อีฮัด บารักกระทรวงกลาโหมเบ็นนี่ แกนตซ์หัวหน้าของ
กองกำลังป้องกันอิสราเอลอะมีร อีเชลผู้บังคับบัญชากองทัพอากาศโยรัม โคเฮนผู้นำแห่ง
สำนักงานความมั่นคงแห่งชาติประเทศอิสราเอล (ชินเบต)
โมฮาเหม็ด เดอีฟ(ผู้บัญชาการทหารของกลุ่ม
Izz ad-Din al-Qassam Brigades)
อาเหม็ด ญาบารี(รองผู้บัญชาการทหารของกลุ่ม
Izz ad-Din al-Qassam Brigades)
รอมาฎอน ชัลลาฮ์(เลขาธิการของกลุ่ม
ญิฮาดอิสลามปาเลสไตน์)
อบูญะมาล
[10](โฆษกของกลุ่ม
กองพลอาบู อาลี มุสตาฟา)
ชาวอิสราเอล:ทหารถูกฆ่า 120 นาย
[16]ทหารถูกฆ่า 101 นาย (รายงานจาก
ITIC)
[17]ทหารถูกฆ่า 62 นาย (รายงานจาก
B'Tselem)
[18]ชาวอิสราเอลที่สูญหาย:ถูกฆ่า 4 คน, บาดเจ็บ 219 คน
[21]ปฏิบัติการเสาค้ำเมฆา (
ฮีบรู: עַמּוּד עָנָן) เป็นปฏิบัติการของกองกำลังป้องกันอิสราเอลใน
ฉนวนกาซาระหว่างวันที่ 14 ถึง 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 เริ่มด้วยการสังหารอาเหม็ด จาบารี หัวหน้าฝ่ายทหารของ
ฮามาสในกาซา
[22][23][24] ความมุ่งหมายที่แถลงไว้ของปฏิบัติการ คือ เพื่อหยุดการโจมตีด้วยจรวดแบบไม่เลือกซึ่งยิงมาจากกาซา
[25][26] และเพื่อรบกวนขีดความสามารถขององค์กรที่พร้อมต่อสู้
[27]รัฐบาล
อิสราเอลแถลงว่า ปฏิบัติการดังกล่าวเริ่มต้นขึ้นเพื่อสนองต่อการยิงจรวดจากกาซา และการโจมตีต่อทหารอิสราเอลตรงชายแดนอิสราเอล-กาซา
[28][29][30][31][32] ทางการฮามาส ซึ่งปกครองฉนวนกาซา ปฏิเสธข้อว่าฮามาสเป็นผู้รุกราน และแถลงว่า พวกเขาไม่ต้องการเห็นความรุนแรงบานปลาย
[33] รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศของฮามาส กาซี ฮาเหม็ด แถลงว่า "เรายังพูดว่า เราเป็นเหยื่อของการยึดครองและเราตกเป็นเป้า" แต่ยังแย้งว่า ฮามาสมีสิทธิคุ้มครองประชาชนของตน ฉะนั้นจึงจะสนองต่อการโจมตีของอิสราเอล โดยแถลงเพิ่มเติมว่า "หากกาซาไม่ปลอดภัย เมืองของคุณก็จะไม่ปลอดภัยเช่นกัน"
[33]ในห้วงของปฏิบัติการ กองกำลังป้องกันอิสราเอลโจมตีกว่า 1,500 จุดในฉนวนกาซา
[34] รวมทั้งจุดปล่อยจรวดและจุดเก็บซ่อน ที่บังคับการของฮามาส อาคารกระทรวงมหาดไทยและอาคารราชการอื่น ๆ ที่ฮามาสดำเนินงาน เช่นเดียวกับบ้านและกลุ่มอาคารอพาร์ตเมนต์หลายสิบหลัง
[35] มีผู้เสียชีวิตชาวปาเลสไตน์ระหว่าง 158 ถึง 177 คนในปฏิบัติการดังกล่าว ระหว่าง 55 ถึง 120 คนในจำนวนนี้เป็นผู้ร่วมรบ มีชาวปาเลสไตน์ได้รับบาดเจ็บอีก 1,200-1,300 คน และมีครอบครัวชาวปาเลสไตน์ระหว่าง 350 ถึง 700 ครอบครัว พลัดถิ่น
