ลักษณะ ของ ทุพภิกขภัย

ทุพภิกขภัยที่เกิดขึ้นในประเทศซับซะฮารามีความร้ายแรงที่สุด แต่ด้วยการหมดไปของทรัพยากรอาหาร การสูบน้ำบาดาลมาใช้เกินขนาด สงคราม ความขัดแย้งภายในและความล้มเหลวทางเศรษฐกิจ ทำให้ทุพภิกขภัยยังคงเป็นปัญหาระดับโลกที่มีผู้ประสบภัยหลายร้อยล้านคน[40] ทุพภิกขภัยเหล่านี้ทำให้เกิดทุพโภชนาการและความยากจนอย่างกว้างขวาง ทุพภิกขภัยในเอธิโอเปียในคริสต์ทศรรรษ 1980 มียอดผู้เสียชีวิตจำนวนมาก แม้ว่าทุพภิกขภัยในเอเชียในคริสต์ศตวรรษที่ 20 จะมีผู้เสียชีวิตอย่างกว้างขวางเช่นเดียวกัน ทุพภิกขภัยที่เกิดขึ้นในแอฟริกาสมัยใหม่มีลักษณะของความอดอยากและทุพโภชนาการเป็นบริเวณกว้าง โดยมีอัตราการตายสูงจำกัดเฉพาะในเด็กเล็ก

เทคโนโลยีบรรเทาทุกข์ รวมไปถึงการก่อภูมิคุ้มกัน การพัฒนาสาธารณูโภคสาธารณสุข การปันส่วนอาหารทั่วไปและการให้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแก่เด็กที่อ่อนแอ เป็นการลดอัตราการเสียชีวิตอันเป็นผลกระทบมาจากทุพภิกขภัยได้ชั่วคราว ขณะที่ทำให้ผลกระทบทางเศรษฐกิจไม่มีความเปลี่ยนแปลง และไม่ได้แก้ปัญหาสำคัญที่มีประชากรขนาดใหญ่เกินไปเมื่อเทียบกับขีดความสามารถการผลิตอาหารในภูมิภาค วิกฤตการณ์ด้านมนุษยธรรมยังอาจเกิดขึ้นจากพันธุฆาต สงครามกลางเมือง การอพยพของผู้ลี้ภัย และเหตุการณ์ความรุนแรงและการล่มสลายของรัฐ นำมาซึ่งทุพภิกขภัยในบรรดาประชากรที่ได้รับผลกระทบ

ทุพภิกขภัยยังคงเป็นภัยคุกคามเรื้อรังในแอฟริกาและเอเชียส่วนมาก ในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2005 เครือข่ายระบบเตือนภัยทุพภิกขภัยล่วงหน้าระบุว่า ไนเจอร์มีสถานะฉุกเฉิน เช่นเดียวกับชาด เอธิโอเปีย เซาท์ซูดาน โซมาเลียและซิมบับเว ในเดือนมกราคม ค.ศ. 2006 องค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติเตือนว่า ประชาชน 11 ล้านคนในโซมาเลีย เคนยา จิบูตี และเอธิโอเปียอยู่ในความเสี่ยงต่อการขาดแคลนอาหาร ด้วยเหตุจากภัยแล้งและความขัดแย้งทางทหารที่รุนแรงประกอบกัน[41] ใน ค.ศ. 2006 วิกฤตการณ์ทางมนุษยธรรมที่ร้ายแรงที่สุดในแอฟริกาเกิดขึ้นในแคว้นดาร์ฟูร์ของซูดาน

บางคนเชื่อว่าการปฏิวัติสีเขียวเป็นคำตอบสำหรับทุพภิกขภัยในคริสต์ทศวรรษ 1970 และ 1980 การปฏิวัติสีเขียวเริ่มต้นในคริสต์ศตวรรษที่ 20 ด้วยสายพันธุ์ลูกผสมของพืชผลที่ให้ผลผลิตสูง ระหว่าง ค.ศ. 1950 และ 1984 เมื่อการปฏิวัติสีเขียวได้เปลี่ยนแปลงเกษตรกรรมทั่วโลก ผลผลิตทางการเกษตรเพิ่มขึ้น 250%[42] บางคนวิพากษ์วิจารณ์กระบวนการดังกล่าว โดยให้เหตุผลว่า พืชให้ผลผลิตสูงนี้ต้องใช้ปุ๋ยเคมีและสารกำจัดศัตรูพืชมากขึ้น ซึ่งอาจทำลายสิ่งแวดล้อมได้ อย่างไรก็ตาม นี่เป็นทางเลือกสำหรับประเทศกำลังพัฒนาที่ประสบทุพภิกขภัย พืชให้ผลผลิตสูงนี้ทำให้เป็นไปได้ที่จะเลี้ยงคนได้เพิ่มขึ้น แต่มีตัวบ่งชี้หลายตัวที่ชี้ว่าผลผลิตอาหารภูมิภาคได้ถึงจุดสูงสุดแล้วในหลายส่วนของโลก เพราะยุทธศาสตร์บางอย่างที่เกี่ยวข้องกับเกษตรกรรมแบบประณีต อย่างเช่น การสูบน้ำบาดาลขึ้นมาใช้เกินและการใช้สารกำจัดศัตรูพืชและสารเคมีการเกษตรอื่น ๆ มากเกิน

