สถานที่ในการแข่งขัน ของ ดิอะเมซิ่งเรซ_13

เดินทางโดยเครื่องบิน; เดินทางโดยรถไฟ; เดินทางโดยเรือ; เดินทางโดยรถประจำทาง; ไม่มี = เดินทางโดยรถยนต์หรือเดิน
ทางแยก อุปสรรค ทางด่วน ย้อนกลับ งานเพิ่มเติม จุดหยุดพัก
แผนที่แสดงเส้นทางทางแยกทางหนึ่งในเลก 1 คือการไต่ลงมาจาก Elevador Lacerda (ซ้าย) ด้วยตาข่ายที่ขึงอยู่ ก่อนที่ทีมจะได้รับคำใบ้ให้ไปที่จุดหยุดพัก Forte de São Marcelo (ขวา) ด้วยเรือ

เลก 1 (สหรัฐอเมริกา → บราซิล)

ทางแยกในเลกนี้ แต่ละทีมจะต้องเลือกระหว่าง ขึ้นแบบแข็ง ๆ (Hard Way Up) และ ลงแบบนิ่ม ๆ (Soft Way Down) โดยทีมที่เลือกขึ้นแบบแข็ง ๆ จะต้องเลียนแบบพิธีทางศาสนาโดยการไต่ขึ้น Escadaria do Passo โดยใช้แขนและหัวเข่าเท่านั้น เมื่อขึ้นไปถึงจุดสูงสุด พวกเขาจะถูกถามคำถามปริศนา (คุณไต่ขึ้นมากี่ขั้น ?) โดยทีมจะได้รับคำใบ้ต่อไปเมื่อตอบคำถามถูกต้อง หากตอบไม่ถูก ทีมจะต้องไต่บันไดขึ้นมาใหม่ (คำตอบที่ถูกต้องคือ 53 ขั้น) ส่วนลงแบบนิ่ม ๆ ทีมจะต้องขึ้นไปถึงยอดของ Elevador Lacerda (ลิฟต์กลางแจ้ง) ที่สูง 240 ฟุตและไต่ลงมาที่พื้นถนน เพื่อรับคำใบ้ต่อไป

ภารกิจเสริม
  • ที่ร้านแซนด์วิช o Rei do Pernil ทีมจะต้องเข็นรถเข็นท้องถิ่นไปส่งที่ Praça da Sé เพื่อรับคำใบ้ต่อไป

เลก 2 (บราซิล)

ทางแยกในเลกนี้ ทีมจะต้องเลือกระหว่าง ชายหาด (Beach It) และ ท่าเรือ (Docket) โดยทีมที่เลือกชายหาดจะต้องเข็นเรือใบท้องถิ่นของบราซิล ที่รู้จักกันในชื่อ Jangada (อังกฤษ) ลงไปยังปากชายหาดโดยใช้ท่อนซุงกลิ้งเรือไป โดยมีคนท้องถิ่นช่วย เมื่อเสร็จแล้วจึงจะได้รับคำใบ้ต่อไป สำหรับทีมที่เลือกท่าเรือ ทีมจะได้รับชุดตัวเลขมา 1 ชุด หลังจากนั้นทีมจะต้องไปยังท่าเรือ Porto do Pecém (โปรตุเกส) เมื่อไปถึง ทีมต้องใช้คอมพิวเตอร์เพื่อค้นหาชุดตัวเลขนั้น เพื่อให้พบตัวอักษร 4 ตัวที่อยู่ข้างหน้าที่จะเป็นตัวบอกว่าตู้สินค้านั้นอยู่ที่จุดใดของท่าเรือ หลังจากทีมค้าหาเสร็จ ทีมจะต้องหาตู้สินค้านั้นเพื่อหยิบคำใบ้ต่อไป ในอุปสรรคของเลกนี้ สมาชิกในทีมหนึ่งคนต้องหาชื่อของจุดหมายต่อไป (Cidade da Criança) บนกำแพงของสวนสาธารณะที่เต็มไปด้วยโฆษณา

เลก 3 (บราซิล → โบลิเวีย)

