ประวัติทางพฤกษศาสตร์ ของ Nepenthes_fusca

N. fusca ถูกเก็บได้ครั้งแรกโดย เฟรดเดอร์ริก เอ็นเดอร์ต (Frederik Endert) ในวันที่ 12 ตุลาคม ค.ศ. 1925 จากภูเขาแคมมูล (Kemul) ในกาลีมันตันตะวันออก ที่ความสูง 1500 ม. มันถูกค้นพบระหว่างการสำรวจใจกลางบอร์เนียวโดยสถาบันวิจัยป่าไม้แห่งโบกอร์ (Bogor) (หรือที่รู้จักกันในชื่อบิตเทนซอร์ก (Buitenzorg)) [3] ซึ่งในการสำรวจครั้งนั้นเอ็นเดอร์ตเก็บ N. mollis มาได้ด้วยเหมือนกัน[4][a] ตัวอย่างของ N. fusca ถูกตั้งชื่อว่า Endert 3955 เป็นเพศผู้และเก็บรักษาที่หอพรรณไม้แห่งโบกอร์ ซึ่งเป็นหอพรรณไม้ของสวนพฤกษศาสตร์โบกอร์[5][6] เอ็นเดอร์ตเขียนเกี่ยวกับหม้อข้าวหม้อแกงลิงชนิดนี้ในบัญชีรายละเอียดปี ค.ศ. 1927 ของคณะสำรวจไว้[3] ถึงแม้เขาจะระบุบผิดว่าเป็น N. veitchii[5][6]

N. fusca ถูกแจกจงรูปแบบ[b]ในปี ค.ศ. 1928 โดยนักพฤกษศาสตร์ชาวเนเธอร์แลนด์ที่ชื่อ บี.เอช. แดนเซอร์ (B. H. Danser) ในเอกสารสัมนา "The Nepenthaceae of the Netherlands Indies (หม้อข้าวหม้อแกงลิงแห่งหมู่เกาะอินเดียตะวันออกของดัตช์) "[5] แดนเซอร์เขียนเกี่ยวกับ N. fusca ไว้ว่า:[5]

นี้เป็นชนิดใหม่ ร่วมกับ N. Veitchii และ N. stenophylla เป็นญาติใกล้ชิดกับ N. maxima แต่สามารถแบ่งแยกกันได้ชัดเจน ตามที่เอ็นเดอร์ตบันทึกไว้มันเติบโตในป่าบนสันเขาหินแคบๆที่ปกคลุมด้วยฮิวมัส หาได้ไม่ยาก

นักพฤกษศาสตร์ชื่อเจน สเชลาเลอร์ (Jan Schlauer) ได้บันทึกความแตกต่างระหว่างตัวอย่างต้นแบบของ N. fusca และต้นไม้จากซาบะฮ์ที่อ้างเป็นหม้อข้าวหม้อแกงลิงชนิดนี้[7] ดังต้นไม้ที่แสดงในรูปประกอบในหนังสือ Nepenthes of Mount Kinabalu (หม้อข้าวหม้อแกงลิงจากภูเขากีนาบาลู) ของคุระตะนั้นคือ N. stenophylla (ต่างจาก N. fallax อย่างชัดเจน) [6][c] ส่วนแมตทิว จิบบ์ (Matthew Jebb) ไม่พิจาณาลักษณะที่แตกต่างเพียงพอที่แยกข้อผิดถูกที่เด่นชัดที่ระดับชนิด เขาแนะว่าตัวอย่างต้นแบบประกอบด้วยหม้อกลางและหม้อบนซึ่งตรงข้ามกับรูปแบบที่แท้จริงทั้งสอง ทำให้มันผิดแบบไป[7]

การจัดลำดับชั้นทางอนุกรมวิธานรูปแบบลำต้นที่ไม่แน่นอนนี้โดยมากมาจากข้อเท็จจริงว่า N. fusca นั้นไม่รู้ที่ตั้งแบบฉบับและต้นไม้ที่คล้ายกันนั้นถูกเหมาเอาว่าอยู่ในชนิดนี้[4] แมตทิว จิบบ์และมาร์ติน ชีก (Martin Cheek) พยายามแก้ปัญหาความสับสนนี้ในเอกสารของพวกเขาในปี ค.ศ. 1997 โดยให้ N. fusca นั้นแพร่พันธุ์ไปทั่วและเป็นชนิดที่มีความหลากหลายสูง[8]

