การรั่วไหลของโทรเลขภายในสหรัฐอเมริกา เริ่มต้นขึ้นในวันที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553 เมื่อเว็บไซต์
วิกิลีกส์ องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรนิวมีเดีย ซึ่งตีพิมพ์ข้อมูลส่วนบุคคลหรือความลับทางราชการจากแหล่งข่าวนิรนาม เริ่มต้นตีพิมพ์เอกสารที่เป็นความลับอันมีเนื้อหาเกี่ยวกับรายละเอียดการติดต่อระหว่างกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกากับคณะผู้แทนทูตทั่วโลก และได้โพสต์เอกสารเพิ่มขึ้นทุกวัน วิกิลีกส์ได้ส่งต่อโทรเลขภายในดังกล่าวให้กับหนังสือพิมพ์หลักของโลกอีกห้าฉบับ ซึ่งได้ตีพิมพ์บทความโดยมีข้อตกลงกับวิกิลีกส์การโพสต์
โทรเลขภายในสถานทูตสหรัฐคราวนี้นับเป็นครั้งที่สามใน "การรั่วไหลครั้งใหญ่" ของเอกสารความลับของสหรัฐอเมริกาซึ่งวิกิลีกส์นำออกเผยแพร่ในปี พ.ศ. 2553 หลังจากการรั่วไหลของเอกสารสงครามอัฟกันในเดือนกรกฎาคม และเอกสารสงครามอิรักในเดือนตุลาคม เนื้อหาที่ได้รับการเปิดเผยอธิบายถึงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศจากสถานทูตมากกว่า 300 แห่ง นับตั้งแต่ พ.ศ. 2509-2553 ซึ่งรวมไปถึงการวิเคราะห์ทางการทูตต่อผู้นำโลก การประเมินประเทศที่สถานทูตนั้นตั้งอยู่ และการอภิปรายเกี่ยวกับประเด็นระหว่างประเทศและภายประเทศเอกสาร 220 ฉบับแรก
[1] จากทั้งหมด 251,287 ฉบับได้รับการตีพิมพ์ในวันที่ 28 พฤศจิกายน โดยเกิดขึ้นพร้อมกับการรายงานในสื่อไล่ตั้งแต่
เอลปาอิส (สเปน)
เลอ มงด์ (ฝรั่งเศส)
แดร์ สปีเกล (เยอรมนี)
เดอะการ์เดียน (สหราชอาณาจักร) และ
เดอะนิวยอร์กไทมส์ (สหรัฐอเมริกา)
[2][3] เอกสารมากกว่า 130,000 ยังไม่ถูกปลดจากชั้นความลับ แต่ไม่มีเอกสารใดอยู่ในระดับ "ลับที่สุด" ตามเกณฑ์การจัดชั้นความลับ เอกสารราว 100,000 ฉบับได้รับการจัดให้อยู่ในระดับ "ลับ" และอีก 15,000 ฉบับได้รับการจัดให้อยู่ในระดับ "ลับมาก" ซึ่งสูงกว่า
[2][4] จนถึงวันที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2553 โทรเลขภายในกว่า 1,532 ฉบับได้รับการเปิดเผย
[5] วิกิลีกส์วางแผนที่จะเผยแพร่โทรเลขภายในทั้งหมดภายในช่วงเวลาอีกหลายเดือนข้างหน้าด้วยอัตรา 80 ฉบับต่อวัน
[3][6]ปฏิกิริยาต่อการรั่วไหลดังกล่าวมีหลากหลาย เจ้าหน้าที่รัฐบาลตะวันตกบางประเทศได้แสดงความไม่เห็นด้วยและประณามอย่างรุนแรง และวิจารณ์ว่าพฤติการณ์ดังกล่าวอาจเป็นอันตรายต่อ
ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและความมั่นคงของโลก การรั่วไหลดังกล่าวยังได้มีหลายฝ่ายให้ความสนใจ ทั้งสาธารณชน นักหนังสือพิมพ์และนักวิเคราะห์สื่อ วิกิลีกส์ได้รับการสนับสนุนจากนักวิจารณ์บางส่วนผู้ซึ่งตั้งคำถามเกี่ยวกับความจำเป็นในการรักษาความลับของราชการในระบอบ
ประชาธิปไตยในการรักษาผลประโยชน์ของประชากร ผู้นำการเมืองบางคนได้เรียก
จูเลียน อาสซานจ์ บรรณาธิการบริหารของวิกิลีกส์ ว่าเป็นอาชญากรและเรียกร้องให้มีการจับกุม แต่ก็ยังกล่าวประณามกระทรวงกลาโหมสหรัฐที่ปล่อยให้เอกสารลับเกิดการรั่วไหล ผู้สนับสนุนอาสซานจ์ได้เรียกเขาว่าเป็นวีรบุรุษและเป็นตัวแทนของเสรีภาพในการพูดและเสรีภาพของสื่อ
[7][8][9][10] ในโลกที่สื่อมิได้ประพฤติเป็นผู้เฝ้ามองของสาธารณะและภาคเอกชนอีกต่อไป เลขาธิการฝ่ายข่าวทำเนียบขาว โรเบิร์ต กิบบส์ ได้กล่าวว่า "รัฐบาลที่เปิดเผยและโปร่งใสเป็นสิ่งที่ประธานาธิบดีเชื่อว่ามีความสำคัญอย่างแท้จริง แต่การขโมยข้อมูลปกปิดและการเผยแพร่ความลับนั้นถือว่าเป็นอาชญากรรม"
[11] ตามที่ได้มีปฏิกิริยาด้านลบต่อวิกิลีกส์นั้น ข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติได้แสดงความกังวลออกมาเกี่ยวกับ "
สงครามไซเบอร์" ที่มีต่อวิกิลีกส์
[12] และในแถลงการณ์ร่วมกับ
องค์การนานารัฐอเมริกัน ผู้ตรวจการพิเศษสหประชาชาติได้เรียกร้องให้รัฐและตัวแสดงอื่น ๆ จดจำหลักการของกฎหมายไว้
[13]