วิธีการศึกษาทางโบราณคดี ของ โบราณคดี

การศึกษาโบราณคดี เป็นการศึกษาแบบวิทยาศาสตร์แขนงหนึ่งเช่นเดียวกับการศึกษาทางสังคมศาสตร์ การศึกษาทางโบราณคดีเป็นการศึกษาจากหลักฐานต่าง ๆ ดังกล่าวมาแล้ว การที่จะทราบเรื่องราวของมนุษย์ในยุคใดในสมัยใดได้ละเอียดมากน้อยเพียงใดย่อมขึ้นอยู่กับหลักฐานที่พบ การแปลความหมายและการวางตัวเป็นกลาง ไม่มีอคติในเรื่องของชาตินิยมของนักโบราณคดีเรื่องราวที่ได้จึงจะถูกต้องกับความเป็นจริงมากที่สุดจึงจะถูกต้องตรงกับความเป็นจริงมากที่สุด

โบราณคดีอาจแบ่งออกเป็น 4 ขั้นตอน คือ[1]1. การสำรวจ (survey)

เป็นการตรวจหาแหล่งโบราณคดี อาจทำได้โดยการตรวจสอบจากภาพถ่ายทางอากาศ การศึกษาจากเอกสารและการเดินสำรวจเพื่อเป็นการรวบรวมหลักฐานสำหรับประเมินค่าของแหล่งโบราณคดีนั้น ๆ ในการวางแผนขุดค้นต่อไป

2. การขุดค้น (excavation)

เป็นกรรมวิธีขั้นที่สองของการศึกษาทางโบราณคดี เพื่อให้ได้หลักฐานที่ถูกต้องมากที่สุด การขุดค้นจะต้องทำอย่างระมัดระวังเพื่อให้ได้หลักฐานที่ถูกต้องมากที่สุด เพื่อไม่ให้เป็นการทำลายหลักฐานที่ทับถมอยู่ในดินเป็นเวลาหลายร้อยหลายพันปีจึงต้องมีการบันทึกอย่างละเอียด และการวาดภาพหรือถ่ายภาพประกอบด้วย

3. การวิเคราะห์ (analysis)

หลักฐานที่ได้จากการขุดค้น จะต้องนำมาวิเคราะห์ในห้องปฏิบัติการเพื่อหาแบบอย่างของรูปร่างของสิ่งของที่ขุดได้เพื่อประโยชน์ในการศึกษาต่อไป

4. การแปลความหมาย (interpretation)

และการเขียนรายงานเป็นการรวบรวมหลักฐานต่าง ๆ ที่ได้จากการสำรวจการขุดค้น และการวิเคราะห์แล้วนำมาแปลความหมายเพื่อเขียนเป็นรายงานพิมพ์ออกเผยแผร่และจัดนิทรรศการสรุปเรื่องราวของมนุษย์ในยุคนั้น สมัยนั้นต่อจากนั้นก็เป็นการรักษาโบราณศิลปวัตถุที่ค้นพบซึ่งได้แก่ การจัดพิพิธภัณฑ์เพื่อเป็นประโยชน์ในสำหรับการศึกษาค้นคว้าแนวทางการศึกษาวิชาโบราณคดีโดยทั่วไป