ระหว่างที่มาถึงเมือง ลาปาซ ทีมจะต้องค้างแรมที่ลานหน้าอนุสาวรีย์ซีมอง โบลีวาร์

ทางแยกในเลกนี้ ทีมจะต้องเลือกระหว่าง ดนตรีเดินแถว (Musical March) และ ถนนขรุขระ (Bumpy Ride) โดยทีมที่เลือก Musical March ทีมจะต้องหาวงมาร์ชท้องถิ่นและพาวงไปรอบเมือง หาสมาชิกที่กระจายอยู่ในเมือง และพาสมาชิกไปหาหัวหน้าวง ก่อนที่ทีมจะได้รับคำใบ้ต่อไป สำหรับทีมที่เลือก Bumpy Ride ทีมจะต้องขี่จักรยานไม้ลงมาบนถนนที่เต็มไปด้วยหินกรวด ก่อนที่ทีมจะได้รับคำใบ้ต่อไป อุปสรรคในเลกนี้ สมาชิกในทีมหนึ่งคนจะเรียนท่ามวยปล้ำ 6 ท่าจากนักมวยปล้ำอาชีพหญิง (Fighting Cholitas (Cholitas Luchadoras)) และขึ้นไปทำท่าเหล่านั้นบนเวที หลังจากสมาชิกคนนั้นทำครบ 6 ท่าที่กำหนดให้แล้ว ทีมจึงจะได้รับคำใบ้ต่อไป หากสมาชิกคนนั้นทำพลาดแม้แต่ท่าเดียว สมาชิกคนนั้นจะต้องกลับไปฝึกกับนักมวยปล้ำใหม่ก่อนที่จะขึ้นมาอีกครั้ง

ภารกิจเสริม
  • ที่อนุสาวรีย์ซีมอง โบลีวาร์ ทีมต้องหาคำใบ้ต่อไปจากหนังสือพิมพ์ที่มาส่งที่ลานหน้ารูปปั้น
  • ที่ร้านขายหมวกนาวาเอซ ทีมต้องซื้อหมวกท้องถิ่นที่เรียกว่า Bombin ก่อนที่จะได้รับคำใบ้ต่อไป ทีมได้รับคำแนะนำให้เก็บหมวกเหล่านั้นไว้สำหรับให้นักมวยปล้ำอาชีพ เพื่อเป็นของขวัญแก่พวกเธอ หลังจากที่ทำงานอุปสรรคในเลกนี้สำเร็จ

เลก 4 (โบลิเวีย → นิวซีแลนด์)

ยอดเขาอีเด็น เป็นสถานที่สำหรับทำงานอุปสรรค โดยสมาชิกของทีมหนึ่งคนจะต้องจับคู่รอยสักที่อยู่บนคำใบ้กับรอยสักบนหน้ามาวรีให้ถูกต้อง

ทางด่วนในเลกนี้ ทีมจะต้องปีนขึ้นไปบนยอดของสกายทาวเวอร์เพื่อนำโนมของทราเวลลอซิตี้ที่มีคำใบ้เพื่อไปสู่จุดหยุดพักต่อไปลงมา อุปสรรคในเลกนี้ สมาชิกหนึ่งคนในแต่ละทีมจะต้องเลือกภาพเขียนรอยสัก ที่กำหนดให้ แล้วนำไปจับคู่กับรอยสักที่อยู่บนหน้าของนักรบชาวมาวรีให้ถูกต้อง ก่อนที่จะได้รับคำใบ้ต่อไป สำหรับทางแยกในเลกนี้ทีมจะต้องเลือกระหว่าง ขึ้นอยู่กับเวลา (Matter Of Time) และ ขึ้นอยู่กับฝีมือ (Matter Of Skill) โดยทีมที่เลือก Matter Of Time จะต้องใช้เท้าบดกีวีหนึ่งถังเพื่อทำน้ำผลไม้ 12 ควอร์ต และแต่ละคนจะต้องดื่มน้ำกีวีนั้นคนละ 1 แก้วเมื่อทำเสร็จ ก่อนที่จะได้รับคำใบ้ต่อไป สำหรับทีมที่เลือก Matter Of Skill ทีมจะต้องประกอบโบลว์คาร์ท 2 คัน และสมาชิกในทีมจะต้องขี่โบลว์คาร์ทรอบสนามเป็นจำนวน 3 รอบก่อนที่จะได้รับคำใบ้ต่อไป

