ประวัติ ของ กาพย์ฉบัง

คนเรา เคยเชื่อกันว่ากาพย์เป็นคำประพันธ์ที่ดัดแปลงมาจากฉันท์ แต่สำหรับ กาพย์ฉบัง นี้ไม่ปรากฏว่ามาจากฉันท์ชนิดใด และไม่เหมือนกาพย์ชนิดใดในตำรากาพย์ ขณะที่สุจิตต์ วงษ์เทศ ระบุว่ากาพย์ฉบังเป็นฉันทลักษณ์เขมร โดย ฉบัง มีรากจากคำเขมรว่า “จฺบำง” หรือ “จํบำง” (ไทยใช้ว่า จำบัง) แปลว่า รบ, สงคราม แต่กวีเขมรบรรยายฉากสงคราม, เคลื่อนทัพ, สู้รบ ด้วยฉันทลักษณ์ที่เขมรเรียกบทพํโนล(ปุมโนล) แล้วไทยเรียกฉบัง[1]

ในจินดามณีมีข้อความว่า

จ ○○○○○○  ○○○○  ○○○○○○ ฯ 16 ฉบังโคลสิงฆฉันท์ ฯ มิได้กำหนด ครุ ลหุ แลนิยมแต่กลอนฟัดกันอย่างกาพย

เมื่อพิจารณากาพย์ตัวอย่างแล้วฉันทลักษณ์ก็คือ กาพย์ฉบัง 16 นั่นเอง[2] ส่วนคำว่า โคลสิงฆฉันท์ น่าจะเป็นชื่อวรรณกรรมที่ยกมาเป็นตัวอย่าง

นอกจากนี้ในจินดามณี ยังปรากฏรูปแบบกาพย์ฉบังอีก 2 ชนิด[3] จากที่ระบุว่า

๏ ○○○○○○  ○○○○ ○○○○○○○○ ฯ 18ชื่อฉันทฉบำดำเนอรกลอน 4

และ

๏  ○○○○○○○   ○○○○○    ○○○○○○ ฯ 18ฉันทฉบำดำเนอรกลอน 5 ฯ

เมื่อพิจารณากาพย์ตัวอย่างแล้วฉันทลักษณ์เป็นกาพย์ฉบัง 18 แต่การจัดวรรคต่างกัน คำว่าดำเนอรกลอน 4 หมายถึงการรับสัมผัสคำที่ 4 ของวรรคที่สอง และดำเนอรกลอน 5 หมายถึงการรับสัมผัสคำที่ 5 ของวรรคที่สองนั่นเอง