ปลาแมนดาริน (
อังกฤษ: Mandarinfish, Mandarin dragonet, Common mandarin, Striped mandarin, Striped dragonet, Mandarin goby) เป็น
ปลาทะเลขนาดเล็ก
ชนิดหนึ่งมี
ชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Synchiropus splendidus อยู่ใน
วงศ์ปลามังกรน้อย (Callionymidae) ซึ่งเป็นปลาทะเลขนาดเล็กที่มีรูปร่างลักษณะคล้ายกับปลาใน
วงศ์ปลาบู่ (Gobiidae) แต่ไม่ได้อยู่ในวงศ์ปลาบู่ปลาแมนดาริน เหตุที่ได้ชื่อนี้ก็เพราะด้วยลำตัวของที่แลดูเรียบลื่น เต็มไปด้วยเส้นสาย
สีเขียวทาบทับกันไปมาบนพื้นลำตัว
สีส้มเป็นมัน เหมือนกับลาย
ผ้าไหมหรือ
แพรชั้นดี จนดูละม้ายคล้ายคลึงกับชุดขุนนางจีนโบราณ ขณะที่ชื่อวิทยาศาสตร์นั้นก็สอดคล้องเช่นกัน โดยคำว่า "Syn" มาจาก
ภาษากรีกโบราณหมายถึง มี และ "chiropus" มีความหมายถึง มีมือเป็นเท้า เพราะปลาชนิดนี้จะใช้ครีบท้องที่มีขนาดใหญ่คืบคลานไปมาตามท้องทะเลเพื่อหาอาหารได้แก่
สัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังขนาดเล็กต่าง ๆ ตามพื้น
ทราย มากกว่าจะ
ว่ายน้ำ และใช้ครีบหูที่ใสกระพือไปมาอยู่ตลอดเวลา ขณะที่ครีบหางใช้เสมือนหางเสือบังคับทิศทาง และ "spendidus" ที่เป็นชื่อ
ชนิดนั้น มีความหมายว่า
สีสันสดใส
สวยงามตลอดทั้งลำตัวนั้น จะมี
สีต่าง ๆ ทั้งหลายหลากสีมาก เช่น
สีฟ้า, สีเขียว, สีส้ม และ
สีเหลือง ซึ่งเป็นสีสะท้อนแสงคล้ายกับแสงหลอด
นีออน สีเหล่านี้จะปรากฏให้เห็นชัดเป็นจุดและลวดลายต่าง ๆ โค้งไปมา เป็นปลาที่พบกระจายพันธุ์ค่อนข้างกว้าง โดยพบได้ตั้งแต่ตอนใต้ของ
หมู่เกาะริวกิว ใน
ประเทศญี่ปุ่น จนถึง
ทะเลฟิลิปปิน,
ประเทศอินโดนีเซีย,
หมู่เกาะไมโครนีเซีย,
นิวแคลิโดเนีย จนถึง
ออสเตรเลีย แต่ไม่พบใน
น่านน้ำไทย พบอาศัยในกระแสน้ำไม่แรงนักตามกอง
หินและ
แนวปะการัง ออกหากินในเวลา
กลางคืน เริ่มตั้งแต่
พลบค่ำ ขณะที่
กลางวันจะ
นอนพักผ่อนมีขนาดความยาวเต็มที่ไม่เกิน 8
เซนติเมตร แต่โดยเฉลี่ยแล้วมีขนาดเล็กกว่านี้ถึงครึ่งหนึ่ง โดยสีต่าง ๆ เหล่านี้สามารถปรับให้เข้มหรืออ่อนได้ตามสภาพแวดล้อมและสถานการณ์ ในปลา
ตัวผู้สีจะเข้มขึ้นเมื่อต่อสู้กันหรืออยู่ในช่วง
