้องการให้ทางวงระบุชื่อวง โจ๊กจึงได้วิธีเปิดพจนานุกรมแบบสุ่มจนกระทั่งเจอคำว่า มิลเลเนียม (millennium) [9] จึงนำมาเป็นชื่อวงในยุคนั้น ต่อมาพวกเขาตั้งใจจะเปลี่ยนชื่อวงอีกครั้ง โดยจะต้องเป็นชื่อที่มั่นคงและแน่นอน โจ๊กให้ผู้เป็นอาคัดชื่อภาษาอังกฤษไว้หลาย ๆ ชื่อ และโจ๊กก็ได้เลือกชื่อ so cool ซึ่งแปลว่า "เจ๋ง" เพราะรู้สึกสะดุดตา และเป็นชื่อที่ยังไม่เป็นที่รู้จักในประเทศไทยยุคนั้น[9]

วงโซคูลเคยผ่านการแสดงดนตรีมากว่า 100 เวที เคยประกวด 3-4 ครั้ง แพ้ 1 ครั้ง[10] การประกวดครั้งสุดท้ายเป็นการประกวดถ้วยพระราชทานชิงแชมป์ประเทศ ซึ่งรางวัลที่หนึ่งจะได้เป็นตัวแทนประเทศไทยไปแข่งชิงแชมป์เอเชีย การแข่งขันแบ่งเป็นสองรุ่น ซึ่งจะคัดเทปเดโม่ 10 ม้วนจากทั้งประเทศ วงโซคูลส่งไป 2 เพลงตามกฎ ได้แก่เพลง เข้ามาเลย ของวงโลโซ และอีกหนึ่งเพลงแต่งเอง (ดนตรีแบบเดียวกับเพลงอกหักจากมือถือ) [11] วงโซคูลซ้อมอย่างหนักหน่วงทุกวัน พวกเขาเช่าห้องซ้อม 1-2 ชั่วโมงหลังเลิกเรียนตอนเย็นเพื่อซ้อมดนตรี เมื่อถึงวันประกาศผล ปรากฏว่าเทปเดโม่ของวงโซคูลก็เป็น 1 ใน 10 ม้วนจริง ๆ[12] ทำให้พวกเขารู้สึกคึกคักและท้าทายมากขึ้น ในวันแข่งขัน แต่ละวงก็แสดงความสามารถของตนเต็มที่ รวมถึงโซคูล ผลการประกวดรอบสุดท้ายประกาศว่าวงโซคูลได้รับรางวัลชนะเลิศ[11] และรางวัลการแสดงยอดเยี่ยมซึ่งจะพาพวกเขาแข่งชิงแชมป์เอเชียในฐานะตัวแทนประเทศไทย[13] แต่ก็เกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้น เนื่องจากเหตุการณ์วินาศกรรมวันที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2544 จึงทำให้การแข่งขันถูกยกเลิกไป [14] ต่อมา โซคูลจึงได้ออกเทปกับค่ายแกรมมี่

ตลอดเวลาตั้งแต่ก่อตั้งวงจนถึงได้ออกอัลบั้ม 4 อัลบั้มแรก วงโซคูลมีสมาชิก 4 คน จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2551 เมื่อโซคูลถึงจุดอิ่มตัว วงโซคูลจึงได้ "กอล์ฟ" เป็นสมาชิกคนที่ 5 พร้อมกับอัลบั้มชุดที่ 5 โดยกอล์ฟเป็นชาวจังหวัดสุโขทัย และเป็นเด็กปั้นของโจ๊ก โดยโจ๊กได้ไปเจอกับกอล์ฟซึ่งเล่นเป็นวงเปิดให้คอนเสิร์ตแห่งหนึ่งที่จังหวัดพะเยา ด้วยความที่น้ำเสียงดี และหน้าตาดี จึงทำให้โจ๊กเห็นแวว ในตอนแรก โจ๊กได้ผลักดันให้วงของกอล์ฟได้เป็นศิลปินในค่ายแกรมมี่ แต่เนื่องจากขณะนั้นมีวงดนตรีมากมายจนทำให้การออกเทปเป็นเรื่องยาก และบวกกับวงโซคูลเองที่ถึงจุดอิ่มตัว จึงได้ตัดสินใจชวนกอล์ฟเข้ามาร่วมวง ซึ่งถือเป็นจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ครึ่งหนึ่งของโซคูล ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ภาคดนตรีของวงโซคูลตั้งแต่มีสมาชิกใหม่เปลี่ยนไปจากเดิม คือ จากร็อกแบบไทยกลายเป็นร็อกที่หนักแน่นขึ้น อัลบั้ม ไฟฟ์ (Five) จึงเป็นอัลบั้มชุดแรกตั้งแต่วงโซคูลมีสมาชิกใหม่

