การโจมตีโตเกียวเมโทรด้วยซาริน (
ญี่ปุ่น:
โรมาจิ:
地下鉄サリン事件 ทับศัพท์:
Chikatetsu Sarin Jiken) หรือ
การโจมตีซับเวย์โตเกียวด้วยซาริน เป็น
การก่อการร้ายในประเทศ ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 20 มีนาคม ค.ศ. 1995 ใน
โตเกียว โดยลัทธิคัลท์
Aum Shinrikyo เหตุการณ์เกิดขึ้นในสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน
โตเกียวเมโทร (ในขณะนั้นเป็นส่วนหนึ่งของ ซับเวย์โตเกียว) จำนวน 5 สถานี โดยวางแผนล่วงหน้า โดยผู้ก่อการได้ปล่อยแก๊สพิษ
ซารินในช่วงเวลาเร่งด่วน ส่งผลให่มีผู้เสียชีวิตทันทีจำนวน 12 ราย, บาดเจ็บ 50 ราย (ซึ่งบางส่วนเสียชีวิตในเวลาต่อมา) และ ราว 1,000 รายประสบปัญหาด้านการมองเห็นชั่วคราว การโจมตีนี้เกิดขึ้นในสถานีรถไฟใต้ดินที่ผ่านบริเวณ ย่าน
คาซูมิงาเซกิ และ ย่าน
นางาตาโจ บริเวณที่ตั้งของ
อาคารสภานิติบัญญัติเหตุการณ์เริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 20 มีนาคม ค.ศ. 1995 เมื่อสมาชิก 5 รายของ
Aum Shinrikyo ปล่อยสารเคมีที่เป็นอันตรายถึงชีวิตเข้าไปในรถไฟฟ้าใต้ดินของ
ซับเวย์โตเกียว (ส่วนที่ปัจจุบันเป็นของ
โตเกียวเมโทร) ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในระบบการขนส่งมวลชนที่ยุ่งและมีผู้คนใช้บริการมากที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง ในช่วงเวลาที่มีผู้ใช้บริการสูงสุดของช่วงเวลาเร่งด่วน สารเคมีที่ถูกปล่อยคือสารเคมีระเหย
ซาริน ในสถานะของเหลว ซึ่งถูกบรรจุในถุงพลาสติก ห่อด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์อีกชั้นหนึ่ง ผู้ก่อการหนึ่งรายถือขวดดังกล่าวคนละ 2 ขวด รวมปริมาณซารินราว 0.9 ลิตร ยกเว้น นพ. บาซูโอะ ฮายะชิ ซึ่งถือถึง 3 ขวด รวมซารินความจุ 1.3 ลิตร โดยซารินนั้นเป็นสารที่อันตรายถึงแก่ชีวิต เมื่อได้รับเข้าไป 550 ไมโครกรัม ตาม
LD50 กล่าวคือ 38.5 มิลลิกรัม สำหรับมนุษย์ที่น้ำหนักตัว 70 กิโลกรัม อย่างไรก็ตาม ระหว่างการปล่อยสารเกิดปัญหาหลายประการ ส่งผลให้ปริมาณซารินที่ถูกปล่อยออกมาและที่ผู้คนรับเข้าไปจริง ๆ นั้น น้อยลงอย่างมากผู้ก่อการได้แบ่งกันเข้าไปในขบวนรถไฟต่าง ๆ โดยวางถุงซารินไว้บนพื้น และใช้ร่มปลายแหลมที่พกมาเจาะถุงซาริน ปล่อยให้สารค่อย ๆ กระจายตัวคลุ้งในขบวนรถไฟ และกระจายตัวออกไปในสถานีเมื่อประตูเปิดออก จากนั้นผู้ก่อการจะรีบลงรถที่สถานีถัดไป และหลบหนีขึ้นรถยนต์ไปจากสถานี เหลือไว้เพียงขวดที่ค่อย ๆ ปล่อยซารินออกมาในขบวนรถ และออกไปตามสถานีที่รถจอด เหตุการณ์นี้จึงส่งผลโดยตรงต่อทั้งผู้โดยสาร และพนักงานของการรถไฟใต้ดิน ซารินเป็นสารที่ส่งผลอย่างรุนแรงต่อ
ระบบประสาท ทำลายระบบประสาทได้อย่างรุนแรงจนถึงแก่ชีวิต
[3] นอกจากนี้ซารินยังสามารถระเหยได้ง่ายและกระจายตัวได้อย่างรวดเร็ว จึงทำให้ซารินกระจายตัวไปทั่วหลายสถานี ทั้ง ๆ ที่รถไฟแต่ละขบวนจอดที่แต่ละสถานีไม่นาน
[4]