ภารกิจเสริม
  • ที่อ่าวฮาเบอร์ ทีมจะต้องแกะปมเชือกขนาดใหญ่ให้ได้ ซึ่งคำใบ้ต่อไปจะซ่อนอยู่ในปมเชือกนั้น
  • ที่โรงแรมซิติ้ไลฟ์ ทีมจะต้องใช้กล้องส่องทางไกล เพื่อค้นหาตัวโนม 8 ตัวของแทรเวลโลซิตี้ที่ซ่อนอยู่ในเมือง แล้วไปนำโนมตัวใดตัวหนึ่งที่พบมา โดยคำใบ้ต่อไปจะอยู่ที่ตัวโนมนั้น และทีมจะต้องนำมันไปที่จุดหยุดพักด้วย
ข้อมูลเพิ่มเติม
  • สำหรับงานทางด่วน (Fast Forward) ในเลกนี้ คล้ายกับงานอุปสรรค (Roadblock) ใน เลก 5 ของ ดิ อะเมซิ่ง เรซ เอเชีย 1 โดยเป้าหมายของงานนั้นเหมือนกัน คือ ขึ้นไปถึงยอดของสกายทาวเวอร์ แตกต่างกันที่ในดิ อะเมซิ่ง เรซ 13 งานนี้เป็นงาน Fast Forward และทั้งสองคนจะต้องปีนขึ้นไป แต่ในดิ อะเมซิ่ง เรซ เอเชีย 1 งานนี้เป็นงาน Roadblock ซึ่งจะมีผู้ปีนขึ้นไปเพียงคนเดียว

เลก 5 (นิวซีแลนด์ → กัมพูชา)

นครวัด เป็นสถานที่สำหรับทำงานอุปสรรคในเลก 5 ที่ทีมจะต้องหาห้องเสียงสะท้อนที่กำหนดให้

ทางแยกในเลกนี้ทีมจะต้องเลือกระหว่าง ชีวิตชาวบ้าน (Village Life) และ ทำงานอย่างชาวบ้าน (Village Work) โดยทีมที่เลือก Village Work ทีมจะต้องไปที่ทะเลสาบเขมรและนำปลา 2 ตะกร้าในกับดักที่กำหนดให้ มาให้คนบนฝั่งอ่าวเสียมราฐที่ทะเลสาบเขมร สำหรับทีมที่เลือก Village Life ทีมจะต้องไปนำฟันปลอมหนึ่งชิ้นจากทันตแพทย์ ตุ๊กตา จากช่างตัดเสื้อ และลูกบาสเกตบอลบนสนามที่ลอยอยู่บนทะเลสาบเขมร สมาชิกแต่ละคนในทีมยังจะต้องเล่นบาสเกตบอลให้ลงตะกร้า 1 ครั้งก่อนที่จะนำสิ่งที่พวกเขาไปเก็บมาไปคืนคนบนฝั่ง อุปสรรคในเลกนี้ทีมจะต้องไปที่นครวัด และสมาชิกหนึ่งคนของแต่ละทีมจะต้องหา "ปราสาทกร๊อกธรอง" (หรืออีกชื่อหนึ่งว่า "ห้องเสียงสะท้อน") ที่เมื่อสมาชิกคนนั้นทุบหน้าอกของตน เขาจะได้ยินเสียงสะท้อนกลับมา ซึ่งในห้องนั้นจะมีรูปสลักหินอยู่ โดยคำใบ้ต่อไปจะอยู่ข้างหลังรูปสลักหินนั้น และทีมจะต้องนำรูปสลักหินนั้นไปที่จุดพักด้วย

ภารกิจเสริม
  • เมื่อทีมมาถึงเสียมราฐ ทีมจะต้องเติมน้ำมันดีเซล 25 ลิตร ใส่รถบรรทุก แล้วขับรถบรรทุกไปที่ทะเลสาบเขมร ทะเลสาบน้ำจืด ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เมื่อไปถึงทีมจะต้องนั่งเรือ ที่กำหนดให้ไปยังภัตตาคารโค แอนเด็ธเพื่อรับคำใบ้ต่อไป

เลก 6 (กัมพูชา → อินเดีย)

