เอาฟรืสทุง (
เยอรมัน: Aufrüstung) เป็นยุคการฟื้นฟูแสนยานุภาพทางทหารของ
เยอรมนีใน
ช่วงเว้นจากสงคราม (ค.ศ. 1918-39) ซึ่งถือเป็นการละเมิด
สนธิสัญญาแวร์ซาย แผนการฟื้นแสนยานุภาพเริ่มขึ้นทันทีหลังสนธิสัญญาถูกลงนาม แต่ในระยะแรกเป็นเพียงความเคลื่อนไหวขนาดเล็กและเป็นความลับ
[1] อย่างไรก็ตาม การพื้นแสนยานุภาพได้ขยายตัวขึ้นอย่างมโหฬารภายหลังจาก
พรรคนาซีเรืองอำนาจในปี ค.ศ. 1933แม้ว่าจะมีขนาดเล็ก แต่การเสริมสร้างอาวุธยุทธภัณฑ์สำหรับปีที่ผ่านมาได้ดำเนินการอย่างเป็นความลับเอาไว้อย่างมากมาย การดำเนินส่วนใหญ่อยุ่ในความลับผ่านโดยองค์กร(ซึ่งบางส่วนมีลักษณะเป็นการบังหน้า) จนกระทั่งความจริงของการเสริมสร้างอาวุธยุทธภัณฑ์ของเยอรมันของเยอรมันได้ถูกเปิดเผยโดย
คาร์ล ฟอน ออสซิเอ็ดซกีในปี ค.ศ. 1931 แม้ว่าการเปิดเผยของเขาจะทำให้เขาได้รับ
รางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ คาร์ล ฟอน ออสซิเอ็ดซกีถูกลงโทษโดยผู้มีอำนาจนาซีในการจำคุกเป็นเวลา 227 วัน ตลอดจนถึงการถูกจองจำและทรมารจนกระทั่งเขาเสียชีวิตเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม ค.ศ. 1938
[2] การเปิดเผยของฟอน ออสซิเอ็ดซกีได้กระตุ้นทำให้เกิดนโยบาย
การเสริมสร้างแสนยานุภาพในสหราชอาณาจักร ซึ่งได้เพิ่มมากขึ้น ภายหลังจากที่
อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ได้ถอดถอนเยอรมนีออกจาก
สันนิบาตชาติและ
การประชุมปลดอาวุธโลกในปี ค.ศ. 1933
[3]โครงสร้างการเสริมสร้างอาวุธยุทธภัณฑ์ได้เพิ่มขนาดของเหล่าเจ้าหน้าที่นายทหารเยอรมันอย่างรวดเร็ว และจัดตั้งเป็นขนาดกองทัพที่กำลังเติบโตจะเป็นภาระหน้าที่ของพวกเขาจนกระทั่งการแพร่ระบาดของ
สงครามโลกครั้งที่สองในเดือนกันยายน ค.ศ. 1939 เคานต์
โยฮันน์ ฟอน คีลมันเส็ค (Johann von Kielmansegg) ได้กล่าวในภายหลังว่ากระบวนการมี่เกี่ยวข้องมากกับ 36 กองพลได้สำเร็จลุล่วงสำหรับเขา และเพื่อนร่วมงานของเขาจากผลสะท้อนบนประเด็นใหญ่ๆ
[4]