ชนิดย่อย

ชนิดย่อยสองชนิดของ N. fusca ที่ถูกพรรณาไว้: N. fusca ชนิดย่อย apoensis และ N. fusca ชนิดย่อย kostermansiana ทั้งสองถูกตั้งชื่อโดยเจ.เอช. อดัม (J. H. Adam) และ ซี.ซี. วิลคัก (C. C. Wilcock) และภายหลังตีพิมพ์ลงในเอกสารของจิบบ์และชีกปี ค.ศ. 1997[8] ชื่อทั้งสองถูกเผยแพร่ออกไปโดยปราศจากการแจกแจงที่ดีพอ ทำให้มันถูกพิจารณาเป็นชื่อตั้งไร้คำบรรยาย[6] ชนิดย่อย apoensis ถูกอธิบายรูปแบบบนพื้นฐาน Chai 35939 ตัวอย่างถูกเก็บจากภูเขาอโพ (Apo) [6] สเชลาเลอร์พิจารณาว่าเป็นชื่อพ้องกับ N. fallax[6] N. fusca ชนิดย่อย kostermansiana ถูกคิดว่าเป็นตัวกำหนดชนิดที่ถูกต้อง ตัวอย่างของชนิดย่อยนี้ (Kostermans 21495) ถูกเก็บได้ในวันที่ 25 ตุลาคม ค.ศ. 1963 จากแม่น้ำคีลไล (Kelai) , ภูเขาอินจาพา (Njapa) , บเรา (Berau) [6] มันเก็บอยู่ที่หอพรรณไม้แห่งชาติประเทศเนเธอร์แลนด์ในไลเดน (Leiden) [6]

Nepenthes maxima

N. maxima หม้อข้าวหม้อแกงลิงพื้นเมืองของซูลาเวซี, นิวกินี, และหมู่เกาะโมลุกกะ เป็นหนึ่งในชนิดที่คิดว่ามีการกระจายตัวทั่วบอร์เนียว ผู้แต่งบางคนเขียนไว้ว่ามันแพร่ไปทั่วบนเกาะ[1] ความสับสนนี้เกิดมาจากความคล้ายคลึงกันของ N. fusca และ N. maxima และจากการติดป้ายผิดของเมล็ดที่เก็บโดยชาร์ลส์ เคอร์ทีส (Charles Curtis) เนื่องจากเคอร์ทีสไม่ละเอียดละออในการบันทึกสถานที่ตั้งของต้นไม้ ถึงแม้แต่เดิมเชื่อว่าเขาเก็บ N. curtisii (ปัจจุบันถูกพิจารณเป็นชื่อพ้องของ N. maxima) มา[9] ในบอร์เนียวนักพฤกษศาสตร์ที่ชื่อชาร์ลส์ คลาร์ก (Charles Clarke) ชี้ว่าเมื่อเขาไปซูลาเวซีในการเดินทางเดียวกัน และพบ N. maxima ที่นั่น[7]

หม้อบนของ N. maxima จากซูลาเวซี

แมตทิว จิบบ์และมาร์ติน ชีกแก้ไขความสับสนนี้ในบทความของพวกเขาในปี ค.ศ. 1997 โดยอ้างถึงหมายเลขของต้นไม้จากบอร์เนียวที่ระบุบว่าเป็น N. maxima ที่จริงนั้นเป็น N. fusca ด้วยวิธีนั้นสามารถแยกรูปแบบก่อนหน้านี้จากเกาะได้[8]