อุปสรรคในเลกนี้ ทีมจะต้องพ่นสีรถตุ๊กตุ๊ก (ในภาพ) ให้เป็นสีเขียว

อุปสรรคในเลกนี้ สมาชิกหนึ่งคนของแต่ละทีมจะต้องพ่นสีรถตุ๊กตุ๊ก สีดำให้เป็นสีเขียว เพื่อแสดงว่ารถคันนี้กำลังเปลี่ยนไปใช้น้ำมันไบโอดีเซล โดยก่อนที่จะพ่นสี สมาชิกคนนั้นจะต้องหุ้มตัวถังรถที่เป็นสีเหลือง ตัวกระจก และล้อ ของรถตุ๊กตุ๊กด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์ ทางแยกในเลกนี้ แต่ละทีมจะต้องเลือกระหว่าง แลกเงิน (Launder Money) และ รีดผ้า (Launder Clothes) โดยทีมที่เลือก Launder Money ทีมจะต้องทำพวงมาลัย แต่งงานท้องถิ่นของชาวอินเดียโดยใช้ธนบัตรสกุลรูปี จำนวน 10 ฉบับให้ได้จำนวนเงิน 780 รูปี แล้วนำไปให้เจ้าบ่าวที่ำพราคาซ แบงเคว็ท ฮอลล์ เพื่อรับคำใบ้ต่อไป สำหรับทีมที่เลือก Launder Clothes ทีมจะต้องใช้เตารีด โบราณที่ใช้พลังงานถ่าน รีดผ้า 20 ชิ้น เพื่อที่จะรับคำใบ้ต่อไปจากคนรีดผ้า

เลก 7 (อินเดีย)

สุสานจักรพรรดิฮูมายัน ในเดลี ประเทศอินเดีย เป็นจุดหยุดพักที่ 7 ของ ดิ อะเมซิ่ง เรซ 13

อุปสรรคในเลกนี้ สมาชิกหนึ่งคนในแต่ละทีมจะต้องค้นหาซองคำใบ้ที่เขียนว่า ดิ อะเมซิ่ง เรซ ท่ามกลางซองคำใบ้นับร้อยที่มีคำว่า Sorry, Try again. (เสียใจด้วย ลองอีกครั้ง) บนบันไดที่อยู่ท่ามกลางงานฉลองในเทศกาลแห่งสี (เทศกาลโฮลี่) ทางแยกในเลกนี้ทีมจะต้องเลือกระหว่าง ปวดตา (Bleary Eyed) และ แสบตา (Teary Eyed) โดยทีมที่เลือก Bleary Eyed จะต้องเดินไปตามสายไฟฟ้าแล้วจดเลขที่อยู่บนสายไฟฟ้านั้นทั้งหมด แล้วนำไปรายงานคนตัดชุดหากตัวเลขทั้งหมดถูกต้อง ทีมจะต้องไปเสียบปลั๊กรูปปั้นของพระพิฆเนศวรก่อนที่จะได้รับคำใบ้ต่อไป สำหรับทีมที่เลือก Teary Eyed ทีมจะต้องขนพริกหนักกระสอบละ 40 ปอนด์ จำนวน 2 กระสอบ ไป 1/4 ไมล์ที่ร้านที่กำหนด แล้วตำพริกให้แหลกโดยใช้ ครกกับสาก ก่อนที่จะรับคำใบ้ต่อไปจากเจ้าของร้าน สำหรับงานเพิ่มเติมของเคนกับทีน่า พวกเขาจะต้องไปที่วัดสิกข์ แล้วบริการน้ำให้กับชาวสิกข์ จนกว่าจะไม่มีใครขอน้ำอีก พวกเขาจึงจะได้รับอนุญาตให้แข่งต่อและทำงานทางแยกได้

ภารกิจเสริม
  • ที่โรงพยาบาลนก ทีมจะต้องค้นหากรงนกที่มีคำใบ้เพื่อรับคำใบ้ต่อไป

เลก 8 (อินเดีย → คาซัคสถาน)

