การต่อสู้เพื่อเอกราช ของ ต้านทู่น

ต้านทู่นประกอบอาชีพเป็นครูหลังจากจบจากวิทยาลัยฝึกหัดครูในย่างกุ้ง และชื่นชอบงานเขียนแนวมาร์กซิสต์ เขาเข้าร่วมในสมาคมเราชาวพม่าเมื่อ พ.ศ. 2479 และเป็นพันธมิตรกับพรรคคนจนของ ดร.บะมอ เพื่อสร้างกลุ่มพันธมิตรเสรี เขาเป็นผู้ร่วมก่อตั้งชมรมหนังสือนากานี (นาคแดง) กับตะคีนนุใน พ.ศ. 2480 ซึ่งมีบทบาทในการแปลหนังสือเกี่ยวกับลัทธิมากซ์เป็นภาษาพม่า เขาถูกอังกฤษจับคุมขังใน พ.ศ. 2483 พร้อมกับตะคีนนุ, ตะคีนโซ่, ดร.บะมอ และจอเญ่น

ในขณะที่ถูกคุมขังในเรือนจำอี้นเซนเมื่อเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2484 เขาได้ร่วมกับตะคีนโซ่เขียนแถลงการณ์อี้นเซนโดยกล่าวว่าลัทธิฟาสซิสต์เป็นศัตรูที่สำคัญของโลกที่กำลังมาถึงและเรียกร้องให้มีการร่วมมือชั่วคราวกับอังกฤษ จัดตั้งพันธมิตรแบบกว้างที่รวมทั้งสหภาพโซเวียต การต่อสู้เพื่อปลดปล่อยชาติต่อต้านจักรวรรดินิยมจะเกิดขึ้นหลังจากลัทธิฟาสซิสต์พ่ายแพ้ นี่เป็นสิ่งตรงข้ามกับความเห็นของสมาคมเราชาวพม่าที่รวมตะคีนอองซานด้วยที่ได้จัดตั้งกลุ่มตะคีน 30 คน เพื่อฝึกทหารแบบญี่ปุ่นและจัดตั้งกองทัพเอกราชพม่า[1][2]

หลังจากจัดตั้งรัฐบาลหุ่นนำโดย ดร.บะมอ ใน พ.ศ. 2485 ต้านทู่นเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงที่ดินและเกษตรกรรม เขาได้แต่งงานกับคีนจี้ (ခင်ကြီးcode: my is deprecated ) ซึ่งเป็นน้องสาวของคีนจี (ခင်ကြည်code: my is deprecated ) ภรรยาของอองซาน อองซานแต่งงานไม่นานหลังจากที่ได้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการสงคราม กองทัพเอกราชพม่าเปลี่ยนชื่อเป็นกองทัพป้องกันพม่า ต้านทู่นได้ประสานงานกับตะคีนโซ่ที่จัดตั้งองค์การต่อต้านญี่ปุ่นเพื่อสู้รบใต้ดิน ส่งตะคีนเต้นเพและทินชเวไปอินเดียเพื่อติดต่อกับรัฐบาลอาณานิคมที่ลี้ภัยไปอยู่ที่ศิมลา หลังจากที่สงครามโลกครั้งที่สองสิ้นสุดลง ญี่ปุ่นเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ ถอนทัพออกไป ต้านทู่นเข้าร่วมในสันนิบาตเสรีภาพประชาชนต่อต้านฟาสซิสต์ ซึ่งเกิดจากการรวมตัวกันของพรรคคอมมิวนิสต์พม่า พรรคประชาชนปฏิวัติหรือต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นพรรคสังคมนิยมพม่าและกองทัพแห่งชาติพม่า