ชีววิทยา ของ การกระตุ้น

ชีวเคมี

ในสาขาชีวเคมี การกระตุ้น หรือที่เรียกโดยเฉพาะว่า การกระตุ้นทางชีวภาพ (bioactivation) เป็นสภาพที่เอนไซม์หรือโมเลกุลที่มีฤทธิ์ทางชีวภาพอื่น ๆ เกิดได้สมรรถภาพเพื่อออกฤทธิ์ เช่น proenzyme ที่ไม่มีฤทธิ์ได้แปลงสภาพเป็นเอนไซม์ที่มีฤทธิ์เร่งปฏิกิริยาซับสเตรตของมันให้เปลี่ยนเป็นผลผลิตการกระตุ้นทางชีวภาพอาจหมายถึงกระบวนการที่ยา prodrug ที่ไม่มีฤทธิ์ ได้เปลี่ยนอาศัยเมแทบอลิซึมในร่างกายให้เป็นเมแทบอไลต์/คือยาที่มีฤทธิ์ เช่นการเปลี่ยน protoxin ที่ยังไม่มีฤทธิ์ให้เป็นสารที่มีพิษทางชีวภาพจริง ๆ ที่พบในกระบวนการแปรเป็นสารพิษ (toxication)

เอนไซม์อาจก่อกัมมันต์ทางชีวภาพได้ทั้งโดยแบบที่ผันกลับได้ (reversible) และผันกลับไม่ได้ (irreversible) กลไกหลักของการกระตุ้นทางชีวภาพที่ผันกลับไม่ได้ก็คือ การแยกโปรตีนส่วนหนึ่งออก (cleavage) กลายเป็นเอนไซม์ที่มีฤทธิ์ ส่วนกลไกหลักของการกระตุ้นทางชีวภาพที่ผันกลับได้ก็คือ โคแฟกเตอร์จะจับกับเอนไซม์ ซึ่งก็จะมีฤทธิ์ตราบเท่าที่ยังจับกันอยู่ และหยุดมีฤทธิ์เมื่อแยกออกจากกัน

ในกระบวนการสังเคราะห์โปรตีน ทีอาร์เอ็นเอ (tRNA) จะขนส่งกรดอะมิโนไปเติมให้กับโซ่โพลีเพปไทด์ที่กำลังยาวขึ้นบนไรโบโซม โดยก่อนที่จะถ่ายโอนกรดอะมิโนไปให้ไรโบโซม tRNA จะต้องสร้างพันธะโคเวเลนต์กับกรดอะมิโนด้วยปลายที่เป็น 3' CCA ซึ่งเร่งปฏิกิริยาโดย aminoacyl-tRNA synthetase และต้องใช้อะดีโนซีนไตรฟอสเฟต (ATP) โมเลกุลหนึ่ง กรดอะมิโนที่ยึดกับ tRNA เรียกว่า aminoacyl-tRNA และจัดเป็นโมเลกุลก่อกัมมันต์ในการแปลรหัสโปรตีน เมื่อมีสภาพก่อกัมมันต์แล้ว aminoacyl-tRNA ก็อาจถ่ายโอนไปยังไรโบโซม แล้วเติมกรดอะมิโนให้กับโซ่โพลีเพปไทด์ที่กำลังยาวขึ้น[3]

วิทยาภูมิคุ้มกัน

ในสาขาวิทยาภูมิคุ้มกัน การกระตุ้นเป็นการแปรสภาพเม็ดเลือดขาวหรือเซลล์อื่น ๆ ที่มีบทบาทในระบบภูมิคุ้มกัน ในนัยกลับกัน การหยุดกระตุ้น (deactivation) หมายถึงการแปรสภาพในทางกลับกัน ดุลของกระบวนการสองอย่างนี้จะต้องควบคุมอย่างเข้ม เพราะการกระตุ้นน้อยเกินไปจะทำให้ติดเชื้อได้ง่าย และมากเกินไปก็จะเป็นเหตุของโรคภูมิต้านตนเอง การกระตุ้นและการหยุดกระตุ้นเป็นผลของปัจจัยหลายอย่าง รวมทั้ง cytokines, soluble receptors, arachidonic acid metabolites, สเตอรอยด์, receptor antagonists, adhesion molecules, ผลผลิตของแบคทีเรียและไวรัส