โทะกุงะวะ อิเอะโยะชิ (
ญี่ปุ่น: 徳川 家慶
โรมาจิ:
Tokugawa Ieyoshi,
22 มิถุนายน ค.ศ. 1793 -
27 กรกฎาคม ค.ศ. 1853) เป็น
โชกุน คนที่ 12 แห่ง
ตระกูลโทะกุงะวะ (ช่วงสมัย:
ค.ศ. 1837 ถึง
ค.ศ. 1853) เป็นบุตรชายคนที่สองของโชกุน
โทะกุงะวะ อิเอะนะริ เกิดกับนางโครินอิน (Korin-in, 香琳院) เกิดในปีเดียวกับที่พี่ชายคนโตต่างมารดาเสียชีวิต จึงได้เป็นทายาทสืบทอดตำแหน่งโชกุน ในค.ศ. 1837 โชกุนอิเอะนะริจึงได้สละตำแหน่งโชกุนให้แก่อิเอะโยะชิ โดยบิดาคืออิเอะนะริยังคงดำรงตำแหน่งเป็นโอโงโช (Ōgōshō, 大御所) จนกระทั่งถึงแก่อสัญกรรมในค.ศ. 1841ในสมัยของโชกุนอิเอะโยะชิการปกครองอยู่ภายใต้อิทธิพลของโรจู
มิซุโนะ ทะดะกุนิ (Mizuno Tadakuni, 水野 忠邦) ผู้นำใน
การปฏิรูปปีเท็นโป (Tenpo-no-kaikaku, 天保の改革) ในค.ศ. 1841 เป็นความพยายามที่จะจัดระเบียบสังคมญี่ปุ่นให้เรียบง่ายลงและเคร่งครัดมากขึ้น
[1] ยกตัวอย่างเช่นการห้ามการแต่งตัวและการประดับประดาที่หรูหรา การห้ามการพิมพ์ภาพสี และการกดขี่ละครคาบูกิ หลังจาก
เหตุการณ์มอร์ริสัน (Morrison Incident) ในค.ศ. 1837 ทำให้บะกุฟุมีทัศนคติที่เลวร้ายต่อชาวตะวันตกลงอย่างมาก ส่งผลให้เกิดการกวาดล้างขุนนางในบะกุฟุในค.ศ. 1839 ด้วยข้อหาข้องแวะกับ
รังงะกุ (Rangaku, 蘭学) หรือศิลปวิทยาการตะวันตกมากเกินไป เรียกว่า การกวาดล้างขุนนางตะวันตก (Bansha-no-guku, 蛮社の獄) แต่ทว่าการปฏิรูปปีเท็นโปเป็นที่ต่อต้านอย่างมากมาย ทำให้การปฏิรูปในครั้งนี้ล้มเหลวและโรจูทะดะกุนิต้องออกจากตำแหน่งไปในค.ศ. 1843 ช่วงสมัยของโชกุนอิเอะโยะชิตรงกับสมัยของไดเมียว
ชิมะสุ นะริอะกิระ (Shimazu Noriakira, 島津斉彬) แห่งแคว้น
ซะสุมะในเดือนกรกฎาคมค.ศ. 1853 พลเรือจัตวา
แมททิว เพอร์รี่ (Commodore Matthew C. Perry) จาก
สหรัฐอเมริกา ได้นำเรือรบ (ซึ่งชาวญี่ปุ่นเรียกว่า เรือดำ Kurofune, 黒船) จำนวนสี่ลำเข้ามาจอดปิดอ่าวอุระงะ (Uraga, 浦賀) ของ
เมืองเอะโดะ โดยข่มขู่ว่าจะยิงปืนใหญ่โจมตีเมืองเอะโดะหากไม่ยอมเปิดประเทศทำการค้ากับสหรัฐอเมริกา เป็นการใช้นโยบายทางการทูตแบบเรือปืนบังคับ (Gunboat diplomacy) โรจูอะเบะ มะซะฮิโระ (Abe Masahiro, 阿部 正弘) เป็นตัวแทนฝ่ายญี่ปุ่นเจรจากับพลเรือจัตวาเพอร์รี่ ยอมรับสาส์นจากประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา พลเรือจัตวาเพอร์รี่จึงนำเรือรบไปเทียบท่าที่เมืองคุริฮะมะ (Kurihama, 久里浜) เพื่อรอคอยคำตอบเพียงสิบสามวันหลังจากที่เรือดำของพลเรือจัตวาเพอร์รี่ได้ย้ายไปจอดที่เมืองคุริฮะมะ โชกุนอิเอะโยะชิก็ได้ถึงแก่อสัญกรรมลงในค.ศ. 1853 มี
โทะกุงะวะ อิเอะซะดะ (Tokugawa Iesada, 徳川家定) บุตรชายคนที่สี่เป็นผู้สืบทอดตำแหน่งโชกุนต่อมา ท่ามกลางบ้านเมืองที่กำลังสับสนวุ่นวายจากการคุกคามของชาวตะวันตก<references>