เมนูนำทาง
การแต่งกายของพม่า ชุดประจำชาติชุดประจำชาติของพม่าคือโลนจี (လုံချည်, เสียงอ่านภาษาพม่า: [lòʊɴd͡ʑì]), สโสร่งยาวถึงข้อเท้าสวมใส่ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย โลนจี ในรูปแบบใหม่เป็นที่นิยมในช่วงยุคอาณานิคมของอังกฤษแทนที่ ปาโซ การแต่งกายแบบดั้งเดิมซึ่งสวมใส่โดยผู้ชาย และ ทะเมียน ซึ่งสวมใส่โดยผู้หญิงก่อนยุคอาณานิคม ทะเมียน ในช่วงก่อนอาณานิคม มีรูปแบบลักษณะเป็นชุดยาว เรียกว่า เยตีนา (ရေသီနား) จะเห็นได้ในยุคปัจจุบันเฉพาะเป็นเครื่องแต่งกายในงานแต่งงานหรือชุดเต้นรำ ในทำนองเดียวกันก่อนยุคอาณานิคม ปาโซ เป็นเพียงการสวมใส่โดยทั่วไปในระหว่างการแสดงบนเวทีรวมถึงการเต้นรำและการแสดง อะเญน
รูปแบบลวดลายพื้นเมืองของพม่า ที่เรียกว่า อะเชะ (အချိတ်; [ʔət͡ɕʰeɪʔ]), ลายลอนคลื่นที่สลับซับซ้อนแถบแนวนอนที่ประดับประดาด้วยการออกแบบคล้ายลายอาหรับ อะเชะ เป็นที่รู้จักกันในชื่อ ลูนติยา (လွန်းတစ်ရာ; [lʊ́ɴtəjà]) ซึ่งแปลว่า "กระสวยเส้นพุ่งนับร้อย"[9] อ้างถึงกระบวนการที่ต้องใช้เวลามาก มีราคาแพงและซับซ้อนในการทอผ้ารูปแบบนี้ ซึ่งต้องใช้กระสวยในเครื่องทอผ้าจำนวนมากซึ่งแต่ละอันจะให้สีที่แตกต่างกัน[10] ลวดลายอะเชะ มีต้นกำเนิดที่อมรปุระ[11] และเป็นที่แพร่หลายในยุคราชวงศ์โกนบอง
สำหรับงานธุรกิจและโอกาสที่เป็นทางการ ชายชาวพม่า จะแต่งชุดเสื้อแจ๊คแก็ตแบบแมนจู ที่เรียกว่า ไตปอนอินจี (တိုက်ပုံအင်္ကျီ, [taɪʔpòʊɴ]) ใส่ทับเสื้อเชิ้ตคอปกแบบอังกฤษ ชุดนี้เป็นที่นิยมในยุคอาณานิคม
ผู้หญิงพม่าสวมชุดสตรีที่เรียกว่า อินจี (အင်္ကျီ, [ʔéɪɴd͡ʑì]) มีสองรูปแบบที่แพร่หลายคือ ยีนเซ (ရင်စေ့) จะติดกระดุมด้านหน้าและ ยีนโพน (ရင်ဖုံး) ติดกระดุมไว้ด้านข้าง สำหรับพิธีที่เป็นทางการและทางศาสนาผู้หญิงพม่ามักสวมผ้าคลุมไหล่
การแสดงออกอย่างเป็นทางการที่สุดของเครื่องแต่งกายประจำชาติของพม่าสำหรับสตรี ได้แก่ เสื้อคลุมที่มีความยาวถึงสะโพกแนบแน่นกระชับที่เรียกว่า ไทง์มะเตน (ထိုင်မသိမ်း, [tʰàɪɴməθéɪɴ]) บางครั้งก็มีการปักเลื่อมบนพื้นผิวผ้า ไทง์มะเตน ในภาษาพม่าจะแปลว่า "ไม่เแน่นขนัดเวลานั่ง" หมายถึงเสื้อคลุมที่กระชับไม่ยับยู่ยี่ขณะนั่ง เสื้อคลุมนี้ได้รับความนิยมในหมู่ชนชั้นสูงในช่วงราชวงศ์โกนบอง
เครื่องแต่งกายประจำชาติของพม่าสำหรับผู้ชายประกอบด้วยผ้าโพกหัวที่เรียกว่า กองบอง (ခေါင်းပေါင်း, [ɡáʊɴbáʊɴ]) ซึ่งสวมใส่สำหรับการทำงานอย่างเป็นทางการ ในยุคอาณานิคมกองบองถูกพัฒนาให้เป็นเครื่องแต่งกายสามัญของชายชาวพม่า การออกแบบกองบองของชาวพม่าสมัยใหม่เกิดขึ้นในช่วงกลางปี 1900 และเรียกว่า มอนเจะตะเร (မောင့်ကျက်သရေ)[12] เป็นกองบองทำจากผ้าที่มีโครงหวายและสามารถสวมใส่ได้เช่นสวมหมวก
รองเท้าแตะกำมะหยี่สวมใส่ได้ทั้งสองเพศ เรียกว่า ญะพะนะ (ကတ္တီပါဖိနပ်, หรือ มัณฑะเลย์ พะนะ) เป็นรองเท้าที่สวมใส่เป็นทางการ
กลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ ในพม่าทุกกลุ่มล้วนมีเสื้อผ้าและประเพณีสิ่งทอที่แตกต่างกัน
เมนูนำทาง
การแต่งกายของพม่า ชุดประจำชาติใกล้เคียง
การแต่งงานแบบไทย การแต่งกายของพม่า การแต่งงาน การแตกตัวด้วยแสง การแตกกระจายออก การแต่งงานโดยฉันทะ การแตกตัวเป็นไอออน การแต่งงานต่างฐานันดร การแต่งตั้งให้อัครสาวกสิบสองคน การแตกเป็นเสี่ยงแหล่งที่มา
WikiPedia: การแต่งกายของพม่า http://www.myanmar.gov.mm/myanmartimes/no81/Timeou... http://www.iias.nl/nl/46/IIAS_NL46_11.pdf http://journals.cambridge.org/action/displayAbstra... //doi.org/10.1017%2FS0021911808001782 //doi.org/10.1353%2Fjbs.2012.0000 //www.worldcat.org/issn/2010-314X http://collections.vam.ac.uk/item/O10875/silk-ache... https://books.google.com/books?id=AUpAAAAAYAAJ&dq=... https://muse.jhu.edu/article/477333