Nepenthes zakriana

ปี ค.ศ. 1996, เจ.เอช. อดัม (J. H. Adam) และ ซี.ซี. วิลคัก (C. C. Wilcock) ได้พรรณาถึง Nepenthes curtisii ชนิดย่อย zakriana[10][d] สิบปีต่อมาอดัมและฮาฟิซา เอ. เฮมิด (Hafiza A. Hamid) ได้ยกมันขึ้นเป็นชนิดในชื่อ Nepenthes zakriana [11] เป็นหม้อข้าวหม้อแกงลิงถิ่นเดียวของรัฐซาบะฮ์, เกาะบอร์เนียว ขึ้นสูงจากระดับน้ำทะเล 1200 - 1500 เมตร[11]

อดัมและฮาฟิซาเขียนไว้ว่า N. zakriana " แตกต่างจาก Nepenthes fusca โดย เส้นกลางใบนูนเด่นชัด, มีติ่งแหลมยาวบนผิวใต้ฝาหม้อของหม้อล่างและหม้อบน; และตรงกลางส่วนฐานของเส้นกลางใบมีต่อมรูปเล็บ (nail-shaped) ยื่นเป็นหงอน"[11] อย่างไรก็ตาม, บางคนมีข้อสงสัยต่อ N. zakriana ที่จะยกขึ้นเป็นชนิด[12] และใน Pitcher Plants of Borneo (พืชกินแมลงแห่งบอร์เนียว) แต่งโดย แอนเทีย ฟิลลิปซ์ (Anthea Phillipps) , แอนโทนี แลมบ์ (Anthony Lamb) , และชีอัน ลีล์ (Ch'ien Lee) N. zakriana ถูกพิจารณาให้เป็นเพียงความหลากหลายของ N. fusca ในธรรมชาติ[4]

Nepenthes sp. A

ในเอกสารของชาร์ลส์ คลาร์กในปี ค.ศ. 1997 ที่ชื่อ Nepenthes of Borneo (หม้อข้าวหม้อแกงลิงแห่งบอร์เนียว) บัญชีรายชื่อที่ไม่ระบุบอนุกรมวิธาน "Nepenthes sp. A" ที่ถูกบันทึกจากอุทยานแห่งชาติกูนุงมูลูในรัฐซาราวัก[7] มีลักษณะคล้ายกับ N. fusca และอาจจะเป็นชนิดเดียวกัน[7] ถึงแม้ว่าสีของมันจะไม่เหมือนทั่วๆไปของชนิดนี้[13] หม้อของพืชชนิดนี้คล้ายกับที่เจ.เอช. อดัมและซี.ซี. วิลคักพรรณาลักษณะ[14] ของ N. faizaliana[7] แต่ N. faizaliana มีฝาหม้อกลม (ตรงข้ามกับฝาสามเหลี่ยมแคบของ N. fusca และ "Nepenthes sp. A") แสดงว่าทั้งสองชนิดไม่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกัน[7] คลาร์กเสนอว่าชนิดนี้อาจเป็น N. fusca ภายใต้ลักษณะโดยรวมของ N. fusca โดยจิบบ์ และชีก แต่ยังคงจัดอยู่ในชนิดที่ไม่ระบุบเพราะเรายังรู้เกี่ยวกับมันยังไม่ดีนัก[7]

ภาพประกอบแรกของ "Nepenthes sp. A" อยู่ในบทความปี ค.ศ. 1988 โดยแอนเทีย ฟิลลิปซ์และแอนโทนี แลมบ์ในส่วนไม่ระบุบชนิด[15]

แหล่งที่มา

WikiPedia: Nepenthes_fusca http://ansijournals.com/ijb/2006/431-436.pdf http://www.omnisterra.com/bot/cp_home.cgi?name=Nep... http://www.omnisterra.com/bot/cp_home.cgi?name=Nep... http://www.omnisterra.com/bot/cp_home.cgi?name=Nep... http://www.omnisterra.com/botany/cp/pictures/nepen... http://www.sarracenia.com/faq/faq5037.html http://www.ias.unu.edu/about/ahzakri.cfm http://www.nationaalherbarium.nl/fmcollectors/E/En... http://carnivorousplants.org/cpn/articles/CPNv12n4... http://carnivorousplants.org/cpn/articles/CPNv14n2...