การพิสูจน์ด้วยความร้อน ของ การพิจารณาคดีโดยใช้วิธีทรมาน

การพิสูจน์วิธีนี้ผู้ถูกกล่าวหาจะต้องเดินช่วงระยะทางหนึ่งซึ่งมักจะราว 9 ฟุตโดยการเดินบนคันไถที่ร้อนเป็นไฟหรือเดินถือเหล็กร้อนเดิน การตัดสินว่าความบริสุทธิ์ก็จากการที่ผู้พิสูจน์ไม่มีอาการบาดเจ็บจากการทรมาน แต่ตามปกติแล้วผู้ถูกกล่าวหาก็จะได้รับการพันแผลและตรวจโดยนักบวชสามวันต่อมา นักบวชก็จะผู้ที่จะประกาศว่าพระเจ้ามาเป็นผู้ช่วยรักษาให้หาย แต่ถ้าแผลเป็นหนองขึ้นมาผู้ถูกกล่าวหาก็อาจจะถูกเนรเทศหรือประหารชีวิตตามแต่จะตัดสิน

กรณีที่เป็นที่รู้จักกันคือการพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของพระราชินีเอ็มมา ผู้ทรงถูกกล่าวหาว่าโดยพระราชโอรส พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดผู้สารภาพ ว่าทรงมีชู้กับบาทหลวงแห่งวินเชสเตอร์ในคริสต์ศตวรรษที่ 11 ถ้าบันทึกของวัดเป็นที่เชื่อได้พระราชินีเอ็มมาก็ทรงแสดงพระองค์ว่าเป็นผู้บริสุทธิ์อย่างไม่มีที่สงสัย เมื่อทรงดำเนินบนมีดไปแล้วก็ทรงหันมามีพระโองการให้เริ่มการพิสูจน์เริ่มขึ้น

วิธีพิสูจน์อีกวิธีหนึ่งคือให้ผู้ถูกกล่าวหาล้วงก้อนหินจากหม้อน้ำ, น้ำมัน หรือตะกั่วที่เดือด การตัดสินว่าบริสุทธิ์หรือไม่ก็เช่นเดียวกับข้างบน นักบุญเกรกอรีแห่งทัวร์บรรยายการพิจารณาคดีโดยไม่มีระบบศาลในคริสต์ศตวรรษที่ 7 ของการพิสูจน์ตนเองของนักบุญไฮยาซินธ์ โดยการล้วงลงไปหยิบหินในหม้อน้ำเดือดซึ่งใช้เวลาราวชั่วโมงหนึ่งจึงเสร็จ และเมื่อให้ผู้นอกรีตทำเช่นเดียวกันน้ำก็ลวกมือมาจนถึงข้อศอก

จิโอวานนิ ดา ปาน เดล คาร์ปิเนบรรยายว่าเมื่อเดินทางไปเฝ้าบาทูข่าน ประมุขชาวมองโกลก็ถูกบังคับให้เดินผ่านกองไฟสองข้าง[2] เพื่อกำจัดสิ่งชั่วร้ายหรือพิษที่ติดตัวมา

ใกล้เคียง

การพิสูจน์ว่าเป็นเท็จ การพิสูจน์ตัวจริงด้วยปัจจัยหลายอย่าง การพิจารณาคดีเนือร์นแบร์ค การพิชิตจักรวรรดิแอซเท็กของสเปน การพิชิตดินแดนโดยมุสลิม การพิชิตมักกะฮ์ การพิสูจน์ตัวจริงโดยไร้รหัสผ่าน การพิชิตอังกฤษของชาวนอร์มัน การพิมพ์ การพิจารณาซัดดัม ฮุสเซน