ตั้งใจลด ของ น้ำหนักลด

การตั้งใจลดน้ำหนักอาจเพื่อปรับปรุงความฟิตร่างกายหรือสุขภาพ หรือเพื่อเปลี่ยนรูปร่างสำหรับผู้ที่น้ำหนักเกินหรือเป็นโรคอ้วน การลดน้ำหนักอาจลดความเสี่ยงทางสุขภาพ[1]เพิ่มความฟิตร่างกาย[2]และชะลอการเกิดโรคเบาหวาน[1]สำหรับผู้มีข้อเข่าเสื่อม อาจลดความเจ็บปวดและทำให้คล่องแคล่วขึ้น[2]การลดน้ำหนักอาจลดความดันโลหิตสูง แต่ก็ไม่ชัดเจนว่าลดอันตรายเหตุความดันสูงหรือไม่[1][ไม่อยู่ในแหล่งอ้างอิง]

Weight loss is achieved by adopting a lifestyle in which fewer calories are consumed than are expended.น้ำหนักสามารถลดเมื่อมีพฤติกรรม/วิถีชีวิตที่บริโภคพลังงานน้อยกว่าที่ใช้แต่ละน[3]คือ น้ำหนักจะลดก็ต่อเมื่อใช้พลังงานเพื่อทำงานหรือเพื่อเมแทบอลิซึมยิ่งกว่าที่ได้จากอาหารและสารอาหารอื่น ๆซึ่งทำให้เผาพลังงานที่เก็บสำรองไว้ไม่ว่าจะจากไขมันหรือกล้ามเนื้อ แล้วทำให้น้ำหนักค่อย ๆ ลด

สำหรับนักกีฬาที่ต้องการเล่นกีฬาให้ดีขึ้น หรือต้องผ่านพิกัดน้ำหนักในกีฬา การลดน้ำหนักอีกไม่แปลกแม้จะหนักในระดับดีสุดแล้วส่วนบุคคลอื่น ๆ อาจมีแรงจูงใจเพื่อลดน้ำหนักให้ได้รูปร่างที่ตนคิดว่าดูดีกว่าอย่างไรก็ดี การมีน้ำหนักน้อยเกินสัมพันธ์กับความเสี่ยงทางสุขภาพ เช่น อ่อนแอต่อการติดเชื้อ ภาวะกระดูกพรุน กล้ามเนื้อไม่แข็งแรง ร่างกายมีปัญหาควบคุมอุณหภูมิ และแม้แต่เสี่ยงตายสูงขึ้น[4]

อาหารมีแคลอรีต่ำ (low-calorie diet) เป็นรูปแบบอาหารที่มีสารอาหารจำเป็นอย่างสมดุลเพราะมีผลเสียน้อยมาก นักโภชนาการจึงมักแนะนำอาหารพวกนี้นอกจากจะจำกัดแคลอรีที่บริโภค ก็ยังควบคุมการบริโภคสารอาหารหลัก ๆ (macronutrient) อีกด้วยในบรรดาแคลอรีที่ควรบริโภคต่อวัน 55% ควรมาจากคาร์โบไฮเดรต, 15% จากโปรตีน และ 30% จากไขมันโดยไม่ควรมีไขมันอิ่มตัวเกิน 10% ของไขมันทั้งหมด[ต้องการอ้างอิง]ยกตัวอย่างเช่น เมื่อบริโภคอาหารมีพลังงาน 1,200 แคลอรีต่อวัน ควรจะได้ 660 แคลอรีจากคาร์โบไฮเดรต 180 แคลอรีจากโปรตีน และ 360 แคลอรีจากไขมันแต่ก็มีงานศึกษาบางงานที่แสดงว่า การเพิ่มบริโภคโปรตีนสามารถช่วยระงับความหิวที่มักเกิดเพราะลดแคลอรีในอาหารเพราะเพิ่มความรู้สึกอิ่ม[5]

