ปรากฏการณ์สไตรแซนด์ (
อังกฤษ: Streisand effect) เป็นปรากฏการณ์ที่ความพยายามในการปกปิดหรือลบข้อมูลก่อให้เกิดผลอันไม่พึงประสงค์ ทำให้ข้อมูลข่าวสารได้รับการเปิดเผยเป็นที่แพร่หลายมากขึ้น (โดยปกติการแพร่หลายดังกล่าวเกิดขึ้นบน
อินเทอร์เน็ต) คำว่า "ปรากฏการณ์สไตรแซนด์" เป็นคำสมัยใหม่ที่ใช้สะท้อนถึงความพยายามในยุคก่อนที่จะปกปิดหรือเซ็นเซอร์สิ่งต่าง ๆ แต่กลับทำให้ข้อมูลดังกล่าวเป็นที่ต้องการมากยิ่งขึ้น และทำให้เกิดความสนใจและการติดตามเรื่องราวมากกว่าปกติทั่วไปคำว่า "ปรากฏการณ์สไตรแซนด์" เป็นคำที่ตั้งชื่อตาม
บาร์บรา สไตรแซนด์ นักแสดงหญิงอเมริกัน ที่พยายามปกปิดภาพถ่ายบ้านของเธอในปี
พ.ศ. 2546 แต่กลับทำให้ภาพถ่ายดังกล่าวเป็นที่สนใจมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีกรณีอื่น ๆ อีก เช่น ในการส่งคำบอกกล่าวให้หยุดกระทำการละเมิด (cease-and-desist) เพื่อให้มีการปกปิดตัวเลขที่สงวนไว้สำหรับผู้ทรงลิขสิทธิ์ (illegal numbers) ไฟล์ หรือเว็บไซต์ ความปรากฏว่าแทนที่สิ่งที่ระบุให้ปกปิดนั้นจะได้รับการปกปิด ข้อมูลเหล่านั้นกลับก่อให้เกิดความสนใจจากสังคม และก่อให้เกิดการทำซ้ำ (mirror) บนอินเทอร์เน็ตและเครือข่ายแจกจ่ายไฟล์ (file-sharing network) อย่างกว้างขวาง หรือในบางกรณีก่อให้เกิดเพลงล้อเลียนหรือวิดีโออันเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวด้วย
[1][2]ไมค์ แมสนิก (Mike Masnick) จากเว็บบล็อก Techdirt เป็นผู้สร้างคำว่า "ปรากฏการณ์สไตรแซนด์" หลังจากที่สไตรแซนด์แพ้คดีที่ยื่นฟ้องต่อช่างภาพชื่อเคนเนท อเดลแมน (Kenneth Adelman) และเว็บไซต์ Pictopia.com ด้วยเหตุล่วงละเมิดสิทธิส่วนบุคคล คดีดังกล่าวซึ่งเรียกค่าเสียหาย 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐมีคำร้องขอให้อเดลแมนนำภาพถ่ายทางอากาศของแมนชั่นของสไตรแซนด์ออกจากคลังภาพถ่ายตามแนวชายฝั่งของ
แคลิฟอร์เนียกว่า 12,000 รูป ซึ่งสามารถเรียกดูได้ทั่วไป
[1][3][4] อเดลแมนยืนยันว่าเขาได้ถ่ายภาพทรัพย์สินริมชายหาดเพื่อแสดงให้เห็นถึง
การกัดเซาะชายฝั่ง โดยได้รับการสนับสนุนและอนุมัติโดยโครงการบันทึกภาพถ่ายชายฝั่งแคลิฟอร์เนีย (California Coastal Records Project)
[5][6] ทั้งนี้ ก่อนที่สไตรแซนด์จะฟ้องคดี ภาพที่ 3850 อันเป็นภาพที่โจทก์ฟ้องขอให้นำออกนั้นได้รับการดาวน์โหลดจากเว็บไซต์ของอเดลแมนเพียง 6 ครั้ง ซึ่งในจำนวนดังกล่าวเป็นทนายของสไตรแซนด์ 2 ครั้ง
[7] แต่หลังจากที่สไตรแซนด์แพ้คดี สาธารณชนจึงได้รับรู้เกี่ยวกับภาพนี้มากขึ้น โดยมีผู้เข้าชมเว็บไซต์ของอเดลแมนถึง 420,000 คนในเดือนถัดมา
[8]