อุปสรรคในเลกนี้ สมาชิกหนึ่งคนในแต่ละทีมจะต้องค้นหาไข่ทองหนึ่งในเจ็ดใบ ท่ามกลางไก่กว่า 30,000 ตัวในโรงเลี้ยง ทางด่วนสุดท้ายในการแข่งขัน ทีมจะต้องไปยังร้านอาหาร แล้วรับประทาน ไขมันส่วนก้นของแกะ ซึ่งเป็นอาหารราคาแพงในประเทศคาซัคสถาน ทางแยกในเลกนี้ทีมจะต้องเลือกระหว่าง เล่นแบบบ้า ๆ (Play Like Mad) และ แสดงแบบโง่ ๆ (Act Like Fools) โดยทีมที่เลือก Play Like Mad จะต้องไปยังพิพิธภัณฑ์เครื่องดนตรีท้องถิ่นแห่งชาติ แล้วเล่นเพลงท้องถิ่นโดยใช้ ดอมบรา และ แชงโคบิช ต่อหน้าผู้คนในสวนสาธารณะเพื่อให้ได้เงินอย่างน้อย 1.50 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 180 เทนจ์คาซัค) ก่อนที่จะได้รับคำใบ้ต่อไป สำหรับทีมที่เลือก Act Like Fools จะต้องไปโรงละครหุ่นเชิด แล้วทั้งสองคนจะต้องสวมชุดคอสตูมของวัว แล้งเดินไปยังแท่นขายนม ที่ถนนซีเบ็ค ซอลลี่ ตัดถนนคูไนล์ แล้วดึ่มนมให้หมดแก้ว ซึ่งที่ก้นแก้วจะมีชื่อสถานที่ต่อไป (ตลาดเชลลีออน) ซึ่งทีมจะต้องไปรับคำใบ้ต่อไปที่ร้านที่กำหนด เมื่อเสร็จงานทางแยกแล้ว ทีมจะต้องนำดอมบรา หรือชุดคอสตูมวัว แล้วแต่กรณี ไปยังจุดหยุดพัก

ภารกิจเสริม
  • ที่ค็อคโตเบ อาร์ช ทีมจะได้รับคำใบ้ต่อไปจากการส่งของนกอินทรีที่ถูกฝึกมาโดยนักรบมองโกล

เลก 9 (คาซัคสถาน → รัสเซีย)

โบสถ์ครูติตซืย โพร์วอเย่ สถานที่ซึ่งทีมจะต้องจุดเทียนเคารพสถานที่ เพื่อรับคำใบ้ต่อไป

ทางแยกในเลกนี้แต่ละทีมจะต้องเลือกระหว่าง บู๊ท (Boots) และ ซุป (Borscht) โดยแต่ละทีมจะต้องสวมเครื่องแบบทหารรัสเซียก่อน แล้วทีมที่เลือก Boots จะต้องเดินขบวนมาร์ชให้เข้ากับทหารที่จะเดินไปพร้อม ๆ กัน เมื่อครูฝึกเห็นว่าทีมเดินได้เรียบร้อย ทีมจึงจะได้รับคำใบ้ต่อไป สำหรับทีมที่เลือก Borscht ทีมจะต้องบริการ บอร์ช (ซุปบีทรูท) ให้ทหาร 75 นายก่อนที่จะได้รับคำใบ้ต่อไป อุปสรรคในเลกนี้ทีมจะต้องขนแป้งหนักกระสอบละ 55 ปอนด์ จำนวน 50 กระสอบ จากนอกร้านไปวางในร้าน ก่อนที่จะได้รับคำใบ้ต่อไปจากเจ้าของร้านขนมปัง

ภารกิจเสริม
  • ที่โบสถ์ครูติตซืย ทีมจะต้องจุดเทียนเคารพสถานที่ ก่อนที่จะได้รับคำใบ้ต่อไป สำหรับผู้เข้าแข่งขันที่เป็นผู้หญิง จะต้องสวมผ้าผูกคอ ก่อน ตามประเพณีทางศาสนาของวัดนั้น

เลก 10 (รัสเซีย)

สวนเวเดเอนฮา (VDNKh) เป็นจุดหยุดพักที่ 10 และจุดคัดออกสุดท้ายใน ดิ อะเมซิ่ง เรซ 13

อุปสรรคในเลกนี้ สมาชิกหนึ่งคนในแต่ละทีมจะต้องนับจำนวนรูปปั้นของ โจเซฟ สตาลิน และ วลาดิมีร์ เลนิน ที่อยู่ในสวนสาธารณะ แล้วเดินทางไปที่ร้านขายหนังสือเพื่อบอกคำตอบกับผู้จัดการร้านหนังสือ โดยคำตอบที่บอกจะมีค่าเท่ากับ จำนวนรูปปั้นของเลนิน (6 รูปปั้น) เป็นหลักสิบ และจำนวนรูปปั้นของสตาลิน (2 รูปปั้น) เป็นหลักหน่วย หากตอบผิด สมาชิกคนนั้นจะต้องรอ 10 นาที จึงจะตอบใหม่ได้ หากถูกต้อง ทีมจะได้รับหนังสือ The Master and Margarita ที่เขียนโดย มีฮาอิล บุลกาคอฟ โดยสมาชิกคนนั้นจะต้องเปิดไปที่หน้า 62 (คำตอบที่ถูกต้อง) เพื่อค้นหาชื่อสถานที่ต่อไป (แฟลตของบุลกาคอฟ) ที่ซึ่งคำใบ้ต่อไปและสมาชิกอีกคนของทีมจะรออยู่