การจำกัดแคลอรีเช่นนี้มีประโยชน์ระยะยาวหลายอย่างเมื่อทำพร้อมกับออกกำลังกายเพิ่มขึ้น อาหารมีแคลอรีต่ำเชื่อว่ามีประสิทธิภาพที่สุดในระยะยาว ไม่เหมือนกับไดเอ็ตทำ ๆ หยุด ๆ ซึ่งอย่างดีก็ได้ผลระยะสั้น ๆ เท่านั้นการออกกำลังกายสามารถเพิ่มประสิทธิภาพของรูปแบบการทานอาหารดังนั้น วิธีการลดน้ำหนักซึ่งถูกสุขภาพที่สุดก็คือ การทานอาหารอย่างสมดุลประกอบกับการออกกำลังกายปานกลาง[ต้องการอ้างอิง]การเพิ่มน้ำหนักสัมพันธ์กับการทานไขมันมากเกิน เพิ่มทานน้ำตาล ทานคาร์โบไฮเดรตขัดสี/แปรรูปโดยทั่วไป และการดื่มแอลกอฮอล์[ต้องการอ้างอิง]

ความซึมเศร้า ความเครียด และความเบื่ออาจมีส่วนทำให้น้ำหนักเพิ่ม[6]ในกรณีเหล่านี้ บุคคลอาจควรปรึกษาแพทย์งานศึกษาปี 2010 พบว่า ผู้ไดเอ็ตที่หลับเต็มอิ่มช่วงกลางคืน ลดน้ำหนักได้เป็นสองเท่าของผู้ไดเอ็ตที่นอนไม่พอ[7][8]

แม้จะมีสมมติฐานว่า อาหารเสริมเป็นวิตามินดีอาจช่วยลดน้ำหนัก แต่ผลงานศึกษาก็ไม่สนับสนุนสมมติฐานนี้[9]คนไดเอ็ตโดยมากจะได้น้ำหนักคืนในระยะยาว[10]

ตามแนวทางแนะนำอาหารของคนอเมริกัน (Dietary Guidelines for Americans) คนที่ได้น้ำหนักถูกสุขภาพและรักษาไว้ได้ จะต้องระมัดระวังบริโภคแคลอรีตามที่ร่างกายจำเป็นเท่านั้น และเป็นคนไม่อยู่นิ่ง ๆ (physically active)[11]ตามองค์การบริการสุขภาพแห่งชาติแห่งสหราชอาณาจักร (NHS) บุคคลสามารถลดน้ำหนักได้ดีที่สุดโดยตรวจตราแคลอรีที่บริโภคแต่ละวันประกอบกับการออกกำลังกาย[3]

เทคนิค

วิธีการลดน้ำหนักที่ก้าวก่ายน้อยที่สุด และจึงแนะนำบ่อยที่สุด ก็คือการเปลี่ยนพฤติกรรมการทานอาหารและเพิ่มออกกำลัง ปกติโดยการออกกำลังกายองค์การอนามัยโลกแนะนำให้ลดทานอาหารแปรรูปที่มีไขมันอิ่มตัว น้ำตาล และเกลือสูง[12]ลดแคลอรีที่ได้จากอาหาร และเพิ่มออกกำลัง[13]

ยังแนะนำให้ทานใยอาหารเพิ่มขึ้นด้วยเพื่อให้ถ่ายได้ดีวิธีลดน้ำหนักอื่น ๆ รวมทั้งการใช้ยาหรืออาหารเสริมที่ลดความอยากอาหาร ระงับการดูดซึมอาหาร หรือลดปริมาตรกระเพาะอาหารการผ่าตัดลดความอ้วน (Bariatric surgery) อาจเป็นทางเลือกสำหรับโรคอ้วนรุนแรงการผ่าตัดที่สามัญก็คือ gastric bypass (การผ่าเลี่ยงกระเพาะอาหารเป็นบางส่วน) และ gastric banding (การผูกกระเพาะอาหาร)[14]ทั้งสองอาจมีประสิทธิผลลดการนำพลังงานเข้าร่างกายเพราะลดขนาดกระเพาะ แต่ก็มีความเสี่ยงอย่างจำเพาะ ๆ เหมือนกับกาผ่าตัดอื่น ๆ[15]ดังนั้น จึงควรปรึกษาแพทย์ก่อน

อาหารเสริมถึงแม้จะใช้อย่างกว้างขวาง แต่ก็พิจารณาว่าไม่ถูกสุขภาพเมื่อลดน้ำหนัก[16]มีวางตลาดหลายอย่าง แต่น้อยอย่างมากมีประสิทธิผลระยะยาว[17]

