ยุคหลังร็อบสัน ของ ประวัติสโมสรฟุตบอลนิวคาสเซิลยูไนเต็ด

ร็อบสันถูกปลดออกจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม ค.ศ. 2004 หลังจากคุมนิวคาสเซิลมานานถึง 5 ปี โดยบอร์ดบริหารชี้แจงเหตุผลว่าเป็นเพราะมีปัญหากับผู้เล่น แกรม ซูเนสส์ถูกเลือกให้มารับช่วงต่อในอีกสองสัปดาห์ถัดมา

ถึงแม้จะเริ่มต้นได้ดี ผลงานของทีมภายใต้ซูเนสส์ก็ตกต่ำลงอย่างรวดเร็ว นิวคาสเซิลจมอยู่ในครึ่งล่างของตารางพรีเมียร์ลีกปี 2004-05 จนถึงเดือนธันวาคม ก่อนจะจบฤดูกาลที่อันดับ 14 ซึ่งเป็นผลงานที่เลวร้ายที่สุดของนิวคาสเซิลในการเล่นฟุตบอลพรีเมียร์ลีก

ในเดือนสิงหาคม ปี 2005 นิวคาสเซิลได้เซ็นสัญญาคว้าตัวไมเคิล โอเวน ดาวซัลโวทีมชาติอังกฤษจากรีล มาดริดมาร่วมทีมด้วยค่าตัวสถิติสโมสร 17 ล้านปอนด์ แต่เนื่องด้วยอาการบาดเจ็บต่อเนื่อง ทำให้โอเวนได้ลงสนามเพียง 10 เกมเท่านั้นในช่วง 6 เดือนแรกกับต้นสังกัดใหม่

ฟอร์มของนิวคาสเซิลยังคงไม่กระเตื้อง เป็นผลให้ซูเนสส์ถูกปลดในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2006 หลังพ่ายต่อแมนเชสเตอร์ซิตีไป 0-3[1] และทำให้เกล็น โรเดอร์ อดีตผู้จัดการทีมของเวสต์แฮม ยูไนเต็ดซึ่งในขณะนั้นทำงานเป็นผู้บริหารทีมเยาวชนของนิวคาสเซิลอยู่ ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้จัดการทีมชั่วคราว นอกจากนี้แอลัน เชียเรอร์ยังได้รับเลือกให้เป็นผู้ช่วยผู้จัดการทีมของโรเดอร์อีกด้วย

ในเกมแรกที่โรเดอร์คุมทีม เชียเรอร์สามารถพังประตูที่ 201 ของเขากับนิวคาสเซิลได้สำเร็จ ทำให้เขาได้รับการจารึกชื่อเป็นดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของสโมสรแทนที่แจ็คกี มิลเบิร์น เชียเรอร์ปิดฉากชีวิตการค้าแข้งด้วยการยิงประตูคู่ปรับเก่าซันเดอร์แลนด์เมื่อวันที่ 17 เมษายน ค.ศ. 2006 หยุดสถิติของเขาไว้ที่ 206 ประตู

ผลงานของโรเดอร์เหนือกว่าที่สื่อมวลชนคาดหมายกันไว้มาก โดยเขาพานิวคาสเซิลขึ้นไปถึงอันดับ 7 ทำให้ทีมได้เข้าไปเล่นในยูฟ่าอินเตอร์โตโตคัพ ก่อนที่โรเดอร์จะได้รับการต่อสัญญาแบบถาวรเป็นเวลา 2 ปี[2] ในช่วงก่อนเริ่มฤดูกาลใหม่ นิวคาสเซิลสามารถคว้าตัวปีกซ้ายชาวไอร์แลนด์ เดเมียน ดัฟฟ์ จากเชลซี มาด้วยค่าตัว 5 ล้านปอนด์ และยังได้ตัวกองหน้าไนจีเรียน โอบาเฟมี มาร์ตินส์ จากอินเตอร์ มิลาน เข้ามาสวมเสื้อหมายเลข 9 ต่อจากแอลัน เชียเรอร์

ใกล้เคียง

ประวัติศาสตร์ ประวัติศาสนาพุทธ ประวัติศาสตร์ไทย ประวัติศาสตร์โลก ประวัติศาสตร์จีน ประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น ประวัติศาสตร์อินเดีย ประวัติศาสตร์สหรัฐ ประวัติการบินไทย ประวัติศาสตร์เทคโนโลยี

แหล่งที่มา

WikiPedia: ประวัติสโมสรฟุตบอลนิวคาสเซิลยูไนเต็ด http://news.sodazaa.cc/1921.html http://www.bearber.com/forum/index.php?topic=9061.... http://activity.mthai.com/view/11/18629.activity http://www.pochnews.com/article/1305.htm http://football.sanook.com/england/10233.php http://football.sanook.com/england/16225.php http://sport.teenee.com/sport/1748.html http://sport.teenee.com/sport/6121.html http://sport.teenee.com/sport/6168.html http://sport.teenee.com/sport/9477.html