การประพันธ์และการบันทึกเสียง ของ ไฮบริดทีโอรี

ก่อนที่จะกลายเป็นอัลบั้ม ไฮบริดทีโอรี นั้น ลิงคินพาร์กได้ผลิตเทปตัวอย่าง 9 แทร็ก ในปี พ.ศ. 2542 แล้วได้นำเทปนี้ไปเสนอให้กับบริษัทบันทึกเสียงหรือค่ายเพลงไปจำนวนหลายแห่ง โดยได้บันทึกเพลงเดิมที่แตกต่างกันถึง 42 ครั้ง รวมถึงการแสดงให้กับนักประชาสัมพันธ์เพลงแห่งลอสแอนเจลิส และผู้จัดการแสดง ไมค์ กาแลกซี ที่เดอะกิกออนเมลโรส[14][18] อย่างไรก็ตาม พวกเขาได้กลับมาเริ่มต้นกับค่ายเพลงขนาดใหญ่ และค่ายเพลงอิสระหลายแห่ง[13] ต่อมาลิงคินพาร์กได้เซ็นสัญญากับ วอร์เนอร์บราเธอร์สเรเคิดส์ ในปี พ.ศ. 2542 เนื่องมาจากส่วนสำคัญในการผลักดันและในการให้คำแนะนำของ เจฟฟ์ บลู ซึ่งเขาได้ย้ายตามมาทำงานร่วมกับค่ายเพลงนี้ด้วย หลังจากลาออกจากซอมบามิวสิกพับลิชชิง[13][14][15]

แม้แรกเริ่มจะมีปัญหาในการค้นหาโปรดิวเซอร์ที่จะมารับผิดชอบงานให้กับอัลบั้มเปิดตัวของวงดนตรีใหม่ในค่ายเพลง แต่ในที่สุดก็ได้ ดอน กิลมอร์ ซึ่งตกลงที่จะมาร่วมเริ่มผลิตผลงานเพลงกับลิงคินพาร์ก[14] ด้วยกันกับ แอนดี วอลเลซ ที่ทำหน้าที่เป็นมิกเซอร์ ในช่วงการบันทึกเสียงนั้น เริ่มต้นขึ้นที่สตูดิโอเอ็นอาร์จีเรเคิดดิงส์ ในนอร์ทฮอลลีวูด ลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย ในช่วงต้นปี พ.ศ. 2543 และใช้เวลาต่ออีก 4 สัปดาห์[14] ส่วนใหญ่จะนำเพลงจากเทปตัวอย่างมาบันทึกเสียงใหม่ โดยจะมีในส่วนท่อนแร็ปของไมค์ที่มีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ในขณะที่คำร้องท่อนคอรัสของเชสเตอร์ไม่มีการเปลี่ยนแปลง[19] จากการขาดหายไปของเดฟ ฟาร์เรล และไคล์ คริสเทเนอร์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของวงในการทำผลงานอีพีเมื่อปี พ.ศ. 2542 ลิงคินพาร์กจึงได้คว้าตัว สกอตต์ โคซิโอล และเอียน ฮอร์นเบ็ก มาเป็นมือกีตาร์เบส และแบรด เดลสัน ก็ได้ทำหน้าที่บันทึกเสียงกีตาร์เบสให้กับอัลบั้มนี้เกือบจะทั้งหมด นอกจากนี้ ยังมี เดอะดัสต์บราเธอร์ส มาทำหน้าที่ให้จังหวะบีทให้กับเพลง "วิทยู" อีกด้วย

เชสเตอร์และไมค์เป็นผู้ประพันธ์คำร้องในอัลบั้ม ไฮบริดทีโอรี และได้มาจากส่วนหนึ่งของเพลงในเทปตัวอย่างในสมัยที่มี มาร์ก เวกฟิลด์ เป็นนักร้องนำ[13] ไมค์ได้แสดงลักษณะของเนื้อเพลงว่าเป็นการอธิบายความรู้สึกอันหลากหลาย รวมทั้งอารมณ์ และประสบการณ์ และเป็น “อารมณ์ในทุก ๆ วันที่คุณได้กล่าวถึงและได้นึกคิด”[20][21] ต่อมา เชสเตอร์ได้อธิบายเกี่ยวกับประสบการณ์การประพันธ์เพลงให้กับนิตยสาร โรลลิงสโตน เมื่อต้นปี พ.ศ. 2545 เชสเตอร์ได้กล่าวว่า

มันง่ายที่จะหลงเชื่อสิ่งเหล่านั้น 'น่าสงสารตัวเอง' ความหมายจากเพลง 'ครอว์ลิง' มาจากความรู้สึกที่ว่า ผมไม่สามารถควบคุมตัวเอง แต่เพลงนี้มีความหมายเกี่ยวกับความรับผิดชอบกับการกระทำของคุณ ผมได้ไม่พูดคำว่า 'คุณ' ตรงไหนเลย มันนั่นเป็นเหตุผลที่ว่าผมรู้สึกอย่างไร ที่มีบางสิ่งบางอย่างจากข้างในตัวผมฉุดกระฉากตัวผมลงไป
— เชสเตอร์ เบนนิงตัน, นิตยสารโรลลิงสโตน, 2545[13]

แหล่งที่มา

WikiPedia: ไฮบริดทีโอรี http://www.capif.org.ar/Default.asp?PerDesde_MM=0&... http://austriancharts.at/showitem.asp?interpret=Li... http://www.ifpi.at/?section=goldplatin http://www.aria.com.au/pages/ARIACharts-Accreditat... http://www.ultratop.be/fr/showitem.asp?interpret=L... http://www.ultratop.be/nl/certifications.asp?year=... http://www.ultratop.be/nl/showitem.asp?interpret=L... http://www.billboard.biz/bbbiz/charts/decadeendcha... http://abpd.org.br/certificados_interna.asp?sArtis... http://jam.canoe.ca/Music/Artists/L/Linkin_Park/Al...