สำหรับยาวีในความหมายอื่นดูที่:
ภาษายาวีโยวี่ หรือ
ยาวี[1] หรือ
ฮูวี่ หรือ
ยาฮู หรือ
โมฮูขนตัวใหญ่ (
อังกฤษ: Yowie, Whowie, Yahoo, Great Hair Moehau–ชื่อหลังเป็นชื่อที่เรียกใน
นิวซีแลนด์) เป็นชื่อเรียกของ
สัตว์ประหลาดชนิดหนึ่ง ที่พบใน
ออสเตรเลีย กล่าวกันว่า มีรูปร่างคล้าย
มนุษย์ผสมกับ
ลิงขนาดใหญ่ มี
ขนปกคลุมร่างกายไปทั่ว คล้ายกับ
บิ๊กฟุตหรือซาสควาทช์ ใน
ทวีปอเมริกาเหนือ หรือ
เยติ ใน
เทือกเขาหิมาลัยที่มาของคำว่า โยวี่ นั้นไม่ทราบว่าเป็นมาอย่างไร แต่ทว่าเรื่องราวของมันอยู่ในตำนานเรื่องเล่าของชาว
อะบอริจินส์ ชนเผ่าพื้นเมืองของออสเตรเลีย เช่นเดียวกับ
บันยิปที่อยู่อาศัยของโยวี่ พบใน
รัฐนิวเซาท์เวลส์ โกลด์โคสต์ของ
รัฐควีนส์แลนด์และใน
ป่าของโมฮูเรนจ์ ใน
โอกแลนด์ พื้นที่ภาคเหนือและชายฝั่งตะวันตกของออสเตรเลียการพบเห็นโยวี่เกิดขึ้นครั้งแรกใน
ค.ศ. 1881 หลังจากที่
ชาวตะวันตกได้เข้ามาบุกเบิกดินแดนออสเตรเลีย เมื่อ
หนังสือพิมพ์ของออสเตรเลียรายงานว่า มีพยานหลายรายได้เห็นสัตว์ตัวหนึ่ง คล้าย
ลิงขนาดใหญ่ที่มี
ความสูงกว่า
ผู้ชาย ในปี
ค.ศ. 1894 มีบุคคลอ้างว่าได้เผชิญหน้ากับโยวี่ในพุ่มไม้ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ ในปี
ค.ศ. 1903 หนังสือพิมพ์ลงคำให้การของชาวพื้นเมืองคนหนึ่งที่อ้างว่า เขาได้
ฆ่าโยวี่ ซึ่งหน้ามันดูเหมือน
คนผิวดำ แต่มีขน
สีเทาทั้งตัวในปี
ค.ศ. 1912 จอร์จ ซัมเมอร์เรลล์ ได้
ขี่ม้าเดินทางระหว่างเมืองบอมบาลา และ เมืองเบ็มโบคา เขาเห็นสัตว์ประหลาดทั้งหมด 4 ตัวกำลังดื่ม
น้ำจากลำห้วย สัตว์เหล่านั้นเมื่อยืนขึ้นด้วย 2 ขาหลัง มันสูงกว่า 7
ฟุต และมันก็มองมาที่ซัมเมอร์เรลล์ เมื่อมันดื่มน้ำเสร็จมันก็เดินจากไปอย่างสงบในป่าบริเวณใกล้เคียง จากนั้นเพื่อนของซัมเมอร์เรลล์คนหนึ่งจาก
ซิดนีย์ชื่อ วีเลอร์ เจฟค็อทท์ ได้เดินทางไปในสถานที่ ๆ ซัมเมอร์เรลล์พบเห็นและได้ทำการหล่อ
รอยเท้าของพวกมัน เจฟค็อทท์อธิบายว่า มันมีรอยเท้าคล้ายมนุษย์ แต่มีขนาดใหญ่กว่า เขาได้หล่อรอยเท้าทำเป็น
ปูนปลาสเตอร์และมอบให้กับ
สถาบันอุดมศึกษาท้องถิ่น แต่มิได้มีการวิเคราะห์เรื่องนี้
ในทางวิทยาศาสตร์ในปี
ค.ศ. 1971 เฮลิคอปเตอร์ของ
กองทัพอากาศออสเตรเลีย ได้นำลูกเรือสำรวจพื้นที่บนยอดเขาเซนตินัล ซึ่งเป็นสถานที่ ๆ ห่างไกลและไม่สามารถเข้าถึงได้ ทั้งหมดแปลกใจมากเมื่อได้พบกับรอยเท้าใหม่ ๆ ใน
โคลนมีขนาดใหญ่กว่ารอยเท้าของมนุษย์ในสถานที่ ๆ ไม่รู้จักแห่งนี้ การพบเห็นโยวี่ยังคงมีมาอย่างต่อเนื่องตลอด
ทศวรรษที่ 70 ในปี
ค.ศ. 1976 นักท่องเที่ยวในรัฐนิวเซาท์เวลส์อ้างว่าเห็นโยวี่เพศเมียตัวหนึ่งกำลังเดินขึ้น
ภูเขา นอกจากนี้ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ เบ็ตตี้ จี รายงานว่าพบสัตว์ขนาดใหญ่ที่ปกคลุมด้วยขนสีดำนอกบ้านของเธอในปี
ค.ศ. 1977 หลังจากนั้นสักครู่รั้วบ้านของเธอก็ล้มลงและพบรอยเท้าขนาดใหญ่ล้อมรอบบริเวณบ้านเธอ คนในเมืองโกลด์โคสต์ของสปริงค์บรูค กล่าวว่าเขาได้พบเห็นคนผิวดำที่มีขนดกในขณะที่เขากำลังตัดไม้อยู่ ซึ่งมันได้จ้องมองเขาและเขาก็จ้องมองมันเช่นกัน แต่เขารู้สึก
กลัวขึ้นอย่างจับใจ จนมือชาไม่อาจยก
ขวานในมือขึ้นมาใช้เป็น
อาวุธได้เลยในปี
ค.ศ. 1997 ผู้หญิงคนหนึ่งที่อาศัยอยู่ใน
ทะเลทรายทานามิ ถูกปลุกให้ตื่นในเวลา 03.00 น. โดยเสียงของสัตว์ที่ร้องอย่างสยดสยองที่นอกหน้าต่าง
ห้องนอน เมื่อเธอออกไปตรวจดู เธอพบกับกลิ่นเหม็นที่เหลือทนและเธอเห็นสัตว์ที่มีขนปกคลุมลำตัวสูง 7 ฟุต ทำลายรั้วบ้านของเธอ และเผ่นหนีไปอย่างรวดเร็ว ในตอนเช้าเมื่อเจ้าหน้าที่
ตำรวจมาถึงได้พบกับร่องรอยมากมาย รวมทั้งท่อน้ำที่บิดเบี้ยวเหมือนกับถูกทำจากสัตว์ตัวที่เธอเห็นเมื่อคืนด้วยในยุคปัจจุบัน มีพยานหลายคนที่อ้างว่าได้เคยพบเห็นโยวี่ บ้างว่า มันมีขนปกคลุมทั้งตัว และมีสิ่งที่แตกต่างไปจากบิ๊กฟุต คือ มีขนยาวที่บริเวณคางที่เหมือน
เคราด้วย ขณะที่บางคนบอกว่า โยวี่ได้แอบดูเจ้าตัวขณะนอนหลับในบ้าน โดยมองผ่านทางกระจกหน้าต่าง เมื่อเช้าตื่นขึ้นมา จึงได้ออกสำรวจ พบว่า
แพะของเขาที่เลี้ยงไว้ 8 ตัวหายไปทั้งหมด จึงออกตามหา และพบเป็นซากถูกแขวนอยู่บนต้นไม้สูงในภูเขาใกล้บ้าน โดยซากแพะถูกชำแหละส่วนท้องและถลกส่วนหัวออกมาด้วยเครื่องมือที่แหลมคม แต่ไม่พบร่องรอยของการกัดกิน เหมือนกับว่าเป็นสัญลักษณ์ให้เจ้าของมาพบเจอ จึงมีความเชื่อกันว่า โยวี่เป็นสัตว์ดุร้ายที่กินสัตว์อื่นเป็นอาหาร เช่น
วอลลาบี หรือแพะ เป็นต้น
[1]และมีการสันนิษฐานจากนักสืบสวนเรื่องเหนือธรรมชาติชาวออสเตรเลีย เร็ก กิลรอย ได้ทำการรวบรวมรายงานเกี่ยวกับโยวี่ได้ทั้งหมดราว 3,000 รายงาน กิลรอยสันนิษฐานว่าโยวี่อาจเป็นมนุษย์ใน
ยุคก่อนประวัติศาสตร์ชนิดหนึ่ง ที่อยู่ใน
สกุล Homo ก็เป็นได้
[2]