ลักษณะและพฤติกรรม ของ งูเห่าอียิปต์

งูเห่าอียิปต์ มีสีเทา-น้ำตาลและจะพัฒนาไปจนเกือบจะเป็นสีดำเมื่อแก่มากขึ้น งูในวัยอ่อนมีสีเหลืองเหมือนทรายโดยมีแถบลายสีดำบนคอ มีลักษณะเด่นคือ มีแม่เบี้ยที่บริเวณหัว มีหัวขนาดใหญ่ซึ่งหัวจะถูกกดลงด้วยจมูกที่กว้าง รอบคอจะมีแถบลายกว้าง ๆ คอสามารถมีขนาดกว้างได้ถึง 18 เซนติเมตร มีดวงตากลมโตสีดำ งูตัวผู้มีความยาวได้ถึง 1.5–2 เมตร ซึ่งใหญ่กว่างูตัวเมีย

งูเห่าอียิปต์ พบกระจายพันธุ์ทั่วไปในทวีปแอฟริกา ตั้งแต่แอฟริกาเหนือ จนถึงแอ่งคองโก ในแอฟริกากลาง, แอฟริกาตะวันออก และแอฟริกาตะวันตก พบได้ในเคนยาและแทนซาเนีย และคาบสมุทรอาหรับ[3]

งูเห่าอียิปต์ เป็นสัตว์ที่ตื่นตัวและออกหากินในเวลากลางคืน เริ่มตั้งแต่เริ่มพลบค่ำ โดยทำรังในบริเวณกองดินหรือจอมปลวก หรือกระทั่งในท้องทุ่ง ด้วยความที่เป็นสัตว์เลือดเย็น จึงต้องอาบแดดเพื่อรับความอบอุ่นจากแสงแดดในบริเวณที่เป็นที่อยู่อาศัย เพื่อที่จะล่าถอยได้อย่างรวดเร็วเมื่อพบกับอันตราย โดยทั่วไปแล้ว งูเห่าอียิปต์เป็นสัตว์ที่ไม่จู่โจมผู้อื่นก่อนหากไม่ถูกรังควาญหรือยั่วยุก่อน เป็นสัตว์ที่กินสัตว์อื่นเป็นอาหาร เช่น สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ, สัตว์เลื้อยคลาน, สัตว์ปีกหรือสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมบางชนิดขนาดเล็ก รวมถึงงูพิษด้วยกันบางชนิดด้วย

ขยายพันธุ์ด้วยการวางไข่ งูตัวเมียจะวางไข่ประมาณ 8 ถึง 20 ฟอง โดยปกติจะวางไข่บนกองดินของจอมปลวก ระยะเวลาการกกไข่อยู่ที่ประมาณ 60 วัน ลูกงูที่เพิ่งออกมาจากไข่จะมีความยาว 20–35 เซนติเมตร และทำการลอกคราบหลังจาก 7 ถึง 12 วัน ลูกงูที่เพิ่งออกมาจากไข่จะเริ่มกินอาหารหลังจากลอกคราบ[4]