พฤติกรรม ของ นกกาเหว่า

ลูกนกกาเหว่าพันธุ์ต้นแบบตัวเมีย ร้องขออาหารจากอีแกซึ่งเป็นผู้เลี้ยงตัวเมียที่เมืองจัณฑีครห์ ประเทศอินเดีย

นกกาเหว่าเป็นปรสิตที่วางไข่ฟองหนึ่งให้นกพันธุ์ต่าง ๆ เลี้ยง รวมทั้งอีกา[21] และอีแกในประเทศศรีลังกา นกก่อน ค.ศ. 1880 วางไข่ให้แต่อีกาเท่านั้นเลี้ยง แต่ภายหลังเปลี่ยนไปไข่ให้อีแกเลี้ยงด้วย[22] งานศึกษาในอินเดียปี ค.ศ. 1976 พบว่า รังของอีแก 5% ถูกลอบวางไข่ และรังของอีกา 0.5% ถูกลอบวางไข่[23]

ส่วนงานศึกษาในปี ค.ศ. 2011 ในประเทศบังกลาเทศพบว่า นกลอบวางไข่ในรังของนกอีเสือหัวดำ (Lanius schach) ทั้งหมด 35.7%, นกเอี้ยงสาริกา (Acridotheres tristis) 31.2%, และอีแก (Corvus splendens) 10.8%[24] แม่นกจะชอบวางไข่ในรังที่ไม่สูงนักและใกล้กับต้นไม้มีผล[25] ส่วนประเทศไทยภาคใต้และแหลมมลายู นกได้เปลี่ยนนกเลี้ยง (นกที่ถูกเบียน) จากกาไปเป็นนกเอี้ยง (สกุล Acridotheres) เพราะนกเอี้ยงได้กลายเป็นนกที่สามัญกว่าในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19[12] ส่วนในเอเชียใต้บางครั้งก็พบไข่ในรังของนกแซงแซวหางปลา[26] นกสาลิกาปากดำ[27] และอาจจะนกขมิ้นชนิด Oriolus larvatus [black-headed oriole])[28][29]

นกกาเหว่าตัวผู้อาจจะล่อความสนใจของนกที่ถูกเบียน (host) เพื่อตัวเมียจะได้โอกาสลอบวางไข่[30][31] แต่โดยมากตัวเมียจะแอบไปวางไข่ตัวเดียว[12] นกจะไม่วางไข่ในรังเปล่า งานศึกษาในประเทศปากีสถานในปี ค.ศ. 1966 พบว่า นกจะวางไข่โดยเฉลี่ยวันครึ่งหลังจากนกที่ถูกเบียนวางไข่ใบแรก[32] ปกติจะวางไข่เพียงแค่ใบเดียวหรือสองใบในรัง ๆ หนึ่ง แต่อาจจะวางมากถึง 7-11 ใบ[33][34][35] แม่นกอาจจะเอาไข่ของนกที่ถูกเบียนออกใบหนึ่งก่อนจะวางไข่

ลูกนกกาเหว่าจะออกจากไข่ภายใน 12-14 วันประมาณ 3 วันก่อนลูกนกที่ถูกเบียน[36] ลูกนกอาจจะไม่ดันไข่นกที่ถูกเบียนออกจากรัง และจะร้องคล้าย ๆ กาในตอนแรก ๆ และจะเริ่มหัดบินภายใน 20-28 วัน[12]

ลูกนกไม่เหมือนกับนกคัคคูประเภทอื่น ๆ ที่พยายามฆ่าลูกนกที่ถูกเบียนซึ่งเป็นลักษณะคล้ายกับของนกคัคคูสปีชีส์ Scythrops novaehollandiae (channel-billed cuckoo) ซึ่งก็เป็นนกที่กินผลไม้โดยมากเมื่อโตแล้วเหมือนกัน[37] มีทฤษฎีว่า นกกาเหว่าจะเหมือนนกปรสิตอื่น ๆ บางประเภทที่ไม่กำจัดลูกนกที่ถูกเบียน เพราะมีข้อเสียมากกว่าข้อดีเช่น นกปรสิตตัวเล็กอาจจะไม่สามารถกำจัดไข่นกหรือลูกนกที่ถูกเบียน จากรังที่ลึก เพราะเสี่ยงจากการอดตายหรือตกออกจากรังเองส่วนทฤษฎีอีกอย่างหนึ่งว่า ลูกนกที่ถูกเบียนอาจจะทำประโยชน์ให้นกปรสิต ไม่ค่อยมีคนสนับสนุน[38]

แม่นกอาจจะเลี้ยงลูกนกในรังของนกที่ถูกเบียน[39][40] ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่พบในนกปรสิตชนิดอื่น ๆ ด้วยแต่ว่าพ่อนกไม่มีส่วนในการเลี้ยงลูกนก[12][41][42]

นกเป็นสัตว์กินทั้งพืชและสัตว์ รวมทั้งแมลงต่าง ๆ ดักแด้ผีเสื้อ ไข่ และสัตว์มีกระดูกสันหลังเล็ก ๆแต่ว่า นกที่โตแล้วมักจะกินแต่ผลไม้และบางครั้งจะป้องกันต้นไม้มีผลที่ตนหาอาหาร โดยไล่สัตว์กินผลอื่น ๆ ไป[43] นกเป็นพาหะเมล็ดไม้จันทน์ (Santalum album) ที่สำคัญในประเทศอินเดียมักจะสำรอกเมล็ดใหญ่ ๆ ออกใกล้ ๆ ต้น แต่จะนำเมล็ดเล็ก ๆ ไปในที่ไกล ๆ[44] นกสามารถอ้าปากได้กว้าง ดังนั้นจึงสามารถกลืนผลขนาดใหญ่แม้แต่ผลแข็งของปาลม์สกุล ชกและค้อ[6] บางครั้งจะขโมยไข่ของนกเล็ก ๆ ด้วย[45][46]

นกสามารถกินผลรำเพยซึ่งเป็นพิษต่อสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม[47][48]

มีปรสิตของนกที่รู้จักหลายอย่างรวมทั้งโพรโทซัวคล้ายของโรคมาลาเรีย แมลงเล็ก ๆ (ประเภทเหา เล็น ไร โลน) และหนอนตัวกลม[49][50][51]

แหล่งที่มา

WikiPedia: นกกาเหว่า http://www.baanmaha.com/community/%E0%B8%99%E0%B8%... http://www.hindu.com/2007/04/21/stories/2007042103... http://ibc.lynxeds.com/species/common-koel-eudynam... http://www.oiseaux-birds.com/card-asian-koel.html http://besgroup.talfrynature.com/2008/12/15/does-a... http://www.zoologie.upol.cz/osoby/Grim/Grim_Ornith... http://dsal.uchicago.edu/cgi-bin/philologic/getobj... http://sora.unm.edu/sites/default/files/journals/a... http://sora.unm.edu/sites/default/files/journals/a... http://sora.unm.edu/sites/default/files/journals/c...