ซ่งเหรินจง (
จีน: 宋仁宗;
พินอิน: Sòng Rénzōng; 30 พฤษภาคม ค.ศ. 1010 – 30 เมษายน ค.ศ. 1063 หรือ 14 เมษายน ค.ศ. 1010 [ปีต้าจงเสียงฝู (大中祥符) ที่ 3] – 29 มีนาคม ค.ศ. 1063 [ปีเจียโย่ว (嘉祐) ที่ 8] ตาม
ปฏิทินจีน) ชื่อตัวว่า
จ้าว เจิน (
จีนตัวย่อ: 赵祯;
จีนตัวเต็ม: 趙禎;
พินอิน: Zhào Zhēn) เป็น
จักรพรรดิองค์ที่ 4 ของ
ราชวงศ์ซ่ง (宋朝) แห่ง
จักรวรรดิจีน และเมื่อแบ่งราชวงศ์ซ่งออกเป็นสมัยเหนือกับสมัยใต้ นับเป็นจักรพรรดิองค์ที่ 4 ของ
ราชวงศ์ซ่งเหนือ (北宋朝) เสวยราชย์ราว 41 ปีตั้งแต่ ค.ศ. 1022 จนสิ้นพระชนม์ใน ค.ศ. 1063 นับเป็นจักรพรรดิราชวงศ์ซ่งที่อยู่ในราชสมบัตินานที่สุดจ้าว เจิน เป็นโอรสองค์ที่ 4 ของ
จ้าว เหิง (趙恆) ผู้ขึ้นครองราชย์เป็น
จักรพรรดิซ่งเจินจง (宋真宗) กับ
นางหลี่ (李氏) ผู้ซึ่งเมื่อเสียชีวิตแล้วได้รับการสถาปนาขึ้นเป็น
พระราชชนนีพันปีหลวง ฐานันดรศักดิ์ว่า "จางอี้หฺวังไท่โฮ่ว" (章懿皇太后) จ้าว เจิน เดิมชื่อ "จ้าว โช่วอี้" (趙受益) แต่มีราชโองการใน ค.ศ. 1018 ให้เปลี่ยนเป็นจ้าว เจินเอกสาร
ซ่งฉื่อ (宋史) บันทึกว่า จ้าว เจิน เป็นจักรพรรดิที่เปี่ยมเมตตา อ่อนน้อมถ่อมตน มีความอดทนสูง และน้อยครั้งที่จะแสดงอารมณ์ออกมา ร่ำลือกันว่า คืนหนึ่ง จ้าว เจิน อยากเสวยเนื้อแกะ มหาดเล็กจึงจะไปสั่งให้วิเสทปรุงมาถวาย แต่จ้าว เจิน สั่งให้ไม่ต้องไป และยอมทนหิวแทน จ้าว เจิน ยังสั่งให้ข้าราชการระมัดระวังในการลงโทษประหาร ครั้งหนึ่ง รับสั่งว่า "แค่ด่าใครให้ไปตายเรายังไม่เคยทำ แล้วเราจะกล้าลงโทษตายโดยมิชอบได้อย่างไร"
[1]รัชกาลของจ้าว เจิน เป็นจุดรุ่งเรืองสุดในด้านอำนาจและอิทธิพลของราชวงศ์ซ่ง วัฒนธรรมของราชวงศ์ซ่ง โดยเฉพาะด้านวรรณกรรม ก็เริ่มเฟื่องฟูในยุคนี้ กวีปราชญ์ราชบัณฑิตชื่อดังในประวัติศาสตร์จีนหลายคนก็มีชีวิตหรือเริ่มสร้างสรรค์ผลงานในรัชกาลนี้ ในจำนวนนี้มี
ฟ่าน จ้งยาน (范仲淹),
เหมย์ เหยาเฉิน (梅堯臣), และ
โอวหยาง ซิว (歐陽脩) เป็นอาทิ ครั้นปีเจียโย่วที่ 2 มี
การสอบขุนนาง หลายคนที่สอบผ่านในครั้งนี้ในอนาคตจะได้เป็นบุคคลสำคัญชื่อก้องโลก เช่น
เจิง ก่ง (曾鞏),
ซู เจ๋อ (苏辙),
ซู ชื่อ (蘇軾), และ
ซู ซฺวิน (苏洵)อย่างไรก็ดี รัชกาลนี้กลับเป็นจุดเริ่มต้นแห่งความเสื่อมสลายของราชวงศ์อันจะส่งผลต่อเนื่องไปกว่า 150 ปีข้างหน้า
[2] ปัจจัยสำคัญก็คือนโยบายต่างประเทศ เพราะแต่เดิมมา ราชวงศ์ซ่งเน้นสร้างความสงบสุขมากกว่าสร้างสงครามกับต่างชาติ จึงส่งเสริมกิจการพลเรือนมากกว่าทหาร ทำให้การทหารอ่อนแอ รัฐเพื่อนบ้านอย่าง
ราชวงศ์เซี่ยตะวันตก (西夏) ของชาว
ตั่งเซี่ยง (党項; Tangut) จึงฉวยโอกาสรุกรานตามชายแดน ครั้นจ้าว เจิน ขึ้นสู่ราชสมบัติ ก็ให้ปรับปรุงการทหารให้เข้มแข็ง แต่ก็ยอมจ่ายเงินมหาศาลเพื่อผูกมิตรกับรัฐศัตรูของราชวงศ์เซี่ยอย่าง
ราชวงศ์เหลียว (遼朝) ของชาว
ชี่ตัน (契丹; Khitan) ด้วยหวังว่า จะช่วยประกันความปลอดภัยของราชวงศ์ซ่ง แต่นโยบายเช่นนี้ต้องอาศัยเงินจำนวนมาก จึงมีการขึ้นภาษีอย่างหนัก เป็นเหตุให้ชาวบ้านรากหญ้าตกทุกข์ได้ยากเนือง ๆ นำไปสู่การลุกฮือและก่อกบฏทั่วแว่นแคว้น ส่งผลให้อำนาจปกครองของรัฐเสื่อมทรามลงใน ค.ศ. 1063 จ้าว เจิน ประชวรสิ้นพระชนม์ และไร้โอรสสืบบัลลังก์ จึงมีการยก
จ้าว ฉู่ (趙曙) ผู้เป็นพระญาติ ขึ้นเป็น
จักรพรรดิซ่งอิงจง (宋英宗) สืบราชวงศ์ต่อไป