ลักษณะและการพบเห็น ของ โอโกโปโก

โอโกโปโกได้รับการอ้างถึงว่ามีการพบโดยชาวกลุ่มปฐมชาติตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 รูปพรรณสัญฐานที่กล่าวถึงบ่อยที่สุดในลักษณะของงูทะเลยักษ์ที่มีความยาว 40–50 ฟุต หรือ 60 ฟุต (12–15 เมตร) โดยกล่าวว่ามีรูปร่างยาวเหมือนงู มีครีบเล็ก ๆ 4 ข้าง คล้ายใบพายทำให้ว่ายน้ำได้เร็ว หางเรียวเล็ก ส่วนหัวไม่มีคำบรรยายที่แน่ชัด โดยผู้ที่พบโอโกโปโกล้วนแต่เป็นการพบเห็นบนผิวน้ำ โดยในยุคปัจจุบัน สถานที่ ๆ มีรายงานว่าพบเห็นโอโกโปโกมากที่สุด คือ รอบ ๆ เกาะงูหางกระดิ่ง ซึ่งเป็นเกาะเพียงแห่งเดียวในทะเลสาบแห่งนี้ ซึ่งข้างใต้เกาะมีสภาพเป็นถ้ำมากมาย อาจเป็นที่อาศัยของโอโกโปโกหรือสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ได้ แต่การสำรวจใต้น้ำทำได้ยากเนื่องจากสภาพน้ำที่นี่ขุ่นมาก[2]

นักวิจัยสัตว์ลึกลับชาวอังกฤษ คาร์ล ชูเกอร์ ได้จัดให้โอโกโปโกอยู่ในหมวดหมู่สัตว์ประหลาดหลายหนอกของกลุ่มบรรดาสัตว์ประหลาดในทะเลสาบทั้งหลาย เช่นเดียวกับ เนสซี ในทะเลสาบล็อกเนสส์ของสก็อตแลนด์ และชี้ให้เห็นว่าอาจเป็นชนิดหนึ่งของสัตว์เลื้อยคลานดึกดำบรรพ์ ดังเช่น โมซาซอรัส หรือพวกไพลโอซอร์ อย่างไรก็ตาม เนื่องด้วยหลักฐานทางกายภาพของสัตว์ชนิดนี้มักถูกจำกัดและไม่ชัดเจนทั้งทางภาพถ่ายและในฟิล์ม ซึ่งมักได้รับการอธิบายว่าเป็นปรากฏการณ์ของการพบสัตว์ที่มีอยู่โดยทั่วไป อย่างเช่น ตัวนาก หรือวัตถุที่ไม่มีชีวิต อย่างเช่น ท่อนไม้ลอยน้ำ[3] ผู้เชี่ยวชาญเรื่องสัตว์น้ำสันนิษฐานว่าโอโกโปโกอาจจะเป็นปลาสเตอร์เจียน ซึ่งเป็นปลารูปร่างประหลาดเหมือนสัตว์ยุคก่อนประวัติศาสตร์ขนาดใหญ่ แต่ทว่าก็ยังไม่ปรากฏผู้ใดที่จับปลาสเตอร์เจียนในทะเลสาบโอคานากันได้ หรืออาจะเป็นปรากฏการณ์ที่ก๊าซในน้ำดันตัวพุ่งขึ้นมาสู่เหนือน้ำ ก็อาจทำให้เห็นเป็นมีอะไรบางอย่างโผล่ผุดขึ้นมาจากน้ำได้เช่นกัน[2]

ผู้ที่อาศัยอยู่รอบ ๆ ทะเลสาบโอคานากันต่างเชื่อว่าโอโกโปโกมีอยู่จริง หลายคนเคยพบเห็น โดยเฉลี่ยมีผู้เห็นปีนึงประมาณ 6 คน ในเมืองเคโลว์นา มีรูปปั้นโอโกโปโกปรากฏอยู่หลายแห่ง รวมถึงมีการผลิตเสื้อยืดสกรีนรูปโอโกโปโกทั้งเด็กและผู้ใหญ่จำหน่ายเป็นที่ระลึกอีกด้วย [2]