เมนูนำทาง
BBV152 การอนุมัติให้ใช้ในกรณีฉุกเฉินภารตะไบโอเทคได้ยื่นขออนุญาตต่อองค์กรควบคุมมาตรฐานยากลางของอินเดีย (DCGI) เพื่ออนุมัติให้ใช้วัคซีนในกรณีฉุกเฉิน (EUA)[33] เป็นบริษัทแห่งที่สามภายหลัง สถาบันเซรุ่มแห่งอินเดีย (Serum Institute of India) และบริษัทไฟเซอร์ (Pfizer) ในการยื่นขออนุมัติการใช้งานวัคซีนในกรณีฉุกเฉิน[34]
เมื่อวันที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2564 องค์การควบคุมมาตรฐานยากลาง (CDSCO) แนะนำให้อนุมัติ EUA[35] ซึ่งวัคซีนได้รับอนุญาตเมื่อวันที่ 3 มกราคม[36] มีการวิพากษ์วิจารณ์ในสื่อมวลชนบางส่วนเนื่องจากการได้รับอนุมัติฉุกเฉินเกิดขึ้นก่อนที่จะมีการเผยแพร่ข้อมูลการทดลองระยะที่ 3[37][38]
โคแว็กซินยังได้รับการอนุมัติให้ใช้ในกรณีฉุกเฉินในประเทศอิหร่านและซิมบับเว[39][40] เมื่อวันที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2564 มอริเชียสได้รับโคแว็กซินในเชิงพาณิชย์เป็นครั้งแรก[41] เนปาลให้สิทธิ์ EUA สำหรับ Covaxin เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2564[42] เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2564 ปารากวัยได้รับโคแว็กซิน 100,000 โดส[43] เมื่อวันที่ 7 เมษายน เม็กซิโกอนุมัติให้ใช้ในกรณีฉุกเฉินสำหรับโคแว็กซิน[44] เมื่อวันที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2564 ฟิลิปปินส์ได้ให้สิทธิ์ EUA แก่โคแว็กซิน[45] นอกจากนี้โคแว็กซินยังได้รับสิทธิ์ EUA ในกัวเตมาลา, นิการากัว, กายอานา, เวเนซุเอลา, บอตสวานา[46]
หน่วยงานกำกับดูแลด้านสุขภาพของบราซิลปฏิเสธเอกสารคำขอของภารตะไบโอเทค ในการจัดหาโคแว็กซินในประเทศ เนื่องจากไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานการผลิตยา บริษัทภารตะไบโอเทค ระบุว่าพวกเขาจะยื่นคำขอใหม่หลังจากที่มีคุณสมบัติตรงตามข้อกำหนด[47]
เมนูนำทาง
BBV152 การอนุมัติให้ใช้ในกรณีฉุกเฉินใกล้เคียง
BBV152แหล่งที่มา
WikiPedia: BBV152 //pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/29555218 //www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC5890396 http://ddnews.gov.in/health/human-clinical-trials-... //doi.org/10.1016%2FS1473-3099(20)30942-7 //doi.org/10.1016%2FS1473-3099(21)00070-0 //doi.org/10.1016%2Fj.isci.2021.102298 //doi.org/10.1016%2Fj.vaccine.2018.03.010 //doi.org/10.1093%2Fjtm%2Ftaab051 //doi.org/10.1101%2F2021.04.23.441101 //www.worldcat.org/issn/0362-4331