ผสมพันธุ์ ปลาตัวผู้และตัวเมียมีความแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด โดย ตัวผู้จะมีครีบหลังเป็นกระโดงยาวยืดออกมา ขณะที่ตัวเมียไม่มี และตัวผู้มีส่วนหัวที่ใหญ่กว่าปลาแมนดารินมีอุปนิสัยก้าวร้าวพอสมควร โดยเฉพาะกับปลาชนิดเดียวกัน โดยเฉพาะตัวผู้จะมีอาณาเขตที่ชัดเจน หากพบผู้บุกรุกจะกางครีบต่าง ๆ และเบ่งสีเพื่อข่มขู่ อีกทั้งยังถือเป็นปลาที่มี
พิษชนิดหนึ่ง เพราะ
เมือกที่ปกคลุมลำตัวนั้นมีพิษ ใช้กันสำหรับเมื่อตกเป็นอาหารของ
สัตว์น้ำหรือปลาที่มีขนาดใหญ่กว่าพฤติกรรมเมื่อผสมพันธุ์ จะสวยงามมาก เมื่อตัวผู้เป็นฝ่ายว่ายไปรอบ ๆ ตัวเมียเพื่อเกี้ยวพาจนแลดูเหมือนกับ
การเต้นรำ ซึ่งถือว่าเป็นปลาที่ปล่อยไข่ให้ลอยไปตามกระแสน้ำ ก่อนที่ตัวผู้จะปล่อย
น้ำเชื้อเข้าไป
ผสมความที่เป็นปลาที่มีความสวยงามมาก จึงนิยมเลี้ยงกันเป็น
ปลาสวยงามที่ได้รับความนิยมกันมาอย่างยาวนาน แต่ปลาที่มีการซื้อขายกันนั้นเป็นปลาที่ถูกจับมาจากแหล่งธรรมชาติ คือ ทะเลเท่านั้น โดยชาว
ประมงในบางพื้นที่เช่น
ฟิลิปปินส์ จะใช้เครื่องมือจับที่ทำจากวัสดุง่าย ๆ เช่น
ไม้หรือ
ไผ่ ตัดให้คล้ายกับ
ปืน ซึ่งตอนปลายพันด้วย
เหล็กแหลมคล้าย
ฉมวกหรือ
หอก ใช้สำหรับเล็งปลาเป็นตัว ๆ ไปตามแนวปะการัง ซึ่งปลาตัวที่ถูกแทงจะได้รับบาด
แผลหรือหางเป็นรู แต่สำหรับปลาแมนดารินแล้วเมื่อได้รับการพักฟื้นในสถานที่เลี้ยงไม่นาน แผลดังกล่าวก็จะหายเป็นปกติภายในเวลาไม่กี่วัน ปัจจุบัน ถือเป็นปลาที่สามารถเพาะขยายพันธุ์ได้แล้วในที่เลี้ยง สำหรับใน
ประเทศไทยเพิ่งเพาะได้สำเร็จเป็นครั้งแรกเมื่อกลางปี
พ.ศ. 2552 โดย
สถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล มหาวิทยาลัยบูรพา จังหวัดชลบุรี โดยตัวผู้หนึ่งตัวสามารถผสมกับตัวเมียได้ 2-3 ตัว ปลาจะทำการจับคู่กันในเวลาพลบค่ำ และวางไข่ ถือเป็นระยะเวลาที่สั้นมาก เมื่อไข่ถูกปล่อยออกมาแล้วจะลอยขึ้นสู่ผิวน้ำ ก่อนจะนำไปอนุบาลต่อไป ซึ่งลูกปลาใช้เวลาในการฟักเป็นตัวเร็วมาก คือ ใช้เวลาไม่เกิน 14
ชั่วโมง ใน
อุณหภูมิน้ำราว 28
เซลเซียส เมื่อฟักออกเป็นตัวนั้น ลูกปลาจะใช้ส่วนหัวดันออกมาก่อนก่อนใช้หางดันกับผนังเปลือกไข่ จนกว่าจะหลุดออกมาได้สำเร็จ โดยแรกเกิดมีขนาดความยาวประมาณ 1.5
มิลลิเมตรเท่านั้น และมีขนาดของ
ถุงไข่แดงเป็นครึ่งหนึ่งของขนาดลำตัว ขณะที่อวัยวะภายในและครีบต่าง ๆ ยังพัฒนาการไม่สมบูรณ์
[1][2]