โลมาแม่น้ำอะเมซอน หรือ
โลมาสีชมพู (
อังกฤษ: Amazon river dolphin, Pink dolphin;
โปรตุเกส: Boto, Boutu
[2];
ชื่อวิทยาศาสตร์: Inia geoffrensis; ออกเสียง: /อิ-เนีย-จี-โอฟ-เฟรน-สิส/
[3]) เป็น
โลมาแม่น้ำชนิดหนึ่ง จัดเป็นเพียงชนิดเดียวในสกุล
Inia และวงศ์
Iniidaeโลมาแม่น้ำแอมะซอน จัดเป็นโลมาแม่น้ำ หรือโลมาน้ำจืดชนิดหนึ่ง ที่อาศัยอยู่ใน
น้ำจืดแท้ ๆ โดยที่ไม่พบใน
ทะเล มีความยาวประมาณ 1.53-2.4 เมตร (5.0-7.9 ฟุต) ขึ้นอยู่กับ
ชนิดย่อย ตัวเมียจะมีขนาดใหญ่กว่าตัวผู้ โดยตัวที่ใหญ่ที่สุด เป็นตัวเมียที่มีความยาวถึง 2.5 เมตร (8.2 ฟุต) และน้ำหนักตัว 98.5 กิโลกรัม (217 ปอนด์) ขณะที่ตัวผู้ที่ใหญ่ที่สุด ยาว 2.0 เมตร (6.6 ฟุต) และน้ำหนักตัว 94 กิโลกรัม (210 ปอนด์) นอกจากนี้แล้ว
กระดูกสันหลังบริเวณคอมีความยืดหยุ่นจึงสามารถทำให้หันหัวได้ 180
องศา ซึ่งความยืดหยุ่นตรงนี้เองที่ทำให้เป็นสิ่งสำคัญในการว่ายน้ำผ่าน
ต้นไม้ต่าง ๆ และวัสดุกีดขวางต่าง ๆ ใน
ป่าน้ำท่วมนอกจากนี้ยังมีจะงอยปากยาวซึ่งฟันมี 24 ถึง 34 คู่ ฟันเป็นรูป
ทรงกรวยและมีฟันกรามด้านในของขากรรไกร มีผิวหนัง
สีขาวอม
ชมพูเรื่อ ๆ ตามีขนาดเล็ก
[4][5][6]โลมาแม่น้ำแอมะซอน กระจายพันธุ์ในแม่น้ำสายใหญ่ใน
ทวีปอเมริกาใต้ เช่น
แม่น้ำแอมะซอน,
แม่น้ำโอริโนโก,
แม่น้ำลาพลาตา,
แม่น้ำปารานา,
แม่น้ำโทคันตินส์ เป็นต้น จึงแบ่งออกได้เป็น 3 ชนิดย่อย คือมีทฤษฎีเกี่ยวกับการที่เข้ามาอาศัยอยู่ในน้ำจืดของโลมาแม่น้ำแอมะซอน ว่าใน
ยุคก่อนประวัติศาสตร์ ทะเลด้านตะวันออกและตะวันตกของทวีปอเมริกาใต้เชื่อมติดกัน ต่อมาเกิดแผ่นดินไหว ทางที่เชื่อมกันอยู่จึงถูกตัดขาดเนื่องจากมี
เทือกเขาแอนดีสปรากฏขึ้นมา โลมาที่อาศัยอยู่ในทะเลแถบนี้จึงไม่สามารถว่ายน้ำกลับทะเลได้ นานวันเข้าจึงปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อม จึงอาศัยอยู่ในแม่น้ำแอมะซอนตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
[7]โลมาแม่น้ำแอมะซอน กิน
ปลาและสัตว์น้ำชนิดต่าง ๆ เป็นอาหาร แม้กระทั่ง
ปลาปิรันย่า มีอุปนิสัยอ่อนโยน เป็นมิตรกับมนุษย์เหมือนโลมาทั่วไป ในนิทานพื้นบ้านของชนพื้นเมือง เชื่อว่า โลมาแม่น้ำแอมะซอนสามารถแปลงร่างเป็นมนุษย์ได้ โดยจะแปลงร่างเป็นชายหนุ่มรูปงาม และเข้ามาล่อลวงหญิงสาวในหมู่บ้าน นอกจากนี้แล้วยังเชื่อว่าเป็นสัตว์ที่มีอาถรรพ์ หากนำน้ำมันของโลมามาใช้จุดตะเกียงจะทำให้ตาบอด แม้จะเป็นเพียงเรื่องเล่าแต่จาก
ความเชื่อเหล่านี้เองที่ทำให้โลมาแม่น้ำแอมะซอนไม่ถูกคุกคามจากชนพื้นเมือง
[8]แต่ปัจจุบันถูกคุกคามจากการสูญเสียถิ่นที่อยู่อาศัย อันเป็นผลมาจากการตัดไม้ทำลายป่า และมลภาวะเป็นพิษในน้ำ ในเดือน
กันยายน ค.ศ. 2012 เอโบ โมราเลส ประธานาธิบดีแห่งโบลิเวียได้ออก
กฎหมายมาเพื่อคุ้มครองโลมาแม่น้ำแอมะซอนไว้เป็นสมบัติของชาติ
[9]