มีวิธีการสะกดจิต (virtual gastric band) ที่ทำให้รู้สึกเหมือนว่า กระเพาะอาหารเล็กกว่าเป็นจริงและดังนั้น จึงช่วยลดปริมาณการทานอาหารแล้วให้ลดน้ำหนักได้วิธีนี้อาจเสริมด้วยการรักษาความวิตกกังวลทางจิตวิทยาและด้วยการให้ฟังบันทึกเสียงเมื่อนอนหลับ (hypnopedia)มีงานวิจัยที่ตรวจสอบการสะกดจิตเพื่อแก้ปัญหาน้ำหนักเกินเป็นการรักษาทางเลือก[18][19][20][21]งานศึกษาปี 1996 พบว่า การลดน้ำหนักด้วยการบำบัดทางความคิดและพฤติกรรม (CBT) จะมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นถ้าเสริมด้วยการสะกดจิต[19]การรักษาด้วยการยอมรับและการให้สัญญา (ACT) ซึ่งใช้สติเพื่อลดน้ำหนักก็พบในปี 2010 ว่ามีประโยชน์ด้วย[22]

การลดน้ำหนักอย่างถาวร

เพื่อให้น้ำหนักลดอย่างถาวร การเปลี่ยนอาหารและพฤติกรรมก็ต้องถาวรด้วยการไดเอ็ตในระยะสั้น ๆ ไม่ปรากฏว่า ลดน้ำหนักได้หรือทำให้สุขภาพดีขึ้นในระยะยาว และอาจมีโทษด้วย[23]

อุตสาหกรรมการลดน้ำหนักในประเทศตะวันตก

ในสหรัฐ มีผลิตภัณฑ์ที่วางตลาดเป็นจำนวนมากซึ่งอ้างว่าช่วยให้ลดน้ำหนักได้ง่ายขึ้น เร็วขึ้น มีค่าใช้จ่ายน้อย ไว้วางใจได้ และเป็นทุกข์น้อยกว่ารวมทั้งหนังสือ ดีวีดี ซีดี ครีม น้ำมัน ยา แหวน ตุ้มหู เครื่องพันกาย เข็มขัด วัสดุอื่น ๆ ศูนย์ฟิตเหนส คลินิก โค้ชส่วนตัว กลุ่มสนับสนุนลดน้ำหนัก ผลิตภัณฑ์อาหารและอาหารเสริม[24]ในปี 2008 มีการใช้จ่าย 33,000-55,000 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี (ประมาณ 1.1-1.8 ล้านล้านบาท) สำหรับผลิตภัณฑ์และบริการลดน้ำหนักโดยรวมวิธีการทางแพทย์และยาด้วย ศูนย์ลดน้ำหนักได้ส่วนแบ่งระหว่าง 6-12%ผู้บริโภคซื้ออาหารเสริมเพื่อช่วยลดน้ำหนักเกินกว่า 1,600 ล้านเหรียญต่อปี (ประมาณ 52,789 ล้านบาท)ความพยายามเพื่อไดเอ็ตของคนอเมริกัน 70% จะทำเอง[25][26]

ในยุโรปตะวันตก การขายผลิตภัณฑ์ลดน้ำหนักโดยไม่รวมยาที่แพทย์ต้องออกใบสั่ง เกินกว่า 1,250 ล้านยูโรต่อปี (ประมาณ 59,767 ล้านบาท) ในปี 2009[26]

แหล่งที่มา

WikiPedia: น้ำหนักลด http://www.diseasesdatabase.com/ddb28440.htm http://www.icd9data.com/getICD9Code.ashx?icd9=783.... http://www.ijpsy.com/volumen10/num1/256.html http://journals.lww.com/nutritiontodayonline/Abstr... http://www.webmd.com/diet/guide/high-protein-diet-... //citeseerx.ist.psu.edu/viewdoc/summary?doi=10.1.1... http://cat.inist.fr/?aModele=afficheN&cpsidt=31430... http://www.cfsan.fda.gov/~dms/wgtloss.html http://health.gov/dietaryguidelines/2015/guideline... http://win.niddk.nih.gov/publications/index.htm