ประวัติ ของ ไอคอนสยาม

ที่มาโครงการ

ไอคอนสยามเกิดจากการร่วมมือกันของสยามพิวรรธน์, เครือเจริญโภคภัณฑ์ และ แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดิเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น (บริษัทในเครือเจริญโภคภัณฑ์) มีสัดส่วนการถือหุ้นอยู่ที่ 51:24.5:24.5 ตามลำดับ[3]

ไอคอนสยามตั้งอยู่ในพื้นที่เดิมของโรงสีสิบเก้า และตลาดศิรินทร์[4] ซึ่งต่อมาเป็นกรรมสิทธิ์ของ บริษัท สยามอรุณ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ในเครือศรีกรุงวัฒนา[5][6] โดยพื้นที่โครงการตั้งอยู่ระหว่างโรงแรมเพนนินซูล่า กับโรงแรมมิลเลเนียม ฮิลตัน กรุงเทพ นอกจากนี้ยังอยู่ตรงข้ามกับโรงแรมรอยัลออร์คิดเชอราตัน กรุงเทพ, โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพ และอาคารสำนักงานของ กสท โทรคมนาคม สาขาบางรัก

ไอคอนสยาม มีมูลค่าการลงทุนเมื่อเริ่มโครงการ 35,000 ล้านบาท[5] ต่อมาเพิ่มเป็น 50,000 ล้านบาท[7] และ 54,000 ล้านบาท ตามลำดับ ซึ่งถือว่าเป็นโครงการที่ใช้เงินลงทุนสูงที่สุดในประเทศไทยในขณะนั้น[8] โดยครึ่งหนึ่งเป็นเงินลงทุนของบริษัทพันธมิตรทั้ง 3 บริษัท ส่วนอีกครึ่งหนึ่งเป็นสินเชื่อที่ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารกสิกรไทย และธนาคารธนชาต เป็นผู้สนับสนุน ซึ่งผู้ร่วมทุนทั้ง 3 บริษัท ได้วางแผนที่จะเชื่อมโยงโครงการเข้ากับโรงแรม ศูนย์การค้า และสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา โดยความร่วมมือของหน่วยงานภาครัฐและเอกชน[7][9][10][11]

พิธีเปิด

ไอคอนสยามจัดพิธีเปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561 ในชื่อ "มหาปรากฏการณ์งานเปิดเมืองไอคอนสยาม" โดยในช่วงเช้า สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดโครงการด้วยพระองค์เอง[1][12][13][14] และในช่วงค่ำได้มีการจัดการแสดงในชุด "โรจนนิรันดร" ที่เป็นการผสมผสานระหว่างนาฏศิลป์ไทยแขนงต่าง ๆ และกายกรรมผาดโผน รวมถึงมีการเปิดตัว "เรือสำเภาศรีมหาสมุทร" ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ลอยน้ำแห่งแรกของประเทศไทย[15] มีการแสดงแปรขบวนของโดรนจากอินเทล จำนวน 1,400 ลำ และการแสดงคอนเสิร์ตของ อลิเชีย คีส์ รวมถึงการแสดงแสง สี เสียง ไปยังอาคารชุดเพื่อการพักอาศัยทั้ง 2 อาคารในโครงการด้วย[16]

ในวันที่ 9 พฤศจิกายน มีผู้เข้าร่วมพิธีเปิดจำนวนประมาณ 150,000 คน และในวันที่ 10 พฤศจิกายน ซึ่งเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าใช้บริการเป็นวันแรก มีจำนวนประชาชนเข้าใช้บริการประมาณ 200,000 คน[17] นอกจากนี้ในวันเดียวกัน ยังมีมินิคอนเสิร์ตของศิลปินจากซีรีส์ "รักใสใสหัวใจ 4 ดวง" ฉบับประเทศจีน[18]

ช่วงปีแรก

ในช่วงครึ่งปีแรกหลังการเปิดไอคอนสยาม ได้มีการเปิดร้านค้าอีก 20-25 แบรนด์ อาทิ ร้านกาแฟ ร้านอาหาร รวมถึงบริการต่าง ๆ อย่าง ไอคอน บาย ฟิตเนสเฟิร์ส สาขาที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย ,ไอคอนสยาม เฮอร์ริเทจ มิวเซียม, ทรู ไอคอน ฮอลล์ ศูนย์ประชุม[19]

จากสถิติหลังการเปิด 1 ปี (ข้อมูลปี พ.ศ. 2562) ไอคอนสยามมีผู้เข้ามาใช้บริการในวันปกติ เฉลี่ย 80,000-120,000 คนต่อวัน ส่วนในวันเทศกาล เช่น วันสิ้นปี วันขึ้นปีใหม่ วันลอยกระทง วันสงกรานต์ มีจำนวนผู้เข้ามาใช้บริการ เฉลี่ย 200,000-350,000 รายต่อวัน มีสัดส่วนนักท่องเที่ยวต่างชาติร้อยละ 35 จากกลุ่มหลักคือ จีน เกาหลี ไต้หวัน อินเดีย และกลุ่มประเทศ CLMV (กัมพูชา ลาว พม่า และเวียดนาม) มียอดใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวราว 10,000-15,000 บาท ซึ่งสูงกว่าศูนย์การค้าทั่วไป[20]

เฟส 2

ไอคอนสยามเตรียมพัฒนาไอคอนสยาม เฟส 2 บนเนื้อที่กว่า 5 ไร่ ฝั่งตรงข้ามไอคอนสยาม ประกอบด้วย โรงแรมฮิลตัน การ์เดน อินน์ กรุงเทพฯ ในเครือฮิลตัน ประกอบด้วยห้องพัก 244 ห้อง เปิดให้บริการในปี พ.ศ. 2565, โค-เวิร์กกิ้ง สเปซ, ร้านค้า และซูเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่ เป็นต้น[19]