หมายเหตุว่า ทุพภิกขภัยสมัยใหม่บางครั้งเกิดขึ้นจากนโยบายทางเศรษฐกิจที่ผิดพลาด การออกแบบทางการเมืองเพื่อเพิ่มความยากจนหรือลดความสำคัญของประชากรบางกลุ่มโดยเฉพาะ หรือสงคราม นักเศรษฐศาสตร์การเมืองได้หาข้อเท็จจริงในสภาพการเมืองที่มีการป้องกันทุพภิกขภัย

ผลกระทบ

ชาย หญิงและเด็ก ซึ่งทั้งหมดเสียชีวิตจากการขาดแคลนอาหาร รัสเซีย ค.ศ. 1921

ผลกระทบด้านลักษณะประชากรของทุพภิกขภัยนั้นรุนแรงมาก การเสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นเด็กและผู้สูงอายุ ข้อเท็จจริงทางลักษณะประชากรที่สอดคล้องกัน คือ ในทุพภิกขภัยทุกครั้งที่มีการบันทึก อัตราการเสียชีวิตของชายจะสูงกว่าของหญิง เหตุผลสำหรับข้อเท็จจริงดังกล่าวอาจรวมถึงความเข้มแข็งของหญิงที่มากกว่าภายใต้ความกดดันของทุพโภชนาการ และอาจเป็นธรรมชาติของหญิงที่มีไขมันร่างกายคิดเป็นเปอร์เซ็นต์สูงกว่าชาย ทุพภิกขภัยยังทำให้อัตราการเกิดลดต่ำลงด้วย ดังนั้น ทุพภิกขภัยจึงเหลือไว้แต่ประชากรวัยเจริญพันธุ์ หรือก็คือ หญิงผู้ใหญ่ ได้รับผลกระทบน้อยกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับประชากรกลุ่มอื่น และช่วงหลังทุพภิกขภัยมักมีลักษณะอัตราการเกิดเพิ่มกลับขึ้นมาอีก ทุพภิกขภัยรุนแรงส่วนมากน้อยครั้งที่ลดอัตราการเกิดของประชากรเกินกว่าไม่กี่ปี อัตราการเสียชีวิตที่สูงถูกชดเชยด้วยประชากรที่เพิ่มขึ้นในเวลาไม่กี่ปี หากแต่ผลกระทบด้านลักษณะประชากรระยะยาวที่ใหญ่กว่า คือ การอพยพ อาทิ ไอร์แลนด์มีประชากรลดลงอย่างสำคัญหลังทุพภิกขภัยในคริสต์ทศวรรษ 1840 เพราะมีการอพยพออกนอกประเทศเป็นจำนวนมาก

ระดับความไม่มั่นคงทางอาหาร

ในสมัยใหม่ รัฐบาลท้องถิ่นและการเมือง ตลอดจนองค์การพัฒนาเอกชน (NGO) ซึ่งให้ความช่วยเหลือทุพภิกขภัยมีทรัพยากรจำกัดที่จะส่งไปให้แก่สถานการณ์ความไม่มั่นคงทางอาหารหลายแห่งที่เกิดขึ้นพร้อมกัน วิธีทั้งหลายในการจัดประเภทการเปลี่ยนแปลงความมั่นคงทางอาหารจึงได้ถูกใช้เพื่อจัดสรรความช่วยเหลือด้านอาหารให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด หนึ่งในความพยายามแรกสุดคือ รหัสทุพภิกขภัยอินเดีย ที่คิดค้นขึ้นโดยอังกฤษในคริสต์ทศวรรษ 1880 รหัสแบ่งระดับความไม่มั่นคงทางอาหารออกเป็นสามระดับ ได้แก่ ใกล้ขาดแคลน, ขาดแคลนและทุพภิกขภัย และมีอิทธิพลอย่างสูงในการสร้างระบบเตือนภัยหรือวัดทุพภิกขภัยในเวลาต่อมา ระบบเตือนภัยล่วงหน้าถูกพัฒนาขึ้นเพื่อจับตาภูมิภาคที่ชาวเทอร์คานา (Turkana) อยู่อาศัยทางเหนือของเคนยามีสามระดับเช่นกัน แต่เชื่อมโยงแต่ละระดับเข้ากับการตอบสนองก่อนวางแผนเพื่อบรรเทาวิกฤตการณ์และป้องกันมิให้เลวร้ายลง