[36][37][38][39][16] ไม่ใช่ว่าความสูญเสียชาวปาเลสไตน์ทั้งหมดจำเป็นต้องเกิดจากน้ำมือของอิสราเอล บางคนอาจเสียชีวิตเพราะจรวดปาเลสไตน์ยิงพลาดในฉนวนกาซา
[40] ยิ่งไปกว่านั้น ชาวปาเลสไตน์ 8 คนถูกประหารชีวิตอย่างรวบรัดโดยสมาชิกของฝ่ายทหารของฮามาส เพราะถูกกล่าวหาว่าให้ความร่วมมือกับอิสราเอล
[41][42]กองพลน้อยอัล-กอสซัม (al-Qassam Brigades) และญิฮาดอิสลามปาเลสไตน์ยกระดับการยิงจรวดถล่มนครและเมืองต่าง ๆ ของอิสราเอลหลังการสังหารอาเหม็ด จาบารี กลุ่มพร้อมรบปาเลสไตน์ยิงจรวดกว่า 1,456 ลูกใส่อิสราเอล โดยมีอีก 142 ลูกตกในฉนวนกาซาเอง
[43] ในครั้งนี้
เทลอาวีฟถูกถล่มเป็นครั้งแรกนับแต่
สงครามอ่าวเปอร์เซียเมื่อ พ.ศ. 2534 และมุ่งเป้าไปยังกรุง
เยรูซาเล็ม[44] จรวดดังกล่าวคร่าชีวิตพลเรือนชาวอิสราเอล 4 คน ทหาร 2 นาย และพลเรือนชาวปาเลสไตน์จำนวนหนึ่ง
[22][42][45] จนถึงวันที่ 19 พฤศจิกายน ชาวอิสราเอลกว่า 252 คนได้รับบาดเจ็บทางกายในการโจมตีด้วยจรวด
[46][47] ระบบป้องกันขีปนาวุธ
ไอเอิร์นโดม (Iron Dome) ของอิสราเอลสกัดกั้นจรวด 421 ลูก อีก 142 ลูกตกในฉนวนกาซาเอง 875 ลูกตกในพื้นที่เปิด และ 58 ลูกโดนพื้นที่เมืองในอิสราเอล
[43][48][49] เหตุระเบิดโจมตีต่อรถโดยสารประจำทางเทลอาวีฟซึ่งเป็นเหตุให้มีพลเรือนได้รับบาดเจ็บกว่า 20 คน ได้รับ "คำอวยพร" จากฮามาส
[50]สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร แคนาดา เยอรมนีและประเทศตะวันตกอื่น ๆ แสดงการสนับสนุนสิทธิของอิสราเอลในการป้องกันตนเอง และ/หรือ ประณามการโจมตีด้วยจรวดถล่มอิสราเอลของปาเลสไตน์
[51][52][53][54][55][56][57][58][59][60][61] อิหร่าน อียิปต์ ตุรกี ประเทศอาหรับและมุสลิมอีกหลายประเทศประณามปฏิบัติการของอิสราเอล
[62][63][64][65] คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติจัดสมัยประชุมฉุกเฉินต่อสถานการณ์ แต่ไม่บรรลุคำวินิจฉัย
[66] มีการประกาศการหยุดยิงในวันที่ 21 พฤศจิกายน หลังการเจรจาหลายวันระหว่างฮามาสกับอิสราเอล โดยมีอียิปต์เป็นคนกลาง
[67][68][69] ทั้งสองฝ่ายต่างอ้างชัยชนะ อิสราเอลแถลงว่า ตนบรรลุความมุ่งหมายในการตัดความสามารถในการปล่อยจรวดของฮามาส
[70] ขณะที่ฮามาสแถลงว่า "ทางเลือกในการบุกครองกาซาหลังชัยชนะนี้หมดไป และจะไม่กลับมาอีก" และขอบคุณอิหร่านกับอียิปต์สำหรับความช่วยเหลือ
[71][72]