การเดินขบวนสู่แวร์ซาย (
อังกฤษ: March on Versailles) บ้างเรียก
การเดินขบวนเดือนตุลาคม เป็นหนึ่งในเหตุการณ์สำคัญของ
การปฏิวัติฝรั่งเศส เป็นการเดินขบวนของสตรีชาวปารีสเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม ค.ศ. 1789 สู่
พระราชวังแวร์ซาย ที่พำนักของกษัตริย์และสถานที่ประชุม
สภาร่างธรรมนูญแห่งชาติวิกฤตเศรษฐกิจที่ร้ายแรงได้ส่งผลกระทบต่อสตรีซึ่งมีหน้าที่หาอาหารให้สามีและสมาชิกครอบครัว พวกเธอมองเห็นงานเลี้ยงอันใหญ่โตฟุ่งเฟือยในราชสำนักขณะที่ตัวเองกลับอดอยาก กลุ่มสตรีหลายพันคนซึ่งประกอบด้วยหญิงหาเช้ากินค่ำ, แม่ค้า, ช่างหัตกรรม, หญิงข้างถนน ตลอดจนโสเภณีชั้นสูง
[1] รวมตัวกันที่
ออแตลเดอวีล (ศาลาว่าการกรุงปารีส)
[2] ในเช้าวันที่ 5 ตุลาคม ค.ศ. 1789 จนกระทั่งมีจำนวนราว 7,000–9,000 คน จึงเริ่มเดินขบวนสู่แวร์ซายพร้อมด้วยอาวุธและปืนใหญ่ที่ยึดมาจาก
ออแตลเดแซ็งวาลีดและ
การทลายคุกบัสตีย์เมื่อสองเดือนก่อนหน้ากลุ่มผู้ชุมนุมใช้เวลาเดินเท้าจากปารีสไปแวร์ซายราวหกชั่วโมงท่ามกลางสายฝนในฤดูใบไม้ร่วง พวกเธอเต็มไปด้วยความโกรธแค้นต่อราชวงศ์ หวังจะคุมองค์กษัตริย์กลับปารีสและต้องการคุยกับพระนาง
มารี อ็องตัวแน็ต เมื่อพวกเธอไปถึงพระราชวังแวร์ซาย ก็พบกับผู้ชุมนุมอีกกลุ่มหนึ่งที่รายล้อมพระราชวังอยู่ก่อน
[3] สมาชิกสภาบางส่วนออกมาเชิญให้ผู้ชุมนุมเข้าไปหลบฝนและพักผ่อนในห้องประชุมสภา เหล่าฝูงชนต่างไปนั่งพักบนม้านั่งของสมาชิกสภาอย่างเหน็ดเหนื่อย แกนนำของพวกเธอพูดกับผู้แทนใน
สภาร่างธรรมนูญแห่งชาติว่าพวกเธอมาล้อมสภาเพื่อขอขนมปังเพียงเท่านั้น ในช่วงนี้มีสมาชิกสภาหลายคนออกมาต้อนรับและให้กำลังใจฝูงชน หนึ่งในนั้นคือ
มักซีมีเลียง รอแบ็สปีแยร์ ซึ่งตอนนั้นยังไม่มีอำนาจ
ฌ็อง โฌแซ็ฟ มูว์นีเย ประธานสภาร่างธรรมนูญนำตัวแกนนำผู้ชุมนุมจำนวนหกคนไปเข้าเฝ้าองค์กษัตริย์ในพระราชวัง
[4][5] องค์กษัตริย์แสดงความเห็นใจและปลอบปละโลมพวกเธอจนบางคนถึงกับล้มลงไปร้องให้ที่พื้น
[6] ทรงสัญญาว่าจะปันส่วนอาหารส่วนหนึ่งจากคลังหลวงให้ ฝูงชนบางส่วนจึงพอใจและเดินเท้ากลับปารีส
[7] อย่างไรก็ตาม ฝูงชนส่วนใหญ่ยังคงปักหลักอยู่ และมีข่าวลือว่ากษัตริย์ให้สัญญาหลอกๆ เมื่อพระเจ้าหลุยส์ทรงตระหนักถึงอันตรายที่รายล้อม จึงปรึกษากับข้าราชบริพาร ในเวลาหกโมงเย็น พระองค์ทรงประกาศยอมรับกฤษฎีกาสิงหาคม (กฎหมายเลิกระบบศักดินา) และทรงยอมรับ
ประกาศสิทธิมนุษยชนและพลเมืองโดยไม่มีเงื่อนไข
[5] เพื่อคลายความไม่พอใจของฝูงชนเช้าวันต่อมา ผู้ประท้วงบางส่วนค้นพบประตูขนาดเล็กของพระราชวังที่ไม่มียามเฝ้า พวกเขาจึงแอบเข้าไปในเขตพระราชฐานและเดินตามหาห้องบรรทมขององค์ราชินีเพื่อสังหารพระนาง ราชองค์รักษ์กรู่เข้ามาทั่วเขตพระราชฐานและยิงผู้บุกรุกตายไปหลายคน
[8] ฝูงชนจึงโกรธเคืองและพากันบุกเข้าเขตพระราชฐาน
[9][10] ความโกลาหลในจึงเกิดขึ้นในพระราชวัง ราชองครักษ์สู้ไม่ได้และถูกฆ่าตายไปอย่างน้อยหนึ่งนาย หน่วยของนายพล
ลาฟาแย็ต ต้องเข้ามาห้ามปราม ลาฟาแย็ต ทหารผู้ได้รับการยอมรับจากทั้งสองฝ่าย ต้องตื่นขึ้นมาเพื่อเป็นตัวกลางจนเหตุการณ์คลี่คลายลง
[9][11] อย่างไรก็ตาม การชุมนุมนอกพระราชวังยังคงดำเนินต่อไป พระบรมวงศ์จึงเสด็จออกจากแวร์ซายไปประทับที่
พระราชวังตุยเลอรีในกรุงปารีสเมื่อวันที่ 6 ตึลาคม ค.ศ. 1789 ตามคำทูลของนายพลลาฟาแย็ต ที่เชื่อว่าสถานการณ์คงจะคลี่คลายถ้ากษัตริย์อยู่ใกล้ประชาชนมากขึ้น