โพคาฮอนทัส (
อังกฤษ: Pocahontas; ราว ค.ศ. 1596 – มีนาคม ค.ศ. 1617) ชื่อเกิดว่า
มาโทอาคา (Matoaka) ชื่ออื่นว่า
อาโมนูเท (Amonute) เป็นหญิง
ชาวอเมริกันพื้นเมือง[2][3][4] มีชื่อเสียงเพราะความสัมพันธ์กับชุมชนอาณานิคมใน
เจมส์ทาวน์ เวอร์จิเนีย โพคาฮอนทัสเป็นบุตรีของ
พาวฮาทัน (Powhatan) ผู้เป็น
ประมุขสูงสุด (paramount chief) ของเครือข่ายชนเผ่าใน
เซนาคอมมาคาห์ (Tsenacommacah) ซึ่งกินพื้นที่
ภูมิภาคไทด์วอเทอร์ (Tidewater region) แห่งเวอร์จิเนีย เกร็ดประวัติศาสตร์ที่รู้จักกันดีระบุว่า ใน ค.ศ. 1607 นางช่วยชีวิต
จอห์น สมิท (John Smith) ชาวอังกฤษซึ่งถูกชนอเมริกันพื้นเมืองจับเป็นเชลย โดยนางวางศีรษะของตนไว้บนแท่นประหารแทนศีรษะของเขาขณะที่บิดาของนางกำลังเงื้อกระบองเพื่อประหารเขา แต่นักประวัติศาสตร์จำนวนมากตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของเรื่องดังกล่าว
[5][6]ใน ค.ศ. 1613 นางถูกชาวอังกฤษจับกุมไปเรียกค่าไถ่ในช่วงที่อังกฤษและชนอเมริกันพื้นเมืองเป็นปฏิปักษ์กัน ระหว่างที่นางถูกจับนั้น นางเข้ารีตเป็น
คริสต์ศาสนิกและเปลี่ยนชื่อเป็น
รีเบกกา (Rebecca) ต่อมาเมื่อนางมีโอกาสกลับไปหาผู้คนของตน นางกลับเลือกอยู่กับคนอังกฤษ ครั้นเดือนเมษายน ค.ศ. 1614 นางอายุได้ 17 ปี เข้าพิธีสมรสกับ
จอห์น รอล์ฟ (John Rolfe) คนปลูกใบยาสูบ ต่อมาในเดือนมกราคม ค.ศ. 1615 นางให้กำเนิดบุตรชายของเขานามว่า
ทอมัส รอล์ฟ (Thomas Rolfe)
[1]ใน ค.ศ. 1616 ครอบครัวรอล์ฟเดินทางไปลอนดอน มีการนำเสนอนางต่อสังคมอังกฤษว่า เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของ
คนป่าเถื่อนที่ได้รับการสั่งสอนให้มีอารยะ เพื่อกระตุ้นการลงทุนในชุมชนเจมส์ทาวน์ที่เวอร์จิเนีย นางจึงเกิดมีชื่อเสียงขึ้น ได้รับการเลี้ยงดูปูเสื่อหรูหรา และได้ชม
ละครหน้ากาก (masque) ที่
วังไวต์ฮอล (Whitehall Palace) ด้วย ครั้น ค.ศ. 1617 ครอบครัวรอล์ฟตั้งใจจะเดินทางกลับเวอร์จิเนีย แต่นางเสียชีวิตที่
เกรฟเซนด์ (Gravesend) ในอังกฤษไปเสียก่อนโดยไม่ทราบสาเหตุ อายุได้ราว 20 หรือ 21 ปี ศพของนางฝังไว้ที่
โบสถ์เซนต์จอร์จ (St George's Church) ณ เกรฟเซนด์นั้น แต่การบูรณะโบสถ์ในภายหลังทำให้ตำแหน่งที่แน่นอนของหลุมศพนางในปัจจุบันนั้นไม่อาจทราบได้อีก
[1]สถานที่และผลิตภัณฑ์มากมายในสหรัฐได้รับการตั้งชื่อตามนาง เรื่องราวของนางยังได้รับการเล่าขานเป็นนิยายรัก กลายเป็นหัวเรื่องยอดนิยมในงานศิลปะ วรรณกรรม และภาพยนตร์ คนดังหลายคนก็อ้างว่า สืบเชื้อสายของนางผ่านทางบุตรของนาง เช่น สมาชิก
ตระกูลแรกแห่งเวอร์จิเนีย, ตลอดจน
อีดิท วิลสัน (Edith Wilson) อดีต
สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง,
เกล็นน์ สเตรนจ์ (Glenn Strange) นักแสดงชาวอเมริกัน,
เวย์น นิวตัน (Wayne Newton) นักแสดงในลาสเวกัส, และ
เพอร์ซิวัล โลเวลล์ (Percival Lowell) นักดาราศาสตร์
[7]