ผู้สนับสนุนแนวคิด ของ การตั้งนิคมในอวกาศ

แนวคิดในเรื่องนี้ คือ การที่มีหลักประกันว่ามนุษย์จะอยู่รอดในอวกาศได้ โดยปลอดภัยทั้งในด้านภัยพิบัติและสิ่งแวดล้อม

ในอดีตได้มีนักฟิสิกส์เชิงทฤษฎีทางด้านจักรวาลชื่อ สตีเฟ่น ฮอว์คิง ได้กล่าวสนับสนุนเอาไว้ โดยกล่าวไว้ในปี ค.ศ. 2001 ค.ศ. 2006 และในปี ค.ศ. 2011 ไว้ว่าวิธีที่จะรักษาเผ่าพันธุ์มนุษย์ไว้ได้คือการสร้างโคโลนี โดยมนุษย์อาจสูญพันธุ์ได้ในอีก 1,000 ปี ข้างหน้า ดังนั้นจึงต้องเร่งสร้างโคโลนีโดยเร็วเพื่อรักษาเผ่าพันธุ์มนุษย์เอาไว้[1] และมีเนื้อหาสำคัญที่กล่าวไว้ใน ค.ศ. 2006 ด้วยว่าเราอาจต้องสูญเสียเผ่าพันธุ์มนุษย์ไปในอีก 200 ปีข้างหน้านี้หากไม่สร้างโคโลนี[2]

Louis J. Halle ได้กล่าวไว้ในนิตยสาร Foreign Affairs ในฤดูร้อน ค.ศ. 1980 ว่าอาจเกิดสงครามนิวเคลียร์ขึ้น ดังนั้นการสร้างโคโลนีจึงนับเป็นความคิดที่ดีในการรักษาเผ่าพันธุ์มนุษย์เอาไว้[3] Paul Davies นักฟิสิกส์ท่านหนึ่งได้เสนอมุมมองที่น่าสนใจเกี่ยวกับการตั้งนิคมในอวกาศไว้ว่า หากโลกเผชิญกับภัยพิบัติครั้งใหญ่จริง โคโลนีจะเป็นทางเลือกที่ดีในการรักษาเผ่าพันธุ์ของมนุษย์เอาไว้ เพราะเมื่อเวลานั้นมาถึงมนุษย์จะได้มีโอกาสกลับไปโลกเพื่อฟื้นฟูอารยธรรมมนุษย์และสิ่งแวดล้อมบนโลกหลังจากภัยพิบัติผ่านพ้นไป นอกจากนี้นักประพันธุ์และนักเขียนชื่อ William E. Burrows รวมถึงนักชีววิทยาชื่อ Robert Shapiro ได้กล่าวสนับสนุนให้ภาคเอกชนร่วมโครงการรักษาเผ่าพันธุ์มนุษย์โดยการตั้งนิคมในอวกาศอีกด้วย[4]

J. Richard Gott ผู้มีพื้นฐานความคิดในแนวทางของนิโคเลาส์ โคเปอร์นิคัส (Copernican principle) โดย J. Richard Gott ได้คาดการณ์ว่าอารยธรรมมนุษย์น่าจะอยู่ได้อีก 7.8 ล้านปี แต่เขาก็คิดว่าน่าจะมีอารยธรรมของสิ่งมีชีวิตอื่นอยู่ในอวกาศด้วย เพราะหากพวกเขามาเยือนอาจมีสิ่งไม่คาดคิดเกิดขึ้น ดังนั้นการสร้างโคโลนีจะเป็นช่วยรักษาเผ่าพันธุ์มนุษย์เอาไว้ได้[5]

ใกล้เคียง

การตั้งชื่อทวินาม การตั้งครรภ์ การตั้งชื่อพายุหมุนเขตร้อน การตั้งชื่อระบบไบเออร์ การตัดหลอดนำอสุจิ การตั้งชื่อดาวฤกษ์ การตัดมดลูก การตั้งครรภ์นอกมดลูก การตัดศีรษะ การตักบาตร