ตระกูลอาชิกางะ หรือ
อาชิกากะ (
ญี่ปุ่น: 足利氏
โรมาจิ:
Ashikaga-shi ) เป็นตระกูลของซามูไร
ญี่ปุ่น ซึ่งดำรงตำแหน่งโชกุนของ
รัฐบาลโชกุนอาชิกางะใน
ยุคมูโรมาจิ เป็นผู้ปกครองประเทศญี่ปุ่นในทางพฤตินัยตระกูลอาชิกางะสืบเชื้อสายมาจาก
ตระกูลมินาโมโตะซึ่งสืบเชื้อสายมาจากพระ
จักรพรรดิเซวะ เรียกว่า ตระกูลเซวะเก็นจิ (
ญี่ปุ่น: 清和源氏
โรมาจิ:
Seiwa Genji ) สาขาซึ่งตั้งรกรากอยู่ที่แคว้นคาวาจิ (
จังหวัดโอซากะในปัจจุบัน) เรียกว่า ตระกูลคาวาจิเก็นจิ (
ญี่ปุ่น: 河内源氏
โรมาจิ:
Kawachi Genji) หนึ่งในสมาชิกของตระกูลคาวาจิเก็นจิ คือ
มินาโมโตะ โนะ โยชิอิเอะ (
ญี่ปุ่น: 源 義家
โรมาจิ:
Minamoto no Yoshiie) เป็นซามูไรที่มีชื่อเสียงใน
ยุคเฮอัง มินาโมโตะ โนะ โยชิอิเอะ มีบุตรชายชื่อว่า มินาโมโตะ โนะ โยชิจิกะ (
ญี่ปุ่น: 源 義親
โรมาจิ:
Minamoto no Yoshichika) เป็นปู่ทวดของโชกุนคนแรก
มินาโมโตะ โนะ โยริโตโมะนอกจากนี้ มินาโมโตะ โนะ โยชิอิเอะ ยังมีบุตรชายอีกคนชื่อว่า มินาโมโตะ โนะ โยชิกูนิ (
ญี่ปุ่น: 源 義国
โรมาจิ:
Minamoto no Yoshikuni) ซึ่งมินาโมโตะ โนะ โยชิกูนิ มีบุตรชายคนโตชื่อว่า มินาโมโตะ โนะ โยชิชิเงะ (
ญี่ปุ่น: 源 義重
โรมาจิ:
Minamoto no Yoshishige) โยชิชิเงะเดินทางไปตั้งรกรากที่เมืองนิตตะ (
ญี่ปุ่น: 新田
โรมาจิ:
Nitta) ในแคว้นโคซูเกะ (
ญี่ปุ่น: 上野
โรมาจิ:
Kōzuke) ปัจจุบันคือเมือง
โอตะจังหวัดกุมมะ เป็นบรรพบุรุษของตระกูลนิตตะ ตระกูลยามานะ และ
ตระกูลโทกูงาวะมินาโมโตะ โนะ โยชิกูนิ มีบุตรชายคนที่สอง ชื่อว่า มินาโมโตะ โนะ โยชิยาซุ (
ญี่ปุ่น: 源 義康
โรมาจิ:
Minamoto no Yoshiyasu) โยชิยาซุเดินทางไปตั้งรกรากที่เมืองอาชิกางะ ในแคว้นชิมตสึเกะ (
ญี่ปุ่น: 下野
โรมาจิ:
Shimotsuke ปัจจุบันคือ
จังหวัดโทจิงิ) เป็นบรรพบุรุษของตระกูลอาชิกางะ มินาโมโตะ โนะ โยชิยาซุ มีบุตรชายชื่อว่า อาชิกางะ โยชิกาเนะ (
ญี่ปุ่น: 足利義兼
โรมาจิ:
Ashikaga Yoshikane) อาชิกางะ โยชิกาเนะ มีบทบาทและมีความดีความชอบต่อโชกุนคนแรก มินาโมโตะ โนะ โยริโตโมะ ใน
สงครามเก็มเป (
ญี่ปุ่น: 源平合戦
โรมาจิ:
Genpei kassen) อาชิกางะ โยชิกาเนะ สมรสกับ โฮโจ โทกิโกะ (
ญี่ปุ่น: 北条時子
โรมาจิ:
Hōjō Tokiko) ซึ่งเป็นบุตรสาวของ
โฮโจ โทกิมาซะ และเป็นน้องสาวของนาง