ทางแยกในเลกนี้แต่ละทีมจะต้องเลือกระหว่าง รถไฟ (Ride the Rails) และ รถราง (Ride the Lines) โดยทีมที่เลือก Ride the Rails จะต้องเดินทางโดย รถไฟฟ้าใต้ดินมอสโกจากสถานีรถไฟใต้ดินโซโคลนีกี (Sokolniki) ไปยังสถานีถนน 1905 (Ulitsa 1905 Goda) แล้วหยิบซามซ่ามาหนึ่งชิ้นมาจากแท่นขายขนม ข้อมูลที่อยู่บนกระดาษห่อจะบอกให้ทีมนั่งรถไฟใต้ดินไปที่ สถานีคิไทโกรอช (Kitay-Gorod) แล้วนำอาหารนั้นไปส่งให้กับผู้หญิงที่สวมบาบุชก้า (ผ้าโพกหัวชนิดหนึ่ง) ที่อยู่หน้าอนุสาวรีย์นักบวชเซนต์ ซีริล และ เซนต์ มีโธดิอัส ผู้ประดิษฐ์ อักษรซีริลลิก ที่จัตุรัสสลาเวียนสกายา (Slavyanskaya) สำหรับทีมที่เลือก Ride The Lines จะต้องนั่งรถรางบัส จากสถานีรถไฟใต้ดินโซโคลนีกีไปที่ สถานีรถไฟใต้ดินคราสโนเซลสกายา (Krasnoselskaya) เพื่อไปรับกุญแจจากช่างทำกุญแจ แล้วนำกุญแจนั้นมาเปิดล็อกเกอร์ที่สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินริชสกายา (Rizhskaya) เมื่อทีมทำงานทางแยกเสร็จแล้ว ทีมจะได้รับโปสต์การ์ตที่มีภาพของสถานีรถไฟใต้ดินเวเดเอนฮา และหลังโปสต์การ์ตจะมีคำอธิบายให้ทีมค้นหากล่องคำใบ้บริเวณรอบสถานีนั้น เพื่อหยิบคำใบ้ต่อไป สำหรับงานเพิ่มเติมของแอนดริวกับแดน พวกเขาจะต้องเรียนและเต้นแบบท้องถิ่นรัสเซียให้เป็นที่พอใจแก่ครูสอนเต้นรำ ก่อนที่จะกลับไปทำงานทางแยก

ภารกิจเสริม
  • ทีมจะต้องค้นหานักแสดงคนหนึ่งที่แสดงในเรื่อง "ล่าตุลาแดง" (The Hunt for Red October) ในเรือดำน้ำ ท่ามกลางลูกเรือในเรือ

เลก 11 (รัสเซีย → สหรัฐอเมริกา)

พิทท็อกซ์ แมนชั่น เป็นเส้นชัยสำหรับการแข่งขัน ดิ อะเมซิ่ง เรซ 13

ในทางแยกสุดท้ายของการแข่งขันนี้ แต่ละทีมจะต้องเลือกระหว่าง สูงแห้ง (High & Dry) และ ต่ำเปียก (Low & Wet) โดยทีมที่เลือก High & Dry สมาชิกทั้งสองคนในทีมจะต้องปีนต้นไม้ ไป 30 ฟุต เดินข้ามท่อนซุงยาว 40 ฟุตที่พาดอยู่บนอากาศ และกระโดดไปหยิบคำใบ้คนละครึ่งส่วนจากบนอากาศ หากสมาชิกคนใดก็ตามตกจากท่อนซุงโดยที่ไม่ได้คำใบ้ สมาชิกคนนั้นจะต้องเริ่มทำใหม่ตั้งแต่ต้น สำหรับทีมที่เลือก Low & Wet จะต้องเดินไปบนสะพานซุงที่ลอยอยู่กลางน้ำเป็นระยะทาง 850 ฟุต เพื่อไปหยิบคำใบ้จากอีกฝั่งของลำน้ำ แล้วเดินกลับมา

