พรรคชาตินิยมเวียดนาม (
เวียดนาม: Việt Nam Quốc Dân Đảng; 越南國民黨) หรือเหวียตโกว๊ก (
เวียดนาม: Việt Quốc 越國) เป็นพรรคการเมือง
ชาตินิยมในเวียดนามที่ได้พยายามกอบกู้เอกราชเวียดนามจากฝรั่งเศสในระหว่างต้นศตวรรษที่ 20 โดยได้กำเนิดในช่วงยุค 1920 เมื่อปัญญาชนวัยหนุ่มได้เริ่มเผยแผ่หลักการปฏิวัติ ในปี ค.ศ.
1927 หลังจากที่สำนักพิมพ์ประสบความล้มเหลวเพราะการล่วงล้ำของฝรั่งเศสและการปิดกั้นความคิด พรรคชาตินิยมเวียดนามจึงได้ถูกก่อตั้งโดย
เหงียน ท้าย ฮอก โดยนำรูปแบบมาจาก
พรรคก๊กมินตั๋งของ
ประเทศจีนในยุคนั้น (รูป
อักษรจีนของทั้งสองพรรคเขียนเหมือนกัน ดังนี้ 國民黨) พรรคชาตินิยมเวียดนามได้มีชนชั้นกลางเข้าร่วมด้วยอยู่พอสมควร โดยเฉพาะคุณครูอาจารย์และปัญญาชน แต่ไม่ได้รับความสนใจจากชาวนาและกรรมการ พรรคจึงได้ก่อตั้งขึ้นอย่างลับๆตั้งแต่ปี
ค.ศ. 1928 พรรคชาตินิยมเวียดนามเริ่มเป็นที่รู้จักจากการลอบสังหารเจ้าพนักงานชาวฝรั่งเศสและผู้ช่วยชาวเวียดนาม จุดเปลี่ยนของพรรคได้เข้ามาในเดือนกุมภาพันธ์ ปี
ค.ศ. 1929 จากเหตุการณ์
การลอบสังหารบาซินซึ่งเป็นเหตุการณ์การสังหารแรงงานเกณฑ์ชาวฝรั่งเศส แม้ว่าการสมรู้ร่วมคิดกับผู้ก่อการไม่ชัดเจนนัก แต่เจ้าหน้าที่ของฝรั่งเศสกลับกล่าวหาว่าพรรคชาตินิยมเวียดนามคือผู้มีส่วนร่วม สมาชิกประมาณ 300-400 ของสมาชิก 1,500 คนถูกปราบปรามและถูกจับกุม ผู้นำหลายคนถูกจับกุม แต่ห้อกได้จัดการจนสามารถหลบหนีไปได้ปลายปี
ค.ศ. 1929 พรรคได้เริ่มอ่อนแอลงจากการแตกแยกภายในพรรคเอง ภายใต้การกดดันที่เพิ่มมากขึ้นของฝรั่งเศส ผู้นำของพรรคหลายคนได้เปลี่ยนวิธีการต่อต้านฝรั่งเศสจากการลอบสังหารเจ้าหน้าที่ฝรั่งเศสเปลี่ยนเป็นการขับไล่โดยการก่อจลาจล หลังจากที่รวบรวมอาวุธมาได้แล้ว พรรคจึงได้ทำการ
ก่อการกำเริบเอียนบ๊าย ในวันที่
10 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1930 เพื่อให้การก่อกำเริบเป็นไปอย่างแพร่หลายและรวดเร็ว พรรคได้ร่วมกับกองทหารเวียดนามของฝรั่งเศสที่ไม่ค่อยน่าไว้ใจซึ่งได้ทำการต่อต้านฝรั่งเศสด้วยเช่นกันนั้น การก่อเริบจึงได้ลุกลามอย่างรวดเร็วแต่ก็ถูกปราบปรามลงอย่างง่ายดาย ด้วยการลงโทษที่รุนแรง ห้อกและผู้นำคนอื่นได้ถูกจับกุมและประหารชีวิตและพรรคก็ไม่ได้กลับมามีความเข้มแข็งในเวียดนามอีกกลุ่มที่เหลืออยู่ได้ใช้สันติวิธีในการต่อสู้ ขณะที่กลุ่มอื่นๆนั้นได้หนีไปยัง
มณฑลยูนนาน ซึ่งพวกเขาได้อาวุธและฝึกซ้อมรบอยู่ที่นั้น ระหว่างยุค 1930 พรรคได้ถูกบดบังโดย
พรรคคอมมิวนิสต์อินโดจีน เวียดนามได้ถูกยึดครองโดย
ญี่ปุ่น ระหว่าง
สงครามโลกครั้งที่ 2 จากความวุ่นวายภายหลังการยอมแพ้ของญี่ปุ่นในปี
ค.ศ. 1945 พรรคชาตินิยมเวียดนามกับพรรคคอมมิวนิสต์อินโดจีนได้ร่วมกันต่อสู้เพื่อเอกราชของเวียดนามเป็นระยะเวลาสั้นๆ อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ความวุ่นวายได้หมดไป โฮจิมินห์ได้กวาดล้างกลุ่มทหารของพรรคชาตินิยมเวียดนามออกไปกลุ่มทหารคอมมิวนิสต์เวียดนาม ทำให้พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามกลายเป็นผู้ต่อต้านจักรวรรดินิยมอย่างไร้ผู้เทียมเท่า หลัง
สงครามอินโดจีนครั้งที่ 1สิ้นสุดลง เวียดนามได้ถูกแบ่งแยกเป็นสองส่วน ทางพรรคได้ย้ายไปอยู่
เวียดนามใต้ ภายหลังเหตุการณ์
ไซ่ง่อนแตกแล้ว พรรคได้ย้ายไปยังนอกประเทศและยังเคลื่อนไหวเพื่อต่อต้านพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามในปัจจุบัน