โรคจากไข่พยาธิตัวตืด (
อังกฤษ: cysticercosis, neurocysticercosis) เป็นโรคติดเชื้อปรสิตหรือพยาธิชนิดหนึ่ง โรคนี้เป็นสาเหตุของโรคติดเชื้อปรสิตในระบบประสาทส่วนกลางที่พบมากที่สุดทั่วโลก
[1] ผู้ป่วยจะเป็นโรคนี้ได้จากการกินเอาไข่ของพยาธิตืดหมู
Taenia solium เข้าไป แบ่งได้เป็นชนิดที่มีการติดเชื้อในระบบประสาทส่วนกลาง (neurocysticercosis) และติดเชื้อนอกระบบประสาท (extraneural cysticercosis)
โรคจากไข่พยาธิตัวตืด คือ
การติดเชื้อของเนื้อเยื่อโดยมีสาเหตุจาก
ตัวอ่อน (cysticercus) ของ
พยาธิตืดหมู (Taenia solium)
[2][3] อาจปรากฎอาการเพียงเล็กน้อยหรือว่าไม่มีอาการเลยเป็นปีๆ โดยในบางคนอาจจะเกิดเป็นตุ่มที่ผิวหนังหรือกล้ามเนื้อขนาดหนึ่งหรือสองเซ็นติเมตรและไม่รู้สึกเจ็บปวด หากว่ามีการติดเชื้อที่สมองอาจจะเป็น
อาการทางสมอง [4][5] หลังจากที่มีตุ่มขึ้นนานหลายเดือนหรือหลายปี อาจจะรู้สึกเจ็บที่ตุ่มเหล่านั้น ตุ่มจะบวมและค่อยๆ ยุบลง ในประเทศที่กำลังพัฒนา โรคนี้เป็นหนึ่งในสาเหตุที่พบได้มากที่สุดของ
โรคชัก[4]โดยปกติมักเกิดจากการกินอาหารหรือน้ำที่มีไข่ของพยาธิตัวตืดปนเปื้อนอยู่ แหล่งที่พบส่วนใหญ่คือในผักที่ไม่ได้ปรุงสุก
[3] ไข่ของพยาธิตัวตืดมาจาก
อุจจาระของผู้ที่มีพยาธิที่โตเต็มวัยอยู่ในร่างกายซึ่งอาการนี้จะเรียกว่า
โรคพยาธิตัวตืด[4][6] โรคพยาธิตัวตืดเป็นอีกโรคหนึ่งที่แตกต่างไปซึ่งเกิดจากการรับประทานถุงน้ำของตัวพยาธิซึ่งปนเปื้อนมากับเนื้อหมูที่ปรุงสุกๆ ดิบๆ
[3] ผู้ที่อาศัยอยู่กับผู้ที่มีพยาธิตัวตืดจะมีโอกาสเสี่ยงที่จะเป็นโรคจากไข่พยาธิตัวตืดได้มากกว่า
[6] การวินิจฉัยโรคสามารถทำโดย
การดูดถุงน้ำออก
[4] การถ่ายภาพสมองด้วยเครื่องเอ็กซ์เรย์คอมพิวเตอร์หรือซีทีสแกน
การถ่ายภาพรังสีส่วนตัดอาศัยคอมพิวเตอร์หรือ
การสร้างภาพด้วยเรโซแนนซ์แม่เหล็ก (การตรวจเอ็กซ์เรย์ด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าหรือ MRI) มีประโยชน์อย่างมากต่อการตรวจวินิจฉัยโรคทางสมอง และยังพบว่าจำนวนของ
เซลล์เม็ดเลือดขาวเพิ่มขึ้นซึ่งเรียกอาการนี้ว่า
อีโอซิโนฟิลใน
น้ำหล่อสมองไขสันหลังและจะใช้เลือดเป็นตัวบ่งชี้
[4]การป้องกันโรคทำได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยการดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคลและ
การสุขาภิบาล อันได้แก่ การปรุงเนื้อหมูให้สุก
ห้องน้ำที่ถูกสุขลักษณะและการมีแหล่งน้ำสะอาด ในการรักษาผู้ที่เป็นโรคพยาธิตัวตืดการป้องกันการแพร่กระจายเป็นเรื่องสำคัญ
[3] ไม่จำเป็นต้องทำการรักษาโรคที่ไม่มีอาการเกี่ยวข้องกับระบบสมอง
[4] การรักษาผู้ที่มีอาการโรคพยาธิตืดหมูขึ้นสมองอาจทำโดยการให้ยา
พราซิควอนเทลหรือ
อัลเบนดาโซล การรักษาด้วยวิธีเหล่านี้อาจจะต้องใช้เวลายาวนาน อาจจำเป็นต้องใช้ยา
สเตียรอยด์ เพื่อป้องกันการอักเสบระหว่างการรักษาและ
ยาป้องกันการชัก การผ่าตัดบางทีอาจใช้รักษาเพื่อตัดถุงน้ำออก
[3] พยาธิตัวตืดพบได้ทั่วไปในทวีปเอเชีย แอฟริกาใต้สะฮารา และละตินอเมริกา
[4] ในบางพื้นที่ประมาณว่าอาจมีผู้ที่ติดเชื้อมากถึง 25%
[4] ในประเทศที่พัฒนาแล้วไม่ค่อยพบโรคนี้
[7] โรคนี้เป็นสาเหตุของการเสียชีวิตทั่วโลกประมาณ 1,200 รายในปีค.ศ. 2010 เพิ่มจาก 700 รายที่พบในปีค.ศ. 1990
[8] โรคจากไข่ของพยาธิตัวตืดพบได้ในหมูและวัวแต่ไม่ค่อยปรากฎอาการเพราะส่วนใหญ่ตายก่อนที่จะเริ่มมีอาการ
[3] มนุษย์เป็นโรคนี้มาโดยตลอดเวลาที่ผ่านมา
[7] เป็นหนึ่งใน
โรคเขตร้อนที่ถูกละเลย[9]