เมนูนำทาง
จำลอง_สารพัดนึก ประวัติดร.จำลอง สารพัดนึก เป็นชาว ต.บ้านกลาง อ.เมือง จังหวัดปทุมธานี เกิดเมื่อพ.ศ. 2475 ในครอบครัวซึ่งประกอบอาชีพทำนา และมีฐานะยากจนมากครอบครัวหนึ่งในละแวกนั้น ภายหลังเนื่องจากการทำนาได้รายได้น้อยไม่พอจุนเจือครอบครัว บิดาของท่านจึงเปลี่ยนมาขายข้าวสาร โดยซื้อข้าวใส่เรือแจวล่องมาขายที่กรุงเทพมหานคร ในย่านคลองผดุงกรุงเกษม แต่เมื่อบวกกับภาระหนี้สินแล้วฐานะของครอบครัวก็ไม่ได้ดีขึ้นแต่อย่างใด
ในวัยเด็ก ดร.จำลองได้เริ่มการศึกษาขั้นต้นที่โรงเรียนประชาบาลวัดมะขาม ใกล้กับบ้าน และบิดาก็ได้นำมาฝากเป็นศิษย์วัดไว้กับพระอธิการพลาย ถาวโร เจ้าอาวาสในขณะนั้นซึ่งมีศักดิ์เป็นตาของดร.จำลองด้วย ดังนั้นนอกจากภาระการศึกษาเล่าเรียนแล้ว จึงต้องคอยปรนนิบัติหลวงตาตามกำลังของตน กระนั้นเมื่อเสร็จจากภาระที่โรงเรียนและวัดแล้วก็ยังต้องรีบกลับบ้านเพื่อช่วยเหลือภาระงานทางบ้านอีก ทำให้ชีวิตในวัยเด็กต้องประสบกับความยากลำบาก และไม่ได้เล่นสนุกสนานเช่นเด็กอื่น ๆ
หลังจากจบชั้น ป.4 จึงได้บรรพชาเป็นสามเณรเมื่อ พ.ศ. 2487 โดยมีกำหนดการแรกเริ่มจะบวชเพียง 15 วันเท่านั้น แต่ด้วยจิตที่ใฝ่ในทางพระศาสนามาแต่เล็กทำให้มีศรัทธาจะอยู่ในเพศบรรพชิตต่อมา และได้ศึกษาเล่าเรียนนักธรรมด้วยความพากเพียรมาก ถึงจะสอบตกก็หาได้ทำให้ความมุ่งมั่นของสามเณรจำลองลดถอยลงไม่ ในภาวะหลังสงครามโลกขณะนั้นที่วัดมะขามไม่มีไฟฟ้าใช้ ทั้งยังขาดแคลนน้ำมันเชื้อเพลิงจุดตะเกียง ในยามกลางคืนที่อัตคัดบางครั้งพระเณรถึงกับต้องใช้ธูปจุดไฟรวมเป็นกำแล้วเป่าไฟส่องหนังสืออ่านแล้วท่องจำเป็นตอน ๆ ไป ในช่วงที่บวชเป็นสามเณรที่วัดมะขามนั้นท่านได้เริ่มเรียนภาษาอังกฤษโดยขอร้องให้ผู้รู้ช่วยสอนให้ แม้จะเริ่มได้อย่างกระท่อนกระแท่นแต่ก็ได้พยายามฝึกฝนต่อมาอย่างสม่ำเสมอ
พ.ศ. 2491 พระอธิการพลาย ถาวโร ได้นำสามเณรจำลองมาฝากให้ศึกษาต่อที่วัดอนงคารามวรวิหาร ในสมัยที่สมเด็จพระพุฒาจารย์ (นวม พุทฺธสโร) เป็นเจ้าอาวาส ได้ศึกษานักธรรมชั้นเอกและภาษาบาลีในสำนักเรียนวัดอนงคาราม รวมทั้งได้ซื้อตำราภาษาอังกฤษมาศึกษาเพิ่มเติมด้วยตนเอง ขณะเป็นสามเณรเปรียญสอบได้เปรียญธรรม 4 ประโยค ได้สอบเข้าศึกษาต่อที่มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร โดยเป็นนิสิตรุ่นแรก ๆ ของมหาวิทยาลัยนั้นจนอายุครบบวชเมื่อ พ.ศ. 2496 ได้อุปสมบทที่วัดมะขาม จ.ปทุมธานี โดยมีพระครูบวรธรรมกิจ (เทียน ปุปฺผธมฺโม) เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายาว่า "ภูริปญฺโญ" กระทั่ง พ.ศ. 2498 สอบได้เปรียญธรรม 5 ประโยค ช่วงที่ศึกษาในมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ได้ศึกษาวิชาความรู้หลายอย่าง แต่มีวิชาหนึ่งที่ชอบและสนใจเป็นพิเศษคือวิชาภาษาสันสกฤต โดยได้รับแรงบันดาลใจจากอาจารย์ผู้ทรงความรู้ได้มีวิธีการสอนที่ดีและให้กำลังใจเป็นอันมาก คือ ท่านอาจารย์กรุณา กุศลาสัย และท่านศาสตราจารย์แสง มนวิทูร รวมถึงได้ศึกษากับอาจารย์ชาวอินเดียคือพราหมณ์สัตยนารายณ์ ตริปาฐิ ส่วนในด้านภาษาบาลีนั้นก็ได้รับคำชมเชยจากอาจารย์ผู้สอนเป็นอย่างดีเช่นกัน
หลังจากจบการศึกษาปริญญาตรีพุทธศาสตรบัณฑิตแล้ว พ.ศ. 2507 ได้รับทุนมูลนิธิเอเชีย (The Asia Foundation) ไปศึกษาต่อด้านภาษาสันสกฤตระดับปริญญาโท ที่ Banaras Hindu University เมืองพาราณสี ประเทศอินเดียได้รับปริญญา M.A. (Sanskrit) เมื่อจบการศึกษาในปี 2509 ได้กลับเข้ามาทำงานในมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ได้ปรับปรุงหลักสูตรและตำราเรียนภาษาสันสกฤตหลายเล่ม จนปี พ.ศ. 2511 ได้ดำรงตำแหน่งรักษาการคณบดีคณะครุศาสตร์ และได้รับนิมนต์ไปช่วยสอนภาษาสันสกฤต ที่คณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร
เมนูนำทาง
จำลอง_สารพัดนึก ประวัติใกล้เคียง
จำลอง ศรีเมือง จำลอง เอี่ยมแจ้งพันธุ์ จำลอง ดาวเรือง จำลอง ครุฑขุนทด จำลอง สารพัดนึก จำลอง แววพานิช แบบจำลองโอเอสไอ แบบจำลองมาตรฐาน การจำลองการอบเหนียว แบบจำลองอะตอมของทอมสันแหล่งที่มา
WikiPedia: จำลอง_สารพัดนึก http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/0D/0014...