ผลงานหลังจากอัลบั้มชุดที่ 5 โซคูลเริ่มทำเพลงออกมาเป็นซิงเกิล โดยจะปล่อยออกมาเรื่อย ๆ และพยายามปรับเปลี่ยนรูปแบบของวงเป็นเวลาพอสมควร[15] ในเดือนกันยายน พ.ศ. 2553 โซคูลได้ปล่อยคลิปวิดีโอตัวอย่างเพลงใหม่ความยาว 1-2 นาที ซึ่งเป็นคลิปที่โจ๊กกับกอล์ฟร้องเพลงใหม่พร้อมกีต้าร์หนึ่งตัว [16][17] หลังจากนั้นโซคูลก็เริ่มถ่ายทำมิวสิกวิดีโอเพลง เหตุผลที่ไม่อยากเป็นเพื่อนเธอ ซึ่งเป็นคนละเพลงกับที่อยู่ในคลิป พร้อมอัดเพลงใหม่เพลงอื่น ๆ และถ่ายปกอัลบั้มใหม่ ในเวลาไล่เลี่ยกัน ล่าสุดได้ถ่ายทำมิวสิกวิดีโอประกอบคาราโอเกะเมื่อเช้าวันที่ 8 ธันวาคม ปีเดียวกัน[18] ส่วนอัลบั้มเต็มชุดที่ 6 ได้ชื่ออัลบั้มว่า So Cold โดยในอัลบั้มนี้สมาชิกวงทุกคนได้เปลี่ยนรูปลักษณ์ใหม่ ในด้านการทำดนตรี โซคูลได้ สก๊อต ม็อฟแฟ็ต อดีตสมาชิกวง เดอะม็อฟแฟ็ต มาเป็นโปรดิวเซอร์ให้ถึง 4 เพลง[19]

ในด้านการตอบรับ มีการก่อตั้งกลุ่มแฟนคลับที่เรียกตนเองว่า โซคูลเลี่ยน (So Coolian) ส่วนตัวของโจ๊กเองถูกกล่าวถึงมากในเว็บไซต์พันทิป.คอม และประมูล.คอม[20] และมีคำพูดใหม่ ๆ เกิดขึ้นมากมาย เช่น บร๊ะเจ้า ชาบู ๆ เมพขิง ๆ บร๊ะลานุภาพ[21] มีการแต่งบทความล้อเลียนโจ๊ก 38 ประการโดยกลุ่มโซคูลเลี่ยนแห่งเว็บประมูล.คอม[11] ด้วยเหตุนี้โซคูลจึงได้ทำเพลงพิเศษที่ ชื่อว่า โจ๊ก พันธุ์ทิพย์ (ทำนองเดียวกับเพลง พันธุ์ทิพย์ ของโลโซ) เพื่อตอบรับกระแสนี้ นอกจากนี้ โจ๊กยังได้เขียนหนังสือพ็อคเก็ตบุ๊คเล่มแรกในชีวิตชื่อ เขาเรียกผมว่าบร๊ะเจ้า โจ๊ก โซคูล พิมพ์โดยสำนักพิมพ์เนชั่นบุ๊คส์ เพื่อตอบรับกระแสนี้เช่นกัน

ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้