ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ของ ไอยริศ

เป็นไม้ล้มลุกหลายฤดู ลำต้นเป็นเหง้ากลม รากสะสมอาหารทรงกระบอก 1 – 3 ราก เนื้อในสีเหลือง มีกลิ่นเช่นเดียวกับขิง มีลำต้นส่วนเหนือดินแตกกอ 3 – 6 ยอด แต่ละยอดยาว 40 – 70 ซม. มี 5 – 12 ใบ

ใบเป็นใบเดี่ยว เรียงสลับระนาบเดียว แผ่นใบรูปขอบขนาน กว้าง 3.5 – 4.5 เซนติเมตร ยาว 8 – 14 เซนติเมตร ปลายแหลม โคนสอบรูปลิ่มผิวใบเกลี้ยงทั้งสองด้าน ลิ้นใบสีแดง ยาว 7 – 8 มิลลิเมตร แยกเป็น 2 แฉกอิสระก้านใบยาว 3 – 6 มิลลิเมตร

ช่อดอกเป็นช่อเชิงลด เกิดที่ปลายลำต้นส่วนเหนือดิน กว้างประมาณ 1 ซม. ยาว 5.5 – 7.5 เซนติเมตร ก้านช่อดอกยาว 1 – 2 เซนติเมตรใบประดับสีเขียว มีขอบสีม่วงแดง ใบประดับย่อยขนาดเล็ก กลีบเลี้ยง 3 กลีบ โคนเชื่อมติดกันเป็นหลอด ปลายแยกด้านเดียว ขอบเป็นหยัก 3 แฉกกลีบดอกสีขาว โคนเชื่อมติดกันเป็นหลอด ปลายแยกเป็น 3 แฉก

เกสรเพศผู้ที่เป็นหมัน 5 อัน สีม่วงเข้มมีลายประสีขาวเปลี่ยนรูปร่างไปมีลักษณะคล้ายกลีบดอก 2 อัน ข้างแยกกัน 3 อัน อยู่ตรงกลาง เชื่อมติดกันเป็นกลีบปาก รูปคล้ายไข่กลับ กว้างและยาวประมาณ 2 เซนติเมตร อับเรณูมี 2 พูยาวประมาณ 1 เซนติเมตร

ผลแบบผลแห้งแตก เมล็ดสีดำรูปกระสวย มีเยื้อหุ้มเมล็ดสีขาว [5]

ไอยริศ สำรวจพบโดย ดร.ปราโมทย์ ไตรบุญ นักวิจัยจากกรมวิชาการเกษตร (ในขณะสำรวจพบ) และได้ขอพระบรมราชานุญาตตั้งชื่อเป็นพรรณไม้ในพระนามของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อีกทั้งยังทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่อเป็นภาษาไทยว่า “ไอยริศ”[6]