บทความนี้ใช้ระบบคริสต์ศักราช เพราะอ้างอิงคริสต์ศักราชและคริสต์ศตวรรษ หรืออย่างใดอย่างหนึ่ง
การประสูติของพระเยซู (
อังกฤษ: Nativity หรือ Nativity of Jesus) เป็นหัวเรื่องที่วาดกันบ่อยที่สุดหัวข้อหนึ่งใน
ศิลปะศาสนาคริสต์ตั้งแต่
คริสต์ศตวรรษที่ 4 องค์ประกอบของศิลปะที่สร้างขึ้นเพื่อฉลองวัน
คริสต์มาสตามข้อมูลใน
พระวรสารนักบุญมัทธิวและ
พระวรสารนักบุญลูกา และต่อมาก็มีการเพิ่มเรื่องราวจากข้อเขียนอื่น ๆ หรือเรื่องเล่าต่าง ๆ ศิลปะคริสต์ศาสนามักจะมี
รูปเคารพของ
พระนางมารีย์พรหมจารีและ
พระกุมารเยซู งานศิลปะแบบนี้จะเรียกว่า “
แม่พระและพระกุมาร” หรือ “พระนางพรหมจารีและพระกุมาร” แต่รูปนี้จะไม่รวมอยู่ในชุด “การประสูติของพระเยซู” ฉากการประสูติของพระเยซูจะมีคำบรรยายอย่างชัดเจนจากหลักฐานหลายแห่งการกำเนิดของพระเยซูเป็นฉากที่ใช้ในการสร้างศิลปะหลายแบบทั้งทางจักษุศิลป์และ
ประติมากรรม และศิลปะแบบอื่น ๆ ในรูปของจักษุศิลป์ก็อาจจะเป็น
ไอคอน,
จิตรกรรมฝาผนัง,
บานพับภาพ,
ภาพเขียนสีน้ำมัน,
หนังสือวิจิตร และ
หน้าต่างประดับกระจกสี บางครั้งการแสดงภาพก็อาจจะผสมระหว่างจักษุศิลป์และประติมากรรม ที่ตั้งของภาพหรืองานศิลปะก็อาจจะเป็น
ฉากประดับแท่นบูชา (Altarpiece) ศิลปะแบบอื่น ๆ ก็อาจจะเป็น
จุลจิตรกรรม งานแกะงาช้าง การแกะภาพบนโลงหิน การสลักบน
หน้าบันเหนือประตูทางเข้าโบสถ์ หรือคานเหนือประตู หรืออาจจะเป็นรูปปั้นแบบลอยตัวรูปปั้นแบบลอยตัวของ “การประสูติของพระเยซู” มักจะทำเป็น “Creche” หรือ “Presepe” ซึ่งเรียกว่า “ฉากพระเยซูประสูติ”
(Nativity scene) ซึ่งอาจจะใช้ตั้งตรงมุมใดมุมหนึ่งของโบสถ์ หน้าหรือในสถานที่สาธารณะ, บ้าน หรือกลางแจ้งเป็นการชั่วคราว ขนาดของกลุ่มรูปปั้นก็มีตั้งแต่ขนาดเล็ก ๆ ไปจนขนาดเท่าคนจริง ที่มาของการสร้าง “ฉากพระเยซูประสูติ” อาจจะมาจากการแสดงกลุ่มรูปปั้น ที่เรียกว่า “
Tableau vivant” ที่กรุง
โรม ซึ่งนักบุญ
ฟรังซิสแห่งอัสซีซีมีบทบาททำให้เป็นที่นิยมกันมากขึ้น การสร้าง “ฉากพระเยซูประสูติ” ก็ยังเป็นที่นิยมกันถึงปัจจุบันนี้ โดยบางครั้งฉากเล็กอาจจะทำจาก
กระเบื้องพอร์ซิเลน (Porcelain),
พลาสเตอร์,
พลาสติก หรือ กระดาษ เพื่อใช้ตั้งภายในที่อยู่อาศัย