ความเห็น ของ การค้าประเวณีเด็ก

จากสาธารณชน

นักมานุษยวิทยาคนหนึ่งกล่าวว่า สังคมโดยมากมีความเห็นเชิงลบเกี่ยวกับการค้าประเวณีเด็ก ส่วนหนึ่งเพราะมองว่าเด็กถูกทอดทิ้งหรือขายโดยผู้ปกครองและครอบครัว[72]องค์การแรงงานระหว่างประเทศรวมการค้าประเวณีเด็กในรายการ "รูปแบบแรงงานเด็กที่แย่ที่สุด"[73]งานประชุมโลกใหญ่ต้านการฉวยประโยชน์การค้าทางเพศจากเด็กในปี 1996 เรียกการค้าประเวณีเด็กว่า "อาชญากรรมต่อมนุษยชาติ" "การทรมาน" และ "การเป็นทาส"[74]ผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์รัฐบาลกลางสหรัฐผู้เชี่ยวชาญเรื่องการฉวยประโยชน์จากเด็กและการค้ามนุษย์ พร้อมกับผู้ร่วมเขียนที่เป็นศาสตราจารย์ทางกฎหมายกล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องสะเทือนอารมณ์ที่มีมุมมองหลายด้านเกี่ยวกับการป้องกัน คือ

ประเด็นการห้ามและการลงโทษเพราะการฉวยประโยชน์จากเด็กเป็นเรื่องที่สะเทือนอารมณ์อย่างรุนแรงแม้ว่าจะมีมติโดยทั่วไปว่า การฉวยประโยชน์จากเด็ก ไม่ว่าจะมาจากอินเทอร์เน็ต จากการค้าประเวณีแบบบังคับ จากการลักลอบพาเด็กข้ามประเทศหรือภายในประเทศเพื่อค้าเซ็กซ์ หรือว่าจากการทำร้ายเด็กทางเพศ (molestation) เป็นเรื่องที่เกิดเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆผู้ที่รู้เหตุการณ์ทั้งในสหรัฐอเมริกาและที่อื่น ๆ มีข้อตกลงร่วมกันน้อยว่า เป็นพฤติกรรมที่เลวร้ายแค่ไหนหรือว่าควรจะทำอะไรเพื่อแก้ปัญหานี้ถ้าต้องทำโดยประการทั้งปวง[75]

นักข่าวสืบสวนคนหนึ่งกล่าวว่า การเหมารวมเรื่องการค้าประเวณีเด็กดำเนินมาเรื่อย ๆ จนถึงคริสต์ทศวรรษ 1990จนกระทั่งเมื่อเกิดองค์กรต่อต้านขึ้นองค์กรแรก และเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเริ่มทำการเพื่อแก้ไขความเข้าใจผิด[76]นักอาชญาวิทยาคนหนึ่งกล่าวว่า ความเป็นห่วงเรื่องโรคใคร่เด็กและการทารุณเด็กทางเพศ และทัศนคติเกี่ยวกับเยาวชนที่เปลี่ยนไป ทำให้ประชาชนเห็นความแตกต่างที่ชัดเจนระหว่างการค้าประเวณีของผู้ใหญ่กับของเด็กคือ แม้ว่าประชาชนจะไม่ชอบใจการค้าประเวณีของผู้ใหญ่ แต่เห็นการค้าของเด็กว่ารับไม่ได้[77]นอกจากนั้นแล้ว เด็กยังมองว่าเป็นผู้ "ไร้เดียงสา" หรือ "บริสุทธิ์" และการถูกค้าประเวณีจึงเทียมเท่ากับถูกจับเป็นทาส[77]โดยทัศนคติที่เปลี่ยนไปเช่นนี้ ประชาชนจึงเริ่มเห็นเด็กในการค้าเพศว่าเป็นเหยื่อแทนที่จะเป็นผู้กระทำผิดเป็นผู้ควรที่จะฟื้นฟูสภาพแทนที่จะลงโทษ[78]

