เจ้าอนุวงศ์แตกทัพ ของ กบฏเจ้าอนุวงศ์

ทางกรุงเมื่อทราบข่าว ก็มีการแต่งทัพออกไปช่วย โดยให้กรมพระราชวังบวรมหาศักดิพลเสพย์ยกกองทัพไปยังสระบุรี ครั้นทัพหน้าเวียงจันทน์ทราบข่าวก็ถอยไปยังนครราชสีมา

ฝ่ายเจ้าอนุวงศ์ได้กวาดต้อนชาวเมืองและยึดทรัพย์สินจากนครราชสีมา คุณหญิงโม ภริยาพระยาปลัดเมืองนครราชสีมาเป็นหนึ่งในผู้ที่ถูกกวาดต้อนไปด้วย ก็ออกอุบายขอให้ผ่อนให้ควบคุมไปช้า ๆ เพื่อรอให้บรรดาชาวเมืองไปให้ทันกัน ครั้นถึงทุ่งสัมฤทธิ์ คุณหญิงโมก็เลี้ยงสุราแก่ทหารลาว เมื่อเห็นได้โอกาส ชาวเมืองทั้งหลายต่างก็ใช้อาวุธฆ่าฟันทหารลาวตายเป็นจำนวนมาก ทัพลาวได้แตกทัพหนีไป ส่วนชาวเมืองทั้งหลายก็ตั้งค่ายที่ทุ่งสัมฤทธิ์นั้น มีชาวเมืองที่หลบหนีมาเข้าด้วยเป็นจำนวนมาก

เจ้าอนุวงศ์ส่งกองทัพมาตีค่ายก็ถูกตีพ่ายกลับไป ครั้นเมื่อทราบข่าวทางกรุงยกทัพมาช่วยนครราชสีมา ก็นำทัพกลับไปยังเวียงจันทน์ โดยจัดทัพคอยสกัดตามด่านเพื่อเตรียมการต่อสู้

พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงให้พระยาราชสุภาวดีคุมทัพที่สองไปปราบกบฏทางอุบลราชธานีและร้อยเอ็ด แล้วไปบรรจบกับทัพแรกที่เวียงจันทน์ และทรงให้เจ้าพระยาอภัยภูธรคุมทัพที่สามไปปราบเมืองหล่มและหัวเมืองขึ้น แล้วไปบรรจบกันที่เวียงจันทน์อีกทัพหนึ่ง

กองทัพของพระยาราชสุภาวดีตีพวกกบฏตั้งแต่พิมาย ยโสธร ไปจนถึงจำปาศักดิ์ จับได้ตัวเจ้านครจำปาศักดิ์และบุตรหลานของเจ้าอนุวงศ์ เสร็จแล้วก็ผ่านนครพนมไปสมทบกันที่เวียงจันทน์

อีกด้านหนึ่ง ทัพหลวงของกรมพระราชวังบวรมหาศักดิพลเสพย์ตีด่านหนองบัวลำภู ค่ายทุ่งส้มป่อย ใกล้กับช่องเขาข้ามไปยังเวียงจันทน์ ทหารลาวส่งกองทัพมาล้อม สู้กันเป็นเวลา 7 วัน กองทัพลาวก็ถูกตีพ่ายกลับไป เสร็จแล้วก็ยกทัพเข้าเวียงจันทน์ได้อย่างง่ายดาย ฝ่ายเจ้าอนุวงศ์ที่เห็นว่ากองทัพลาวที่ด่านหนองบัวลำภูแพ้แล้วก็ไม่คิดต่อสู้อีก รีบพาครอบครัวอพยพไปญวน

ครั้นยึดเมืองได้แล้ว พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงมอบหมายให้ทำลายนครเวียงจันทน์ให้หมดสิ้น แต่กระทำการยังไม่สำเร็จ ก็นำทัพกลับมายังกรุงเทพมหานครเสียก่อน