ภารกิจเสริม
  • ทีมจะต้องรูดสลิงจากสะพานพระเจ้า ไปยังเกาะที่อยู่ข้าง ๆ เพื่อหยิบคำใบ้ต่อไป เมื่อถึงที่นั่น ทีมจะต้องทบทวนความจำเกี่ยวกับงานทั้งหมดที่ผ่านมาใน 10 เลกของการแข่งขัน โดยทีมจะต้องไปที่กระดานเกมที่กำหนดแล้วเล่นเกมให้ผ่าน (จะมีแผ่นป้ายทั้งหมด 10 แผ่นป้ายบนกระดานเกม แต่ละป้ายนั้นแทนแต่ละเลกของการแข่งขัน ทีมจะต้องเปิดป้ายทีละแผ่น เริ่มจากแผ่นที่ 1 เมื่อทีมเปิดแผ่นป้ายเสร็จ ทีมจะพบกับสัญลักษณ์จุดหยุดพัก ทางแยก อุปสรรค หรือข้อมูลแสดงเส้นทาง เมื่อทีมพบสัญลักษณ์ ทีมจะต้องไปหาภาพที่เกี่ยวข้องกับสัญลักษณ์นั้นจากกล่องคำใบ้ที่ตั้งอยู่บนทุ่งหญ้ากว่า 150 กล่อง (ภาพที่ถูกต้องคือภาพของสถานที่ หรืองานที่ทำ ณ ช่วงนั้นที่ตรงกับสัญลักษณ์นั้น เช่นในป้ายที่ 1 เป็นภาพ Route Info ดังนั้นทีมจะต้องไปค้นหารถเข็นกาแฟ จากร้านแซนด์วิช o Rei do Pernil) เมื่อทีมพบภาพที่ตรงกับสัญลักษณ์นั้นแล้ว ทีมจะต้องนำภาพมาวางที่ช่องแผ่นป้าย หากถูกต้อง ไฟสีเขียวจะติดขึ้นบนแผ่นป้าย หากไม่ถูก จะมีเสียงบอกว่าผิด เมื่อทีมทำถูกครบ 10 ป้ายแล้ว ทีมจึงจะสามารถไปหยิบคำใบ้ต่อไปได้ที่ลานจอดรถ)
  • ที่อาคารพอร์ตแลนด์ ทีมจะต้องค้นหารูปปั้น ไดโนเสาร์ สีเขียวที่อยู่ที่อาคารสแตนด์ดาร์ด ที่อยู่ใกล้กับอาคารพอร์ตแลนด์ โดยกล่องคำใบ้ต่อไปจะตั้งอยู่ใกล้กับรูปปั้นนั้น
  • ที่แท่นขายอาหารบนถนนอัลเดอร์ ทีมจะต้องค้นหารถขายอาหารของประเทศที่เป็นจุดหยุดพักสุดท้าย (รัสเซีย) โดยเจ้าของรถจะให้คำใบ้ต่อไปแก่พวกพวกเขา คำใบ้นี้จะบอกให้ทีมไปที่ที่ "The Magic Is In The Hole" (เวทมนตร์อยู่ในรู) โดยทีมจะต้องแปลความหมายจากประโยคนี้ก่อนที่จะไปยังสถานที่นั้น (ประโยคนี้เป็นสโลแกนของร้านวูดูโดนัท)

ใกล้เคียง

ดิอะเมซิ่งเรซเอเชีย 2 ดิอะเมซิ่งเรซ 13 ดิอะเมซิ่งเรซ 12 ดิอะเมซิ่งเรซ: A Corrida Milionária ดิอะเมซิ่งเรซ 14 ดิอะเมซิ่งเรซ 8 ดิอะเมซิ่งเรซเอเชีย ดิอะเมซิ่งเรซ 16 ดิอะเมซิ่งเรซ 15 ดิอะเมซิ่งเรซ 18

แหล่งที่มา

WikiPedia: ดิอะเมซิ่งเรซ_13 http://www.19bc.eb.mil.br/ http://amazingracewiki.cbs.com/ http://www.cbs.com/info/schedule/index.php http://www.cbs.com/primetime/amazing_race/ http://www.eonline.com/uberblog/b31165_amazing_rac... http://hollywoodinsider.ew.com/2008/07/amazing-rac... http://ap.google.com/article/ALeqM5hTmuNBAmvhqFykt... http://www.kennyandtina.com/index.html http://www.realityblurred.com/realitytv/archives/t... http://www.realitynewsonline.com/cgi-bin/ae.pl?mod...