จากผู้ต่อต้าน

แม้ว่าการรณรงค์ต่อต้านการค้าประเวณีเด็กจะมีตั้งแต่คริสต์ทศวรรษ 1800 แล้ว[79]แต่การประท้วงโดยคนจำนวนมากเกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในคริสต์ทศวรรษ 1990 ในสหรัฐอเมริกา นำโดยองค์กร ECPAT (ย่อมาจากคำว่า หยุดการค้าประเวณีเด็ก สื่อลามกเด็ก และการค้าเด็กเพื่อเซ็กซ์)นักประวัติศาสตร์กล่าวถึงกลุ่มนี้ว่า "เป็นกลุ่มรณรงค์ต่อต้านการค้าประเวณีเด็กที่สำคัญที่สุด"โดยเบื้องต้นกลุ่มให้ความสนใจในปัญหาเด็กถูกฉวยประโยชน์ในเอเชียอาคเนย์โดยนักท่องเที่ยวชาวตะวันตก[80]ต่อมา กลุ่มสิทธิสตรีและกลุ่มต่อต้านเซ็กซ์ทัวร์ได้เข้าร่วมประท้วงการดำเนินการเซ็กซ์ทัวร์ในกรุงเทพมหานครเพราะการจุดชนวนจากรูปเยาวชนไทยที่ค้าประเวณีและออกข่าวในนิตยสาร ไทม์และจากการตีพิมพ์พจนานุกรมในสหราชอาณาจักรที่กล่าวถึงกรุงเทพว่า "เป็นแหล่งที่มีโสเภณีมาก"[81]นักมานุษยวิทยาวัฒนธรรมกล่าวว่า แม้ว่า การประท้วงจะไม่ช่วยลดเซ็กซ์ทัวร์หรืออัตราการค้าประเวณีเด็กที่กำลังเพิ่มขึ้น แต่กลุ่มเหล่านี้ "กระตุ้นความเห็นมวลชนทั้งระดับชาติและระดับสากล" และประสบผลสำเร็จในการชักให้สื่อมวลชนใส่ใจในเรื่องนี้อย่างกว้างขวางเป็นครั้งแรก[81]ECPAT ต่อมาจึงขยายการประท้วงเรื่องการค้าประเวณีเด็กไปทั่วโลก[80]

ในสหรัฐอเมริกาปลายคริสต์ทศวรรษ 1990 และต้นทศวรรษ 2000 มีการตั้งบ้านหลีกภัยและโปรแกรมฟื้นฟูสภาพสำหรับเด็กที่ถูกค้าประเวณีและตำรวจก็เริ่มสืบสวนปัญหานี้อย่างเอาจริงเอาจัง[76]ศูนย์ทรัพยากรการค้ามนุษย์แห่งชาติก็ได้รับการก่อตั้งขึ้น สามารถโทรไปหาได้ฟรี 24 ชม. ตลอด 7 วัน[82]โดยออกแบบให้ผู้โทรสามารถรายงานข้อมูลหรือรับข้อมูลเกี่ยวกับการค้ามนุษย์[83]

การต่อต้านการค้าประเวณีเด็กและความเป็นทาสทางเพศขยายไปยังยุโรปและประเทศอื่น ๆ โดยองค์การต่าง ๆ ผลักดันให้ยอมรับเด็กว่าเป็นเหยื่อแทนที่จะเป็นผู้กระทำผิด[77]ซึ่งก็ยังเป็นประเด็นที่ยังเด่นในปีต่อ ๆ มา ที่องค์กรต่าง ๆ ช่วยรณรงค์ในทศวรรษ 2000 และ 2010[77]

ใกล้เคียง

การค้าประเวณี การค้าประเวณีเด็ก การค้าประเวณีในประเทศไทย การค้นหาแบบทวิภาค การค้าเครื่องเทศ การค้นหาแบบเอสตาร์ การค้นหาและกู้ภัยในเขตเมือง การค้นหาในแนวกว้าง การค้าระหว่างประเทศ การค้นหาในแนวลึกแบบวนเพิ่มความลึก

แหล่งที่มา

WikiPedia: การค้าประเวณีเด็ก http://www.news.com.au/lifestyle/real-life/highway... http://www2.canada.com/victoriatimescolonist/news/... http://www.childrenofcambodia.com/prostitution.php http://www.cnn.com/2009/WORLD/asiapcf/05/11/india.... http://www.endhumantraffickingnow.com/who-are-the-... http://books.google.com/books?id=1xFnEyqFupUC&pg=P... http://books.google.com/books?id=2m8FS13H1joC&pg=P... http://books.google.com/books?id=4aWUokf6MnkC&pg=P... http://books.google.com/books?id=8BCdMBhtwUMC&pg=P... http://books.google.com/books?id=8R6WRMLEceUC&prin...