เมนูนำทาง
ทฤษฎีเกม ทฤษฎีเกมแบบร่วมมือและแบบไม่ร่วมมือทฤษฎีเกมสามารถแบ่งออกได้เป็นสองสาขาใหญ่ๆ ได้แก่ ทฤษฎีเกมแบบร่วมมือ (cooperative game theory) และทฤษฎีเกมแบบไม่ร่วมมือ (non-cooperative game theory) แต่ละสาขาของทฤษฎีเกมมีแนวทางการศึกษาที่แตกต่างกันในด้านรูปแบบการนิยามเกมและแนวคิดที่ใช้ในการวิเคราะห์ การจำแนกทฤษฎีสองแบบนี้มีที่มาเริ่มแรกจากบทความของจอห์น แนช ซึ่งตีพิมพ์ในปี 1951[6][7]:1
ในสาขาทฤษฎีเกมแบบไม่ร่วมมือ นิยามของเกมจะระบุทางเลือกทั้งหมดที่ผู้เล่นแต่ละฝ่ายสามารถตัดสินใจเลือกได้ ผู้เล่นแต่ละฝ่ายตัดสินใจโดยอิสระจากกันและไม่สามารถร่วมกันทำข้อตกลงอื่นๆ ให้มีผลบังคับใช้ได้ ในทฤษฎีเกมแบบร่วมมือ จะสมมติว่าผู้เล่นแต่ละฝ่ายสามารถทำข้อตกลงใดๆ กันก็ได้ โดยจะไม่ให้ความสำคัญกับขั้นตอนการเจราจาตกลงกันระหว่างผู้เล่น แต่ให้ความสำคัญกับการวิเคราะห์กลุ่มผู้เล่นว่าผู้เล่นจะมีการจับกลุ่มร่วมกันอย่างไรและจะมีการแบ่งผลประโยชน์กันอย่างไร[8] คำว่าเกมแบบไม่ร่วมมือในที่นี้ไม่ได้หมายความว่าทฤษฎีเกมชนิดนี้ไม่สามารถใช้จำลองสถานการณ์ที่มีการ "ร่วมมือ" กันในความหมายทั่วไปว่าการตกลงกระทำเพื่อให้ได้ประโยชน์ร่วมกัน แต่การจำลองสถานการณ์ความร่วมมือหรือการเจรจาต่อรองใดๆ จะต้องระบุทางเลือกและขั้นตอนเหล่านั้นในเกมอย่างชัดเจน และข้อตกลงเหล่านั้นจะไม่มีผลบังคับใช้นอกเหนือจากตามกระบวนการที่ระบุอย่างชัดเจนในเกม[7]:4[9]
เมนูนำทาง
ทฤษฎีเกม ทฤษฎีเกมแบบร่วมมือและแบบไม่ร่วมมือใกล้เคียง
ทฤษฎีเกม ทฤษฎีเมเชอร์แหล่งที่มา
WikiPedia: ทฤษฎีเกม http://faculty.econ.ucdavis.edu/faculty/bonanno/GT... //doi.org/10.1007%2FBF01448847 //doi.org/10.1007%2Fs004070100041 //doi.org/10.1016%2FB978-0-08-097086-8.71048-8 //doi.org/10.1016%2FB978-0-08-097086-8.71073-7 //doi.org/10.1016%2FS0169-5347(03)00061-2 //doi.org/10.1016%2FS1574-0005(05)80005-0 //doi.org/10.1016%2FS1574-0005(05)80015-3 //doi.org/10.1057%2F978-1-349-95121-5_942-2 //doi.org/10.1073%2Fpnas.36.1.48