ประวัติศาสตร์ของประเทศไอซ์แลนด์ ตามหลักฐานทางโบราณคดีก่อนจะมีการจดบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษร ชนกลุ่มแรกที่เข้ามาตั้งรกรากในเกาะไอซ์แลนด์ เชื่อกันว่าเป็นนักบวช
ชาวไอริช ซึ่งเข้ามาตั้งถิ่นฐานในไอซ์แลนด์ในคริสต์ศตวรรษที่ 8
[1] และย้ายออกไปก่อน
ชาวไวกิงเข้ามา
[2] ซึ่งตามเอกสารทางโบราณคดี พวกไวกิงค้นพบไอซ์แลนด์ในปี ค.ศ.872 และเริ่มเข้ามาตั้งถิ่นฐานในไอซ์แลนด์ในปี ค.ศ.874
[3] จาก
หมู่เกาะอังกฤษและ
ประเทศนอร์เวย์ พร้อมกับทาสที่จับตัวได้มาจากการรุกรานทั่วยุโรป การตั้งถิ่นฐานในไอซ์แลนด์ถูกบันทึกใน หนังสือการตั้งถิ่นฐาน (Landnámabók) จากหนังสือนี้ ระบุว่า Ingólfur Arnarson เป็นผู้ตั้งถิ่นฐานคนแรก และตามมาด้วยชาวไวกิงอีกจำนวนหนึ่งและทาส
ชาวเคลต์ในปี ค.ศ.930 ไอซ์แลนด์ได้เขียนรัฐธรรมนูญ และก่อตั้ง
อัลทิงกิ (Alþingi, Althing) ซึ่งเป็นรัฐสภาขึ้น ใช้อำนาจนิติบัญญัติและตุลาการ เป็นรัฐสภาที่เก่าแก่ที่สุดในโลก เป็นศูนย์กลางของรัฐอิสระไอซ์แลนด์ (Commonwealth of Iceland)ในช่วงสิ้นคริสต์ศตวรรษที่ 10 มีการนำศาสนาคริสต์เข้ามาในไอซ์แลนด์ผ่านกษัตริย์นอร์เวย์ Olaf Tryggvason ไอซ์แลนด์เกิดสงครามกลางเมืองขึ้นใน ค.ศ.1220 - 1262 เรียกว่า ยุค Sturlungs ส่งผลทำให้ไอซ์แลนด์ถูกผนวกไปอยู่ใต้การปกครองของกษัตริย์
นอร์เวย์ในปี ค.ศ.1262
[4] และต่อมาภายใต้การปกครองของษัตริย์
เดนมาร์ก หลังจากที่นอร์เวย์ สวีเดน และเดนมาร์กรวมกัน ภายใต้
สหภาพคาลมาร์ แต่หลังจากที่
ราชอาณาจักรเดนมาร์ก-นอร์เวย์ (อดีตสหภาพคาลมาร์) ล่มสลายในปี ค.ศ.1523 เกาะไอซ์แลนด์ได้ไปอยู่ภายใต้อธิปไตยของเดนมาร์กกษัตริย์เดนมาร์กประกาศคริสต์ศาสนา
นิกายลูเทอรันเป็นศาสนาของอาณาจักรประมาณปี ค.ศ.1550 ส่งผลมาถึงการยึดทรัพย์ของโบสถ์
โรมันคาทอลิกในเกาะไอซ์แลนด์ และบิชอปคาทอลิกคนสุดท้ายถูกประหารโดยการตัดหัว เดนมาร์กควบคุมการค้าในไอซ์แลนด์ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 17 และ 18 โดยระหว่าง ค.ศ.1707 - 1709
โรคฝีดาษระบาด ทำให้ประชากรลดลงจาก 50,000 เหลือเพียงราว 35,000 คน และในปี ค.ศ.1783 - 1784 เกิดเหตุการณ์ที่สร้างความเสียหายอย่างมากจากเหตุภูเขาไฟ Laki ระเบิด และ ภาวะขาดแคลนอาหาร