ประสบการณ์ขององค์กรบรรเทาทุพภิกขภัยทั่วโลกในคริสต์ทศวรรษ 1980 และ 1990 ทำให้มีการพัฒนาสำคัญอย่างน้อยสองประการ คือ "แนวทางการดำรงชีพ" (livelihoods approach) และการเพิ่มตัวบ่งชี้ด้านโภชนาการเพื่อพิจารณาความรุนแรงของวิกฤตการณ์ ปัจเจกและกลุ่มในสถานการณ์ตึงเครียดด้านอาหารรจพยายามรับมือปัญหาโดยการปันส่วนการบริโภค หาทางเลือกเพื่อเพิ่มรายได้เสริม เป็นต้น ก่อนจะดำเนินมาตรการสิ้นหวัง เช่น ขายพื้นที่ทำการเกษตร และเมื่อหนทางพึ่งพาตนเองทั้งหลายหมดไปแล้ว ประชากรที่ได้รับผลกระทบจะเริ่มต้นอพยพเพื่อมองหาอาหารหรือไม่ก็ตกเป็นเหยื่อของการขาดแคลนอาหารหมู่ทันที ทุพภิกขภัยอาจถูกมองบางส่วนว่าเป็นปรากฏการณ์ทางสังคม ซึ่งเกี่ยวข้องกับตลาด ราคาอาหารและโครงสร้างสนับสนุนสังคม บทเรียนที่สองที่ถูกร่างขึ้นคือ การเพิ่มการประเมินโภชนาการอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะเด็ก เพื่อให้วัดความรุนแรงของทุพภิกขภัยในเชิงปริมาณ

นับตั้งแต่ ค.ศ. 2004 องค์กรบรรเทาทุพภิกขภัยที่สำคัญที่สุดจำนวนมาก อย่างเช่น โครงการอาหารโลกและองค์กรเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ใช้มาตรวัดห้าระดับซึ่งวัดความรุนแรงและขนาด ระดับความรุนแรงใช้ทั้งแนวทางการดำรงชีพ และการวัดอัตราการเสียชีวิตและทุพโภชนาการเด็กเพื่อแบ่งประเภทสถานการณ์เป็น มั่นคงทางอาหาร, ไม่มั่นคงทางอาหาร, วิกฤตการณ์อาหาร, ทุพภิกขภัย, ทุพภิกขภัยรุนแรง และทุพภิกขภัยยิ่งยวด จำนวนผู้เสียชีวิตกำหนดการเรียกขานขนาด โดยที่มีผู้เสียชีวิตต่ำกว่า 1,000 คน เรียกว่า "ทุพภิกขภัยเล็กน้อย" และ "ทุพภิกขภัยขั้นหายนะ" มีผู้เสียชีวิตเกินกว่า 1,000,000 คน

ใกล้เคียง

ทุพภิกขภัย ทุพภิกขภัยครั้งใหญ่ในไอร์แลนด์ ทุพภิกขภัยในจะงอยแอฟริกา พ.ศ. 2554 ทุพภิกขภัยครั้งใหญ่ ค.ศ. 1315–1317 ทุพภิกขภัยในประเทศเอธิโอเปีย พ.ศ. 2526–2528 ทุพภิกขภัยในเกาหลีเหนือ ทุพภิกขภัยในประเทศรัสเซีย ค.ศ. 1921–1922 ทุพภิกขภัยในไอร์แลนด์

แหล่งที่มา

WikiPedia: ทุพภิกขภัย http://english.peopledaily.com.cn/90001/90781/9087... http://www.amazon.com/dp/3838306724 http://www.atimes.com/atimes/South_Asia/HG21Df01.h... http://maximumred.blogspot.com/2005_01_01_maximumr... http://www.csmonitor.com/2007/0724/p01s01-wogi.htm... http://www.csmonitor.com/2008/0118/p08s01-comv.htm... http://www.csmonitor.com/2008/0506/p01s06-woaf.htm... http://www.csmonitor.com/2008/0604/p01s02-woaf.htm... http://www.csmonitor.com/2008/0618/p07s01-woaf.htm... http://www.historynet.com/magazines/military_histo...