โฮโจ มาซาโกะ เท่ากับว่าอาชิกางะ โยชิกาเนะ เป็นน้องเขยของโชกุนมินาโมโตะ โนะ โยริโตโมะ แม้ว่าต้นตระกูลอาชิกางะจะมีผลงานโดดเด่นในสงครามเก็มเป แต่ตลอด
ยุคคามากูระ ตระกูลอาชิกางะมีบทบาททางการเมืองเพียงเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม
รัฐบาลโชกุนคามากูระและ
ตระกูลโฮโจยังคงให้เกียรติตระกูลอาชิกางะด้วยการส่งสตรีจากตระกูลโฮโจมาสมรสกับตระกูลอาชิกางะอย่างต่อเนื่อง ในยุคคามากูระ ผู้นำตระกูลอาชิกางะทุกคนมีภรรยาเอกมาจากตระกูลโฮโจนอกจากนี้ตระกูลอาชิกางะยังแตกสาขาย่อยออกไปเป็นตระกูลต่าง ๆ อีกมากมาย ได้แก่ในยุคมูโรมาจิตระกูลอาชิกางะมีอยู่สองสาขาด้วยกันได้แก่ สาขาตระกูลของโชกุนซึ่งปกครองรัฐบาลโชกุนที่เมืองเกียวโต และสาขาซึ่งดำรงตำแหน่งเป็น คันโตคุโบ (
ญี่ปุ่น: 関東公方
โรมาจิ:
Kantō kubō ) ปกครองภาคตะวันออกของญี่ปุ่นอยู่ที่เมืองคามากูระเมื่อโชกุนอาชิกางะคนสุดท้าย คือ อาชิกางะ โยชิอากิ (
ญี่ปุ่น: 足利 義昭
โรมาจิ:
Ashikaga Yoshiaki) ถูก
โอดะ โนบูนางะ ปลดจากตำแหน่งโชกุนใน ค.ศ. 1573 สิ้นสุดรัฐบาลโชกุนอาชิกางะ บุตรชายเพียงคนเดียวของโชกุนโยชิอากิบรรพชาเป็นพระภิกษุไม่มีทายาท ทำให้ตระกูลอาชิกางะสาขาตระกูลโชกุนสิ้นสุดลงใน ค.ศ. 1455 ผู้ดำรงตำแหน่งคันโตคุโบคนสุดท้ายคือ อาชิกางะ ชิเงอูจิ (
ญี่ปุ่น: 足利 成氏
โรมาจิ:
Ashikaga Shigeuji) ถูกตระกูลอูเอซูงิ (
ญี่ปุ่น: 上杉
โรมาจิ:
Uesugi ) ซึ่งเป็นคู่แข่งทางการเมือง ขับออกจากเมืองคามากูระ ชิเงอูจิหลบหนีไปยังเมืองโคงะ (
ญี่ปุ่น: 古河
โรมาจิ:
Koga ปัจจุบันอยู่ใน
จังหวัดอิบารากิ) ได้รับสมญานามว่า โคงะคุโบ (
ญี่ปุ่น: 古河公方
โรมาจิ:
Koga kubō) บุตรหลายของชิเงอูจิสืบทอดสมญานามโคงะคุโบต่อมา จนกระทั่งเมื่อโคงะคุโบคนสุดท้ายคือ อาชิกางะ โยชิอูจิ (
ญี่ปุ่น: 足利 義氏
โรมาจิ:
Ashikaga Yoshiuji) เสียชีวิตโดยไม่มีบุตรชายใน ค.ศ. 1583 ทำให้ตระกูลอาชิกางะสาขาของภูมิภาคคันโตสิ้นสุดลง อย่างไรก็ตามมีบุตรหลานของอาชิกางะ ชิเงอูจิ ตั้งรกรากที่ปราสาทโอยูมิ (
ญี่ปุ่น: 小弓
โรมาจิ:
Oyumi ปัจจุบันอยู่ในเขต
จังหวัดชิบะ) และเปลี่ยนชื่อตระกูลจากอาชิกางะเป็น คิตสึเรกาวะ (
ญี่ปุ่น: 喜連川
โรมาจิ:
Kitsurekawa) ตระกูลคิตสึเรกาวะเป็นไดเมียวปกครองแคว้นคิตสึเรกาวะไปจนตลอด
ยุคเอโดะตระกูลที่เป็นสาขาย่อยอื่น ๆ ของตระกูลอาชิกางะ เช่น ตระกูลโฮโซกาวะ ยังคงสืบเชื้อสายมาจนถึงยุคปัจจุบัน