วงจรซีเอ็นโอ (
อังกฤษ: CNO Cycle) มาจากวงจรปฏิกิริยา
คาร์บอน-
ไนโตรเจน-
ออกซิเจน บางครั้งก็เรียกว่า
วงจรเบเทอ-ไวซ์เซกเกอร์ (
อังกฤษ: Bethe-Weizsäcker Cycle) คือปฏิกิริยาฟิวชั่นชนิดหนึ่งในจำนวนสองชนิดซึ่ง
ดาวฤกษ์ใช้ในการแปลง
ไฮโดรเจนไปเป็น
ฮีเลียม ปฏิกิริยาอีกชนิดหนึ่งคือ
ห่วงโซ่โปรตอน-โปรตอน สิ่งที่วงจรซีเอ็นโอต่างจากห่วงโซ่โปรตอน-โปรตอนคือมันเป็น
วงจรเร่งปฏิกิริยา (
อังกฤษ: Catalytic Cycle) แบบจำลองทางทฤษฎีแสดงให้เห็นว่าวงจรซีเอ็นโอนั้นเป็นแหล่งกำเนิดหลักของพลังงานในดาวฤกษ์ที่มีมวลมากกว่า 1.3 เท่าของ
มวลดวงอาทิตย์ ส่วนห่วงโซ่โปรตอน-โปรตอนนั้นจะมีความสำคัญในดาวฤกษ์ที่มีมวลประมาณเท่ากับดวงอาทิตย์หรือน้อยกว่า ความแตกต่างนี้มีเหตุจากระดับอุณหภูมิที่แตกต่างกัน คือ ในห่วงโซ่โปรตอน-โปรตอน ปฏิกิริยาจะเริ่มต้นที่อุณหภูมิประมาณ 4 x 106
เคลวิน ซึ่งทำให้มันเป็นแรงหลักในดาวฤกษ์ขนาดเล็ก ห่วงโซ่ซีเอ็นโอเริ่มต้นที่อุณหภูมิประมาณ 13 x 106
เคลวิน แต่พลังงานที่ได้ออกมานั้นเพิ่มขึ้นเร็วกว่าการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิ ที่ประมาณ 17 x 106
เคลวิน วงจรซีเอ็นโอก็จะเริ่มเป็นแหล่งกำเนิดพลังงานหลัก
[1] ดวงอาทิตย์มีอุณหภูมิที่แกนกลางประมาณ 15.7 x 106
เคลวิน และมีเพียง 1.7% ของนิวเคลียส
ฮีเลียมที่เกิดขึ้นในดวงอาทิตย์ที่มีกำเนิดมาจากวงจรซีเอ็นโอผู้เสนอกระบวนการซีเอ็นโอมี 2 คนซึ่งต่างก็ทำงานแยกกัน ได้แก่
คาร์ล ฟอน ไวซ์เซกเกอร์[2] และ
ฮานส์ เบเทอ[3] โดยค้นพบในปี ค.ศ. 1938 และ 1939 ตามลำดับ