[5]ไอซ์แลนด์ได้รัฐธรรมนูญใหม่ในปี ค.ศ.1874 ปีที่เฉลิมฉลองหนึ่งสหัสวรรษการตั้งถิ่นฐานในไอซ์แลนด์ รัฐธรรมนูญใหม่นี้ให้ไอซ์แลนด์มีอำนาจในกิจการภายใน มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญอีกครั้งในปี ค.ศ.1904 ซึ่งให้อำนาจปกครองตัวเองกับไอซ์แลนด์ ไอซ์แลนด์ได้เป็นรัฐเอกราชในปี ค.ศ.1918 โดยมี
พระมหากษัตริย์แห่งเดนมาร์กเป็นประมุข โดยไอซ์แลนด์ยังให้เดนมาร์กจัดการกิจการต่างประเทศและการป้องกันประเทศให้ หลังจาก
เยอรมนียึดครองเดนมาร์กในปี ค.ศ.1940 ในช่วง
สงครามโลกครั้งที่สอง อัลทิงกิจึงตัดสินใจบริหารการต่างประเทศเองและประกาศนโยบายเป็นกลาง แต่ก็ถูก
ฝ่ายสัมพันธมิตรยึดครองในเวลาต่อมา เริ่มจากกองทัพ
สหราชอาณาจักร และต่อมาเป็นกองทัพ
สหรัฐอเมริกา ฝ่ายสัมพันธมิตรคงกองกำลังในไอซ์แลนด์จนกระทั่งจบสงครามโลกครังที่ 2
[6]ไอซ์แลนด์ประกาศเป็น
สาธารณรัฐ จากราชอาณาจักรเดนมาร์ก ในปี ค.ศ.1944
[7] มี
สเวน ปีเยิร์นสซอน (Sveinn Björnsson) เป็นประธาธิบดีคนแรก ไอซ์แลนด์เป็นสมาชิกรุ่นก่อตั้งขององค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจยุโรป (ปัจจุบันคือ
องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา) และ
นาโต ไอซ์แลนด์ทำข้อตกลงทางกองทัพกับ
สหรัฐอเมริกาในปี พ.ศ. 2494 โดยให้สหรัฐตั้งฐานทัพในไอซ์แลนด์ ซึ่งคงอยู่จนถึงปี พ.ศ. 2549 ไอซ์แลนด์เกิดความขัดแย้งหลายครั้งกับ
สหราชอาณาจักรในเรื่องการขยายน่านน้ำประมงของไอซ์แลนด์ในช่วงปี ค.ศ.1958, 1972 และ 1978 รู้จักกันในชื่อ
สงครามปลาคอด [8] (Þorskastríðin; Cod War) ไอซ์แลนด์เข้าร่วม
สมาคมการค้าเสรียุโรปและเป็นสมาชิกก่อตั้งของ
เขตเศรษฐกิจยุโรปในปี ค.ศ.2008 - 2011 ประเทศไอซ์แลนด์มีวิกฤษการณ์ทางเศรษฐกิจเกิดขึ้น
[9] อันเป็นผลกระทบจากวิกฤษแฮมเบอเกอร์ในสหรัฐอเมริกา โดยประเทศไอซ์แลนด์ยังคงอยู่นอก
สหภาพยุโรปเกาะไอซ์แลนด์อยู่ไกลจากแผ่นดินยุโรปมาก จึงได้รับความเสียหายจากสงครามยุโรปน้อยมาก แต่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ภายนอกอื่น ๆ เช่น กาฬโรค และ
การปฏิรูปโปรเตสแตนต์ ที่กำหนดโดยเดนมาร์ก ประวัติศาสตร์ของไอซ์แลนด์มีภัยพิบัติทางธรรมชาติเกิดขึ้นมากมายหลายครั้งเนื่องจากภูเขาไฟและแผ่นดินไหว
[10]ไอซ์แลนด์เป็นเกาะที่มีอายุน้อยในทางธรณีวิทยา เกาะเกิดขึ้นเมื่อ 20 ล้านปีก่อน จากการระเบิดของภูเขาไฟกลางมหาสมุทรแอตแลนติก แต่ยังคงขยายตัวจากการระเบิดของภูเขาไฟที่ยังสดใหม่ ตัวอย่างหินที่เก่าแก่ที่สุดที่พบในไอซ์แลนด์มีอายุ 16 ล้านปี
[11]