ปัลเมย์รัส

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

ฤดูกาล 2558

ในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2557 จีโอกูได้ย้ายมาร่วมทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อย่างเป็นทางการ[1] ต่อมาในวันที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2558 ฟุตบอลถ้วยพระราชทาน ก. จีโอกูประเดิมลงสนามนัดแรกอย่างเป็นทางการ และทำประตูแรกในนามสโมสร ช่วยให้บุรีรัมย์เอาชนะบางกอกกล๊าสที่สนามศุภชลาศัย 1–0 คว้าแชมป์แรกของฤดูกาลได้สำเร็จ[2] ต่อมาในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ จีโอกูทำประตูแรกในไทยพรีเมียร์ลีกในนัดที่บุรีรัมย์บุกไปเสมอเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่เอสซีจีสเตเดียม 1–1[3] ต่อมาในวันที่ 7 มีนาคม จีโอกูทำประตูที่ 2 ในลีกในนัดที่บุรีรัมย์บุกไปเสมอสุพรรณบุรีที่สนามกีฬากลาง จ.สุพรรณบุรี 2–2[4] ต่อมาในวันที่ 22 มีนาคม จีโอกูทำประตูที่ 3 ในลีกในนัดที่บุรีรัมย์เปิดสนามไอ-โมบายเอาชนะศรีสะเกษไปได้ 1–0[5] ต่อมาในวันที่ 26 เมษายน จีโอกูทำ 2 ประตูในลีกในนัดที่บุรีรัมย์เปิดบ้านเอาชนะราชนาวีไปได้ 3–0[6] ต่อมาในวันที่ 29 เมษายน จีโอกูทำ 2 ประตูในลีกในนัดที่บุรีรัมย์บุกไปเอาชนะชัยนาท ฮอร์นบิล ที่เขาพลองสเตเดียม 3–1[7] ต่อมาในวันที่ 2 พฤษภาคม จีโอกูทำประตูที่ 8 ในลีกในนัดที่บุรีรัมย์เปิดบ้านเอาชนะแบงค็อก ยูไนเต็ด 6–1[8] ต่อมาในวันที่ 10 พฤษภาคม จีโอกูทำประตูที่ 9 ในลีกในนัดที่บุรีรัมย์บุกไปเอาชนะทีโอทีที่ทีโอทีสเตเดียม 4–0[9] ต่อมาในวันที่ 27 มิถุนายน จีโอกูทำ 2 ประตูในลีกช่วยให้บุรีรัมย์บุกไปเอาชนะราชบุรี มิตรผล ที่สนามกีฬากลาง จ.ราชบุรี 2–1[10] ต่อมาในวันที่ 18 กรกฎาคม จีโอกูทำประตูที่ 12 ในลีกในนัดที่บุรีรัมย์บุกไปชนะสระบุรีที่สนามกีฬากลาง จ.สระบุรี 2–1[11] และในวันที่ 26 กรกฎาคม จีโอกูทำ 2 ประตูในลีกในนัดที่บุรีรัมย์เปิดบ้านตามตีเสมอบีอีซี เทโรศาสน 3–3 ทำให้บุรีรัมย์จบเลกแรกด้วยการเป็นจ่าฝูง[12]

ในวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2558 จีโอกูทำประตูที่ 15 ในลีกในนัดที่บุรีรัมย์เปิดบ้านเสมอกับเอสซีจี เมืองทองฯ 2–2[13] ต่อมาในวันที่ 19 สิงหาคม จีโอกูทำประตูที่ 16 ในลีกช่วยให้บุรีรัมย์บุกไปเอาชนะชลบุรีที่ชลบุรีสเตเดียม 2–1[14] ต่อมาในวันที่ 13 กันยายน จีโอกูทำประตูที่ 17 ในลีกช่วยให้บุรีรัมย์บุกไปเอาชนะราชนาวีที่สนามกีฬากองทัพเรือสัตหีบ 3–1[15] ต่อมาในวันที่ 19 กันยายน จีโอกูทำประตูที่ 18 ในลีกในนัดที่บุรีรัมย์เปิดบ้านเอาชนะชัยนาทฯ ไปได้ 7–0[16] ต่อมาในวันที่ 24 ตุลาคม จีโอกูทำ 2 ประตูในลีกในนัดที่บุรีรัมย์บุกไปเอาชนะอาร์มี่ ยูไนเต็ด ที่สนามกีฬากองทัพบก 4–1[17] ต่อมาในวันที่ 31 ตุลาคม จีโอกูทำแฮตทริกแรกในลีกช่วยให้บุรีรัมย์บุกไปเอาชนะโอสถสภาที่กกท.บางพลี 6–3[18] ต่อมาในวันที่ 15 พฤศจิกายน จีโอกูทำแฮตทริกที่ 2 ในลีกในนัดที่บุรีรัมย์เปิดบ้านเอาชนะเชียงราย ยูไนเต็ด 6–0[19] ต่อมาในวันที่ 25 พฤศจิกายน จีโอกูทำ 2 ประตูในลีกในนัดที่บุรีรัมย์เปิดบ้านเอาชนะนครราชสีมา 4–0[20] ต่อมาในวันที่ 6 ธันวาคม จีโอกูทำแฮตทริกที่ 3 ในลีกช่วยให้บุรีรัมย์เปิดบ้านเอาชนะสระบุรีไปได้ 6–0 คว้าแชมป์ไทยพรีเมียร์ลีกสมัยที่ 4 ได้สำเร็จ[21] และในวันที่ 13 ธันวาคม ไทยพรีเมียร์ลีกนัดปิดฤดูกาล จีโอกูทำประตูที่ 33 ในลีกในนัดที่บุรีรัมย์บุกไปชนะการท่าเรือที่แพตสเตเดียม 5–1[22]

ฤดูกาล 2559

ในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559 ฟุตบอลถ้วยพระราชทาน ก 2559 จีโอกูทำประตูช่วยให้บุรีรัมย์เอาชนะเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่สนามศุภชลาศัยไปได้ 3–1 คว้าแชมป์ถ้วย ก. ครั้งที่ 100 ได้สำเร็จ และเป็นการคว้าแชมป์รายการนี้ 4 สมัยติดต่อกัน[23] แต่ต่อมาในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ เอเอฟซีแชมเปียนส์ลีก กลุ่มเอฟ นัดที่บุรีรัมย์ประเดิมสนามพ่ายแพ้ต่อเอฟซีโซล 0–6 จีโอกูได้รับบาดเจ็บที่หัวไหล่จนต้องถูกเปลี่ยนตัวออกในนาทีที่ 15[24][25] ทำให้เขาไม่สามารถลงเล่นให้กับสโมสรได้เป็นระยะเวลา 3 เดือน[26]

ในวันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2559 ช้าง เอฟเอคัพ รอบ 64 ทีมสุดท้าย จีโอกูกลับมาลงเล่นให้กับสโมสรในรอบเกือบ 4 เดือน และทำแฮตทริกช่วยให้บุรีรัมย์เปิดบ้านเอาชนะม.วงษ์ชวลิตกุล 8–0 ผ่านเข้าสู่รอบ 32 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ[27]

ฤดูกาล 2560

ฤดูกาล 2561

ในวันที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2561 จีโอกูทำแฮตทริกในนัดที่บุรีรัมย์บุกไปเอาชนะแอร์ฟอร์ซ ยูไนเต็ด ที่สนามธูปะเตมีย์ 4–2 ทำให้เขากลายเป็นผู้เล่นคนที่ 6 ที่ทำประตูครบ 100 ลูกในไทยลีก ต่อจาก ศรายุทธ ชัยคำดี, เคลย์ตง ซิลวา, พิภพ อ่อนโม้, ธีรศิลป์ แดงดา และเอเบร์ชี เฟร์นังจิส[28][29]

โจโฮร์ดารุลตักซิม

ในวันที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2562 จีโอกูได้เปิดตัวกับโจโฮร์ดารุลตักซิม สโมสรจากมาเลเซียซูเปอร์ลีก อย่างเป็นทางการ[30] เขามีส่วนช่วยให้โจโฮร์คว้าแชมป์มาเลเซียซูเปอร์ลีก ฤดูกาล 2562 ได้สำเร็จ ในนัดที่สโมสรของเขาบุกไปเอาชนะมะละกา 2–1[31]